ทลายโอเกะศรีราชา‘ค้ากาม’สาวลาว แฉเวียนส่งสินค้ามนุษย์ทั่วเครือข่ายเมืองชล

ทลายโอเกะศรีราชา‘ค้ากาม’สาวลาว แฉเวียนส่งสินค้ามนุษย์ทั่วเครือข่ายเมืองชล

วันพฤหัสบดี ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 08.49 น.

ทลายโอเกะศรีราชา‘ค้ากาม’สาวลาว แฉเวียนส่งสินค้ามนุษย์ทั่วเครือข่ายเมืองชล

28 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ชลบุรี ว่า เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปก ครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และนายนิติ วิวัฒน์วานิช นายอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง จากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “ศรีราชาคลีนนิ่ง” ทลายแก๊งค้ามนุษย์ในร้านคาราโอเกะพื้นที่ อ.ศรีราชา  


สืบเนื่องจากศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ได้รับข้อมูลจากมูลนิธิรณสิทธิ์ ว่าสถานประกอบการชื่อ “ร้านตอพยอม”  ตั้งอยู่ริมถนนชลบุรี-กรุงเทพ ถนนหลวงหมาย 7 ชลบุรี-พัทยา อ.ศรีราชา มีพฤติการณ์รับเด็กสาวจาก สปป.ลาว มายังประเทศไทย เพื่อแอบแฝงขายบริการทางเพศ และแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี  ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ จึงส่งพนักงานฝ่ายปกครองเป็นสายลับ ร่วมกับมูลนิธิรณสิทธิ์ เข้าสืบสวนข้อเท็จจริงและเฝ้าสังเกตการณ์สถานประกอบการดังกล่าว

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เปิดเป็นร้านคาราโอเกะ ภายในร้านมีเก้าอี้โซฟาไว้ให้ลูกค้านั่งรอใช้บริการ และไว้สำหรับพนักงานหญิงของร้านนั่งรอต้อนรับลูกค้า เมื่อเข้าตรวจสอบด้านในพบลูกค้าชายเข้ามาใช้บริการ และพบพนักงานหญิงบริการ ทำหน้าที่นั่งปรนนิบัติ ร่วมดื่มกินและขับร้องเพลงกับลูกค้า

จากการพูดคุยกับพนักงานหญิงของร้าน ทราบว่า ร้านตอพะยอมเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าลูกค้าคนสุดท้ายจะเลิกใช้บริการ โดยที่พนักงานหญิงของร้านทุกคนต้องขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ ซึ่งภายในร้านถูกดัดแปลงห้องแบ่งเป็นห้องเล็กๆ สำหรับร่วมประเวณี 6 ห้อง โดยจะมีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนหญิงบริการไปยังเครือข่ายร้านคาราโอเกะต่างๆในพื้นที่ จ.ชลบุรี และใกล้เคียง

ขณะเข้าทำการสืบสวน สายลับฝ่ายปกครองพิจารณาจากสรีระรูปร่างหน้าตาพนักงานหญิงบริการของร้านแล้ว น่าเชื่อได้ว่าร้านตอพยอม มีพนักงานหญิง 2 ราย น่าจะเป็นบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี พร้อมสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมุติ) ถึงการขายบริการทางเพศ น.ส. เอ ได้บอกว่า “คิดค่าบริการทางเพศครั้งละ 1,500 บาท โดยตนจะได้ส่วนแบ่งจากการขายบริการทางเพศครั้งละ 700 บาท ทางร้านจะได้รับส่วนแบ่งครั้งละ 800 บาท รวมค่าห้องแล้ว”

ส่วน น.ส บี (นามสมมุติ) บอกว่า มาจาก สปป.ลาว  ได้รับการชักชวนจากเพื่อนที่เคยมาทำงานที่ร้านแห่งนี้ ชวนมาทำงานร้านอาหารและเสิร์ฟเครื่องดื่มเท่านั้น แต่พอมาถึงร้าน จึงจะรู้ว่าต้องออกขายบริการทางเพศด้วย ถ้าตนรู้แต่แรกว่าจะต้องมาขายบริการทางเพศตนจะไม่เดินทางมาเลย และ น.ส.บี บอกว่าตนได้ถูกเปิดบริสุทธิ์ ที่ร้านตอพยอม ในราคา 30,000 บาท  ปัจจุบันคิดค่าบริการทางเพศ ครั้งละ 1,300 บาท โดยตนจะได้ส่วนแบ่งจากการขายบริการทางเพศครั้งละ 500 บาท ทางร้านจะได้รับส่วนแบ่งครั้งละ 800 บาทรวมค่าห้องแล้ว”

เมื่อสายลับสืบสวนจนกระทั่งชัดแจ้งแล้ว ว่าร้านตอพยอม มีพฤติการณ์แสวงหาประโยชน์มิชอบด้วยการแอบแฝงค้าประเวณีเด็กหญิงอายุไม่ถึง 18 ปี จึงส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมเข้าดำเนินการ

ทันทีที่ชุดจับกุมเข้าไปถึง พบนักเที่ยวกำลังเข้ามาใช้บริการ จึงสั่งให้ยุติกิจกรรมทุกอย่าง และเชิญตัวลูกค้าผู้มาใช้บริการออกนอกพื้นที่  สามารถควบคุมหญิงให้บริการค้าประเวณีได้ 5  คน เป็นคนสัญชาติไทย  2 คน และสัญชาติลาว 3 คน  ในจำนวนนี้เป็นหญิงสัญชาติลาว คาดว่าเป็นเยาวชนหญิง  จำนวน 2  คน  โดยมีนางสาววชิราภรณ์ วชิรไชยนันท์  อายุ 22 ปี รับเป็นเจ้าของร้าน ขณะตรวจเข้าตรวจสอบพบสมุดบัญชีขึ้นรอบขายบริการ เจลหล่อลื่น ยาคุมกำเนิด และถุงยางอนามัยเป็นจำนวนมาก

เบื้องต้นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ได้แจ้งข้อหากับเจ้าของร้านตอพยอม ฐาน “เป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี , เป็นผู้ดูแลหรือผู้จัดการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี , เป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม , ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ทั้งนี้ หลังจากนี้จะได้นำพนักงานหญิง ทั้ง 5 คน ทำการสัมภาษณ์เบื้องต้นเพื่อประกอบบันทึกจับกุม และนำข้อมูลไปสู่การคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยสหวิชาชีพ รวมทั้งให้ความคุ้มครองและฟื้นฟูผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ต่อไป  ซึ่งหากพยานหลักฐานชัดเจนว่าพนักงานหญิงบริการในร้านตอพยอม อายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ผู้ถูกจับจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานค้ามนุษย์ เพิ่มเติมด้วย

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทยที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง  เพราะเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง  การถือเอามนุษย์ซึ่งมีชีวิตจิตใจเป็นสินค้าในการซื้อขายแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ เป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ  ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ขจัดการค้ามนุษย์  หากพบเห็นเบาะแส หรือการกระทำที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top