"กาฬสินธุ์"สืบสานแนวพระราชดำริ ยกระดับทฤษฎีใหม่ในครัวเรือนสู่การร่วมกันดำเนินกิจการในชุมชน ชูสหกรณ์หนองเลิงเปือย เป็นต้นแบบสร้างชีวิตและสังคมที่มีความสุข
นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ เปิดเผยถึงแนวทางการพัฒนาโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่อำเภอร่องคำและอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติแหล่งน้ำโดยประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริ "แก้มลิง" เป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ในแนวทางที่ยั่งยืน โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 ในพื้นที่ 2 ส่วน ประกอบด้วย พื้นที่รับประโยชน์โดยตรง รวม 7,778 ไร่ 610 ครัวเรือน และพื้นที่ขยายผลภายในเขตลุ่มน้ำ 1,191 ไร่ 112 ครัวเรือน
สำหรับแนวทางดำเนินการได้ประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการเก็บข้อมูลในระดับเครือเรือนและนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียด รวมถึงจำเป็นต้องทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการคิดวางแผนในฐานะความเป็นเจ้าของร่วมกัน โดยปิดทองหลังพระฯ ได้ทำหน้าที่ในการประสานการทำงานกับทุกภาคส่วน และเน้นให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมคิดร่วมทำและร่วมเป็นเจ้าของ ที่สำคัญคือการยกระดับการรวมกลุ่มไปสู่การบริหารจัดการในรูปแบบสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้เกิดระบบที่สมาชิกสามารถช่วยเหลือตนเอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกันพ้นจากสภาวะหนี้สินและมีทุนในการประกอบอาชีพ
ทั้งนี้ การยกระดับการรวมกลุ่มทำให้เกิดสหกรณ์การเกษตรแก้มลิงหนองเลิงเปือย จำกัด โดยการจัดการของคนในชุมชน โดยมีสหกรณ์จังหวัด ปิดทองหลังพระฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินงาน โดยในปีงบประมาณ 2562 สามารถสร้างรายได้กว่า 1,590,000 บาท
ด้าน นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า การเกษตรเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของประเทศไทย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงสอนเรามาไว้นานแล้วว่า ประเทศไทยนั้นจะต้องเป็นประเทศเกษตรกรรมและเป็นแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงดูโลกใบนี้ โดยต้องทำเกษตรแบบมีความรู้ หากย้อนพิจารณาตามที่ทรงสอนไว้เราพึ่งจะเริ่มทำอย่างจริงจังมาในระยะเวลาไม่นานนี้เอง ดังนั้นจังหวัดกาฬสินธุ์จะต้องเดินตามแนวพระราชดำริ ส่งเสริมการทำเกษตรอย่างมีความรู้ "วันนี้เรามีปิดทองหลังพระเข้ามาร่วม สหกรณ์เกิดขึ้นได้ เป็นเพราะการระเบิดจากข้างในซึ่งเป็นความต้องการของชาวบ้าน หลังจากนั้น โครงการเข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยง สอนวิธีการจับปลา"
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เมื่อสหกรณ์การเกษตรแก้มลิงหนองเลิงเปือย จำกัด สามารถตั้งและดำเนินการได้แล้ว จำเป็นต้องเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ โดยจะขอมาเรียนรู้สิ่งที่ประสบความสำเร็จเพื่อนำไปขยายผลต่อให้กับจังหวัดกาฬสินธุ์ นอกจากนั้นในมิติด้านการท่องเที่ยวอาจเป็นส่วนเสริมให้เกิดการพัฒนาได้เพิ่มเติม หนองเลิงเปือยสามารถแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตชุมชนในระดับหมู่บ้าน วิถีทางการเกษตรเพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่งได้ รวมถึงยังควรต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งหากยกระดับได้ทั้งหมดเชื่อว่าจะก่อให้เกิดรายได้ไม่น้อยกว่า 100,000 บาทต่อคนต่อปี ขณะที่ปัจจุบันอยู่ในระดับประมาณ 70,000 บาทต่อคนต่อปี เป็นลำดับที่ 74 ของประเทศ
"ขอให้สหกรณ์เป็นหัวขบวนหรือหัวรถจักร หมายถึงสามารถวิ่งไปได้ตามเส้นทาง วันนี้ท่านรอดและสามารถไปข้างหน้าได้แล้ว แต่จะไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะสังคมไทยเมื่อส่วนใหญ่สามารถอยู่ได้ สังคมส่วนย่อยก็อยู่ได้อย่างมีความสุข ดังนั้นจะหาโบกี้มาให้ ท่านช่วยลากเขาเหล่านั้นไปด้วย สร้างชีวิตและสังคมที่มีความสุขไปด้วยกันตามแนวทางพระราชดำริที่ประสบความสำเร็จ" ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าว
ขณะที่ นายนุกุล อังคนิต ประธานสหกรณ์การเกษตรแก้มลิงหนองเลิงเปือย จำกัด ระบุว่า จากอดีตที่ผ่านมาได้มีประสบการณ์เป็นอาสาสมัครพัฒนาในพื้นที่ ทำให้เห็นสภาพปัญหาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการผลิตสินค้าการเกษตรที่ยังมีจุดอ่อนทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ อย่างไรก็ตามสหกรณ์มีตลาดที่สำคัญในการรับซื้อผลผลิต อาทิ ห้างแม็คโคร ห้างบิ๊กซี หรือโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เป็นต้น ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีการวางแผนการผลิตที่ยกระดับสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับมีปริมาณผลผลิตที่สามารถขายได้ตลอดทั้งปี
จุดเด่นเมื่อมีการรวมกลุ่มกันในรูปแบบสหกรณ์ที่มีสมาชิกรวม 63 คน นับได้ว่าเป็นมุดหมายที่ดีในการขับเคลื่อนต่อไปในอนาคตบนแนวทางที่ยั่งยืน เพราะเป็นการร่วมกันของสมาชิกในการลงทุนซึ่งจำเป็นต้องมีการทำธุรกิจกับสหกรณ์ นำไปสู่ผลกำไรที่สามารถนำกลับมาดูแลสมาชิกและการแบ่งปันให้กับสังคมในการจัดทำสวัสดิการ และในปีนี้เป็นปีแรกที่มีการปันผลให้กับสมาชิก ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้ สมาชิกจะให้ความสำคัญกับการดำเนินงานในรูปแบบสหกรณ์มากยิ่งขึ้น "กาฬสินธุ์โชคดีที่มีน้ำมีดินที่อุดมสมบูรณ์ สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนวิถีที่เคยชินของคนให้หันมาเห็นประโยชน์ในการมีส่วนร่วมกับสหกรณ์ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทุกคน" นายนุกุล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี