‘เฉลิมชัย’ฟันธง!สรุปแผนช่วยเหลือเกษตรกร ปมเลิกใช้ 3 สารเคมี 22 พ.ย.นี้
15 พฤศจิกายน 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตนกำชับให้คณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด ซึ่งมีนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน สรุปผลมาตรการต่างๆในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 รองรับการออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562
ทั้งนี้ ขณะนี้คณะทำงานฯ รวบรวมและประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากทุกภาคส่วน เพื่อวางมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะในระยะเร่งด่วนที่อาจต้องชดเชย เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกรที่จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากสารอื่นแทนพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ระยะต่อไปจะส่งเสริมให้ใช้เครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตร ส่วนระยะยาวคือการหาสารชีวภัณฑ์ที่จะนำมาใช้ทดแทนสารเคมี โดยกรมวิชาการเกษตรรายงานว่าปัจจุบันสารชีวภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรมี 73 รายการ เป็นสารป้องกันกำจัดโรคและศัตรูพืชเท่านั้น ยังไม่มีสารป้องกันกำจัดวัชพืช
นายเฉลิมชัย ระบุว่า คณะทำงานฯ เห็นความสำคัญของการเร่งหาสารชีวภัณฑ์ในการป้องกันกำจัดวัชพืช ซึ่งต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่ตอนนี้ ยอมรับว่าการรับรองหรือขึ้นทะเบียนสารชีวภัณฑ์ป้องกันกำจัดวัชพืชยังมีความล่าช้า เนื่องจากมีขั้นตอนในการทดสอบประสิทธิภาพและความเป็นพิษตามหลักเกณฑ์ ซึ่งการจะเปิดให้ขึ้นทะเบียนได้ต้องแน่ใจว่า ไม่มีผลกระทบต่อพืชประธานหรือพืชหลักที่ปลูกในแปลง
นอกจากนี้ได้กำชับกรมวิชาการเกษตรให้ป้องปรามและควบคุมไม่ให้มีการจำหน่ายสารชีวภัณฑ์ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน ตลอดจนเข้าไปให้ความรู้แก่เกษตรกรไม่ให้หลงเชื่อเนื่องจากที่อ้างว่า ป้องกันกำจัดวัชพืชได้นั้น มีการผสมสารเคมีป้องกันกำจัดวัชพืชลงไป มอบนโยบายให้กรมวิชาการเกษตรเปิดกว้างการขึ้นทะเบียนสารชีวภัณฑ์ แต่ต้องทดสอบทางวิชาการแล้วว่า มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ด้าน ศ.รังสิต สุวรรณมรรคา ผู้เชี่ยวชาญด้านวัชพืชและวิทยาศาสตร์เกษตร ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จับกุมผู้ลักลอบขายสารป้องกันกำจัดวัชพืชโดยอ้างว่า เป็นสารชีวภัณฑ์ ว่า เป็นห่วงเกษตรกรที่ถูกหลอกลวงเนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีสารชีวภัณฑ์ใดที่มีฤทธิ์ในการป้องกันกำจัดวัชพืช แต่เมื่อมีกระแสต่อต้านการใช้สารเคมีจึงเป็นช่องว่างให้เกิดการหลอกลวง โดยนำพาราควอตหรือไกลโฟเซตผสมในสารที่แอบอ้าง
“พาราควอตและไกลโฟเซตยังมีความจำเป็นต่อเกษตรกรในการใช้ป้องกันกำจัดวัชพืช ซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายควรทบทวนมติ โดยกลับไปใช้มติเดิมที่ให้มีมาตรการจำกัดการใช้ อบรมให้เกษตรกรใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัย แต่หากยังดึงดันที่จะลงนามในประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิกใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด เกษตรกรจำนวนมากเดือดร้อนจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นแน่นอน เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นว่าภาครัฐมีมาตรการรองรับที่ชัดเจนอย่างไร อีกทั้งหากใช้สารเคมีชนิดอื่น แต่เกษตรกรใช้ไม่ถูกต้องก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ แก่ผู้บริโภคตามที่มีข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ” ศ.รังสิต กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี