เรียกเก็บ3สารพิษ
ราชกิจจาฯประกาศ
ขีดเส้น15วันส่งคืน
นัดถกสารวัตรเกษตร
ราชกิจจาฯเผยแพร่ประกาศกรมวิชาการเกษตร แจ้งปริมาณการครอบครอง พร้อมส่งมอบคืนบริษัทภายใน 15 วัน ด้าน “มนัญญา”เรียก
ประชุมสารวัตรเกษตร 22 พฤศจิกายน แจงแนวทางปฎิบัติหลังแบน 3 สาร ย้ำให้เร่งประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการ เกษตรกรให้เข้าใจประกาศฉบับใหม่ ป้องกันถูกลงโทษ
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งกรมวิชาการเกษตร ที่ 1511/2562 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เรื่อง การดำเนินการกับวัตถุอันตราย ชนิดที่ 4 ที่กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 41 มาตรา 43 และมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 ซึ่งอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ออกคำสั่งไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 วัตถุอันตรายตามคำสั่งนี้ หมายความว่า วัตถุอันตรายไกลโฟเซต ไกลโฟเซต -เซสควิโซเดียม ไกลโฟเซต-โซเดียม ไกลโฟเซต-ไดแอมโมเนียม ไกลโฟเซต-ไตรมีเซียมไกลโฟเซต-โพแทสเซียม ไกลโฟเซต โมโนเอทิลแอมโมเนียม ไกลโฟเซต-โมโนแอมโมเนียม ไกลโฟเซต ไอโซโพรพิลแอมโมเนียม คลอร์ไพริฟอส คลอร์ไพริฟอส - เมทิล พาราควอต พาราควอตไดคลอไรด์และพาราควอตไดคลอไรด์ [บิส (เมทิลซัลเฟต)] ที่กรมวิชาการเกษตรรับผิดชอบ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย ออกตามความในมาตรา 18 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ข้อ 2 ให้วัตถุอันตราย ตามข้อ 1 ที่อยู่ในความครอบครอง ก่อนวันที่ประกาศกำหนดให้วัตถุอันตรายนั้น เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ต้องแจ้งปริมาณที่มีไว้ในครอบครอง ภายใน 15 วัน นับแต่ประกาศกำหนดให้วัตถุอันตรายดังกล่าว เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 มีผลบังคับใช้แล้ว ดังนี้
2.1 กรุงเทพมหานคร แจ้งที่ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร 2.2 ภูมิภาคแจ้งที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 จ.เชียงใหม่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 จ.พิษณุโลก สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จ.ขอนแก่น สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 จ.อุบลราชธานี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.ชัยนาท สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จ.จันทบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 จ.สงขลา
ข้อ 3 ให้ผู้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย ตามข้อ 2 ส่งมอบวัตถุอันตรายดังกล่าว ที่อยู่ในความครอบครอง ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่แจ้งปริมาณการครอบครอง ดังนี้ 3.1 กรุงเทพมหานคร ส่งมอบที่ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร 3.2 ภูมิภาคส่งมอบที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 จ.เชียงใหม่ สำนักวิจัยและพัฒนา สำนักวิจัยและพัฒนำกำรเกษตรเขตที่ 2 จ.พิษณุโลก สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จ.ขอนแก่น สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 จ.อุบลราชธานี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.ชัยนาท สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 จ.จันทบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 จ.สุราษฎร์ธานีสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 จ.สงขลา คำสั่งนี้ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2562
หลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาประกาศคำสั่งกรมวิชาการเกษตร แจ้งการครอบครองและการส่งมอบสารเคมี 3 ชนิดคือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติยกเลิกใช้ โดยผู้ที่ครอบครองต้องแจ้งกรมวิชาการเกษตรภายใน 15 วัน หลังประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ธันวาคม 2562 จากนั้นต้องส่งมอบภายใน 15 วัน เพื่อทำลาย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า เหลือเวลา 13 วันที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม จะลงนามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการ ร้านจำหน่าย และเกษตรกรที่ครอบครอง 3 สารทราบวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง จึงเรียกประชุมสารวัตรเกษตรและอาสาสมัครสารวัตรเกษตรทั่วประเทศวันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น. เพื่อสร้างความเข้าใจข้อควรปฏิบัติหลังมีประกาศยกเลิกใช้สารเคมี 3 ชนิด โดยก่อนวันที่ 1 ธันวาคมต้องไปให้คำแนะนำผู้ประกอบการ ร้านจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตรให้ส่งคืนบริษัท ทั้งนี้ ที่เป็นห่วงที่สุดคือ เกษตรกร ไม่ต้องการให้ถูกจับหรือปรับ เนื่องจากทำผิดกฎหมาย แม้โดยประมาทก็มีโทษปรับสูงไม่เกิน 800,000 บาท ถ้าจงใจฝ่าฝืนโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รมช.เกษตรฯกล่าวต่อว่า ขณะนี้กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร (สคว.) สั่งให้ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร (สวพ.) 8 เขตทั่วประเทศแจ้งสตอกล่าสุดของสารพาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสภายในพื้นที่ส่งให้ สคว.เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งให้จัดทำแผนรับแจ้งและเก็บรวบรวม เพื่อนำเสนอคณะทำงานของกระทรวงฯ กำหนดงบประมาณต่อไป
สำหรับค่าทำลายสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตรายเป็นความรับผิดชอบของผู้ครอบครองตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย มาตรา 52 วรรคท้าย หลังประกาศยกเลิก 3 สารมีผลบังคับใช้ กรมวิชาการเกษตรต้องดำเนินการ เพื่อไม่ให้มีการนำเข้า ส่งออก ผลิต นำผ่าน และครอบครองอย่างเข้มงวด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี