"เฉลิมชัย"แจงจุดยืน3สารพิษ พร้อมรับฟังแก้ไขปัญหาทุกฝ่าย ไม่ตัดสินด้วยอารมณ์ ระบุไม่ต้องคุย"รมช.มนัญญา"เพราะมอบหมายไปแล้ว ส่วนม็อบเกษตรกรชุดดำระดมพลพรุ่งนี้บุกทำเนียบฯ-27พ.ยไปกระทรวงอุตฯเสนอขอเกษตรหนุนกลับไปใช้มติเดิม จำกัดการใช้สาร
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ รับฟังปัญหาจากแกนนำเกษตรกรกว่า 20 คน ที่เป็นตัวแทนกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด ได้รับผลกระทบหากแบน 3 สาร พร้อมยื่นหนังสือจาก 19 องค์กรเกษตรกร แต่งชุดดำคัดค้านการแบน 3 สาร โดยให้กลับไปใช้มติเดิม คือ มาตรการกำจัดการใช้สารเคมีวัตถุอันตรายทางเกษตร โดยวันที่ 26 พ.ย.จะเข้ายื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล และวันที่ 27 พ.ย.ไปรวมตัวที่กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อรอฟังมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย
โดย นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ได้รับบัญชาจากนายกฯ ให้มารับฟังรวบรวมปัญหาเสนอท่านนายกฯ เพราะกรณี 3 สาร เป็นปัญหามากว่า 2 เดือน ที่มีความเห็นแตกต่างกัน ทั้งนี้ ในส่วนหนึ่งต้องฟังเหตุผลกันเพื่อให้ทุกฝ่ายมีผลกระทบน้อยที่สุด ในเรื่องได้มอบให้คณะทำงานของกระทรวงฯ ไปรวบรวมปัญหาทุกด้าน ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร จะเป็นตัวเลขกว่า 3 หมื่นล้านบาทหรือไม่ กำลังให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรฯ ไปทำตัวเลขมาเสนอต้องดูผลกระทบด้านอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ คงไม่ต้องคุยกับ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ โดยตนได้เรียนตั้งแต่ต้นให้ฟังรอบด้าน และได้มอบหมายให้ รมช.เกษตรฯ ไปดำเนินการ ไม่ว่าอย่างไรมีผลกระทบหมด เวลามีประเด็นต้องมีเหตุผลสนับสนุน
"จุดยืนผมคือต้องแก้ไขปัญหาอะไรทุกด้านที่เกิดขึ้นมีหน้าที่รับฟังปัญหาเกษตรกร ประชาชน เพราะเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ต้องฟังทุกฝ่าย ไม่ใช่อารมณ์ตัดสิน" นายเฉลิมชัย กล่าว
ด้าน นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวว่า เกษตรกรมีความเดือดร้อนจากทำงานของกระทรวงเกษตรฯ ต่างอยู่ไกลปืนเที่ยง อยู่ๆ ก็จะให้คืนสารเคมีที่เสียเงินซื้อมา ในวันที่ 1 ธ.ค.และยังขู่ว่ามีโทษหนักติดคุก ปรับเป็นแสนเป็นล้าน คนมีสารอยู่ในมือต้องส่งคืน หากมีไว้จะผิดกฎหมาย เมื่อเกษตรกรซื้อมาเพื่อใช้ และกลายมาผิดกฎหมายให้ส่งคืนร้านค้า จะได้เงินคืนหรือไม่ เป็นความวิตกกังวล เกษตรกร และร้านค้าต่างๆ ในชุมชน เป็นปีที่มีสารไปอยู่ในร้านมากมายมหาศาล เพราะเกิดภัยแล้ง เกษตรกรไม่ซื้อไปใช้ ส่วนที่มีอยู่ในมือจะให้เททิ้งไปได้หรือไม่
ทั้งนี้ เกษตรกรขอเรียกร้องให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้สาร ที่ผ่านมาอบรมเกษตรกร 4 แสนคน แต่หยุดการอบรมไปแล้ว จากเป้าอบรม 1 ล้านคน แต่ปรากฏว่า คณะกรรมการวัตถุอันตราย กลับมติวันที่ 22 ต.ค.เป็นแบน 3สาร ซึ่งเกษตรกรรับไม่ได้ เป็นการกระทำผิดของกระทรวงเกษตรฯ เพราะ รมว.เกษตรฯ เซ็นหนังสือไปให้แบน 3 สาร เกิดผลกระทบต่อเนื่อง จนเกษตรกรที่มีสารกลายเป็นคนผิดต้องติดคุก ถ้ามีไว้โดยประมาทก็โดนปรับเป็นล้านบาท ต่างตกอกตกใจ ทั้งที่ซื้อมาด้วยเงินตัวเอง
สำหรับวันพรุ่งนี้ พี่น้องเกษตรกรมาแสดงพลังจากทั่วประเทศกว่า 5 พันคน ไปทำเนียบรัฐบาล สมาพันธ์ต่างๆ โดยไม่ต้องการให้ยืดแค่ 6 เดือนเท่านั้น จะแก้ปัญหาพี่น้องเกษตรกรได้ ต้องไปใช้มติเดิม คือ จำกัดการใช้ โดยม็อบเกษตรกรจะแต่งชุดดำเดินไปทำเนียบฯ และวันที่ 27 พ.ย.ไปกระทรวงอุตสาหกรรม รอฟังมติจากที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ถ้ายังแบน 3 สาร ผู้บริโภคไม่ได้ประโยชน์ เพราะยังบริโภคสิ่งที่เป็นอันตราย เกษตรกรยังใช้สารเคมีอีก 200 - 300 ชนิด ที่มีอยู่ในท้องตลาด และจะนำเข้ามาใหม่อีกไม่รู้กี่ชนิด ดังนั้น เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย มัน ปาล์ม ยาง ข้าวโพด จะเดินหน้าคัดต้านการแบน 3 สารจนถึงที่สุด เพื่อให้ได้ทำมาหากินปกติ ระหว่างนี้มีเทคโนโลยีใหม่ก็นำเข้ามาได้ โดยไม่ต้องแบนสาร หากจะพูดถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคคือคนทั้งหมด เกษตรกรอย่างไรก็สัมผัสสารมากกว่า ซึ่งผมใช้สาร ผมก็ไม่เคยเป็นเนื้อเน่า ถ้ามีมติแบนจริง สิ่งเกิดขึ้นสารเคมี ยังมีใช้กว่า 100 ประเทศ เราก็ยังบริโภคของปนเปื้อนจากสินค้านำเข้า ดังนั้น การอ้างความไม่ปลอดภัยที่คุมเครือ การอ้างคนป่วยมากขึ้น จริงๆ มาจากยาฆ่าแมลง ไม่ใช่พาราควอต และไกลโฟเซต แต่กระทรวงเกษตรฯ กลับมาทำร้ายเกษตรกรเสียเอง
ขณะเดียวกัน ก็ขอให้ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และกลับไปใช้มาตรการจำกัดการใช้ฯ ตามข้อเสนอของเกษตรกรกว่า 1.5 ล้านราย ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง เกือบ 2 ล้านล้านบาท หากยังมีมติแบน จะไปฟ้องศาลเอาผิดกับผู้ลงนามทุกราย ทุกกรม ทุกกระทรวง และนักวิชาการอิสระ พร้อมแบนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ รมว.เกษตรฯ กลับคำไม่ทำตามเกษตรกรเรียกร้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี