วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
2ป๋าเชียร์แขก'วิคตอเรีย'คอตก!  โดนเพิ่มโทษจำคุก120ปี-ชดใช้สาวพม่า1.6 แสนบาท

2ป๋าเชียร์แขก'วิคตอเรีย'คอตก! โดนเพิ่มโทษจำคุก120ปี-ชดใช้สาวพม่า1.6 แสนบาท

วันอังคาร ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 13.04 น.
Tag : วิคตอเรีย วิคตอเรีย ซีเครท 2ป๋าเชียร์แขก จำคุก120ปี
  •  

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องพิจารณา 716 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีค้ามนุษย์ สถานบริการอาบอบนวด “วิคตอเรีย ซีเครท” คดีหมายเลขดำ คม.24/2561 ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมนัส หรือป๋านัส อ่วมทับ อายุ 49 ปี และนายสมชาย หรือป๋าต้น แสงอุดม อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นพนักงานเชียร์แขก ในความผิดฐานร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยบังคับขู่เข็ญ , เป็นธุระจัดหา ชักพาไปหญิงสาวอายุ 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 , พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 , พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 

คำฟ้องระบุว่า เมื่อเดือน ธ.ค. 2560 จนถึง 12 ม.ค. 2561 จำเลยทั้ง 9 กับพวกสมคบกัน โดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยตกลงวางแผนและแบ่งหน้าที่กันทำ เพื่อเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ผู้เสียหายเป็นหญิงสาวรวม 9 ราย ทั้งคนไทยและคนเมียนมา ซึ่งอายุ 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี โดยร่วมกันให้ผู้เสียหาย ทำการค้าประเวณีที่สถานอาบอบนวด วิคตอเรีย ถนนพระรามเก้า แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง เพื่อให้ผู้เสียหาย กระทำการค้าประเวณี ยอมรับการกระทำชำเราหรือยอมรับการกระทำอื่นใดเพื่อสนองความใคร่หรือสำเร็จความใคร่ทางกามารมณ์ของผู้อื่น อันเป็นการสำส่อนประพฤติตนไม่สมควร เพื่อสินจ้างหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อที่จำเลยกับพวกจะได้แสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีของผู้เสียหายที่เป็นเด็ก แม้ผู้เสียหายยินยอมก็ตาม


ซึ่งเดิมทั้งสองถูกฟ้องร่วมกับนายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก แจ้งฉาย อายุ 67 ปี ผู้จัดการสถานบริการอาบอบนวด กับพวกรวม 9 คน เมื่อเดือน เม.ย. 2561 แต่ชั้นพิจารณามีเฉพาะนายมนัสหรือป๋านัส และนายสมชายหรือป๋าต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายศรัทธาธรรม หรือป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการ กับพวกจำเลยที่เหลืออีก 7 รายให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี จึงแยกสำนวนฟ้อง

โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2561 เห็นว่านายมนัส หรือป๋านัส  และนายสมชาย หรือป๋าต้น มีความผิดฐานเป็นผู้ดูแลกิจการค้าประเวณี และเป็นธุระจัดหาฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 282 วรรคหนึ่ง วรรคสอง , 283 ทวิ วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 มาตรา 9 วรรคหนึ่ง วรรคสอง , 11 วรรคสอง  และฐานสมคบทำผิดค้ามนุษย์แสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีฯ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6,9 วรรคหนึ่ง วรรคสอง , 52 วรรคหนึ่ง วรรคสอง จำคุก คนละ 46 ปี โดยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกไว้ 22 ปี 12 เดือน

โดยคดีนี้ทั้งอัยการโจทก์และจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ให้ลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษด้วย วันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้งสองมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ในข้อหาที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำเลยทั้งสอง ฐานเป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการกิจการสถานค้าบริการประเวณีฯ ซึ่งมีบุคคลอายุ 15 แต่ไม่เกิน18 ปี จำคุก 2 ปี 6 เดือน นั้น ความผิดในส่วนนี้คู่ความไม่ได้ยื่นอุทธรณ์คดีส่วนนี้จึงถึงที่สุดแล้ว

ส่วนที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ว่า คดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวพันคดีของนายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย หรือป๋าติ๊ก ซึ่งเป็นผู้จัดการสถานบริการวิคตอเรียซีเครท กับพวกรวม 7 คน ที่พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ได้ยื่นฟ้องและศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดง คม. 53/2561 (คดีหมายเลขดำ คม. 26/2561) ที่เรียกว่าเหตุลักษณะคดี (เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วมีผลถึงจำเลยคนอื่นด้วย) โดยเมื่อศาลชั้นต้นยกฟ้องจำเลยทั้งเจ็ดในข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดค้ามนุษย์ด้วยการค้าประเวณี โดยลงโทษเฉพาะข้อหาเป็นธุระจัดหาบุคคลฯเพื่อสนองความใคร่และค้าประเวณี คดีของจำเลยทั้งสอง จึงต้องยกฟ้องในข้อหาดังกล่าวด้วย 

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การจะพิจารณานั้นก็ต้องดูรูปเรื่องทั้งหมด ซึ่งคดีของจำเลยทั้งสอง อัยการโจทก์ก็ได้บรรยายพฤติการณ์ฟ้องและนำสืบพยานหลักฐานจนฟังได้ว่า ร่วมกันกระทำผิดฐานโดยสมคบตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีและเป็นธุระจัดหาบุคคลฯ สนองความใคร่ผู้อื่น 

และที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้พิจารณาลงโทษสถานเบาหรือรอลงโทษนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสองที่โจทก์ฟ้องนั้นได้กระทำผิดต่อบุคคลจำนวนมาก ซึ่งเป็นการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลอายุ 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี จากการค้าประเวณีอีกทั้งยังเป็นการกระทำที่อุกอาจ ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจึงฟังไม่ขึ้น อุทธรณ์ของอัยการโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิ่มโทษรายกระทงเป็น 2-10 ปี (จากที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา กระทงละ 2-5 ปี) โดยข้อหาที่โทษหนักที่สุดคือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีและเป็นธุระจัดหา บุคคลอายุ 15 แต่ไม่เกิน 18 ปีฯ จำคุก 7 กระทงๆละ 10 ปี เป็นจำคุก 70 ปี โดยรวมกับโทษ ฐานเป็นธุระจัดหาบุคคลให้ค้าประเวณีโดยขู่เข็ญฯ และข้อหาอื่นอีกหลายกระทง 

รวมจำคุกนายมนัส หรือป๋านัส และนายสมชาย หรือป๋าต้น ทั้งสิ้น 120 ปี จำเลยรับสารภาพเหลือโทษจำคุก 60 ปี โดยรวมกับที่ศาลชั้นต้นลงโทษฐานเป็นผู้ดูแลสถานค้าประเวณีฯ 2 ปี 6 เดือน เป็นจำคุก 62 ปี 6 เดือน แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงแล้วให้จำคุกสูงสุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 เป็นจำคุกคนละ 50 ปี และพิพากษาให้จำเลยทั้ง 2 ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายสองรายสัญชาติเมียนมาคนละ 80,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับจากวันฟ้อง 21 เม.ย. 2561 (เดินศาลชั้นต้นยกคำขอชดใช้ค่าสินไหมทดแทน) นอกจากที่แก้ให้เป็นตามศาลชั้นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาที่โทษสูงขึ้น นายมนัสถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ หน้าตาเคร่งเครียด ญาติๆ ต่างแสดงความเสียใจ หมดเรี่ยวแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับ ป๋าติ๊ก ผู้จัดการสถานบริการนั้นได้ถูกยื่นฟ้อง 2 คดี ซึ่งศาลมีคำพิพากษาไปแล้วตั้งแต่ปี 2561 จำคุก 2 สำนวนเป็นเวลาทั้งสิ้น 18 ปี 16 เดือน โดยยกฟ้องในข้อหาสมคบค้ามนุษย์ฯซึ่งคดีอยู่ระหว่างอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์พร้อมกับจำเลยร่วมคนอื่นๆ

ส่วนนายกําพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล เจ้าของสถานบริการวิคตอเรียฯ ที่อัยการมีคำสั่งฟ้องว่าร่วมกระทำผิดด้วยนั้น ปัจจุบันยังติดตามตัวมายื่นฟ้องไม่ได้ ซึ่งคาดว่าจะหลบหนีคดีโดยพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ขอศาลออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งมีอายุความติดตามตัวมาฟ้องคดีภายใน 20 ปี.

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ชำแหละ 4 ข้อ 'ทักษิณ'โชว์วิสัยทัศน์! 'หลงยุค หลงตัวเอง ขายฝัน แก้ตัว'

'ยุน ซอกยอล'อดีตปธน.เกาหลีใต้ติดคุกอีกรอบ ศาลอนุมัติหมายจับหวั่นหลักฐานถูกทำลาย

'วัส ติงสมิตร'ชี้'หมอ-พยาบาล-จนท.ราชทัณฑ์'ไม่รอด เตรียมรับวิบากกรรม ป่วยทิพย์ชั้น 14

นักธุรกิจการเมืองทำรัฐล้มเหลว! 'สมชาย'ชี้คอร์รัปชันเชิงนโยบาย บ่อนทำลายพลังอำนาจแห่งชาติ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved