เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 28 พ.ย.62 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า นำโดยนายอาทิตย์ เพ็ชร์กุล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า และเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. นำกำลังเจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนสังกัด กองร้อย อส.อำเภอตะกั่วป่า ที่ 7 จำนวน กว่า 10 นาย เข้าตรวจสอบห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณหมู่ที่ 9 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านที่ทำการปกครองอำเภอตะกั่วป่า ว่ามีบุคคลมีพฤติการณ์ลักลอบเสพและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์,ยาบ้า)และมีการมาเช่าที่พักอาศัยอยู่เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า เดินทางไปถึงบริเวณโรงแรมห้องพัก ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าดูพฤติกรรม และได้พบเห็นบุคคลมีลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งเดินเข้าไปที่ห้องพักที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดต่อผู้ดูแลกิจการห้องพักดังกล่าวขอเข้าไปทำการตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุและได้รับความยินยอมให้เข้าทำการตรวจสอบ จากนั้นจึงเข้าตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุ พบผู้ต้องหาอยู่ในห้องพักดังกล่าว จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจค้น โดยได้แสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และใช้อำนาจตามตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ. 2519 มาตรา 14(1)
จากการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า พบมีนายจิราวัฒน์ คำผา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/2 หมู่ที่ 6 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และนางสาวหยาดฟ้า ผลแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146/3 หมู่ที่ 6 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา และทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในห้องพบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เม็ดสีส้ม ด้านหนึ่งผิวเรียบ อีกด้านหนึ่งพิมพ์อักษร WYจำนวน 78 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบสไลด์เปิดปิด และยาไอซ์ จำนวน 6.92 กรัม อุปกรณ์การเสพฯ ขวดแก้วบรรจุดินประสิวและเศษโลหะพร้อมสายชนวนดัดแปลงเป็นวัตถุระเบิดจำนวน 1 ชิ้น โทรศัพท์มือถือ ซึ่งทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้มาเปิดห้องพักเพื่อรอติดต่อจากลูกค้ายาเสพติด เมื่อมีการติดต่อมาจะนำยาบ้า และยาไอซ์ไปส่งให้กับลูกค้ายาเสพติดตามจุดนัดพบต่างๆตั้งแต่ อ.ท้ายเหมือง – อ.ตะกั่วป่า โดยยาบ้า และยาไอซ์จะรับมาจากเครือข่ายรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่และนำมาแบ่งขายให้กับผู้ลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น
โดยการจับกุมได้ในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านที่ทำการปกครองอำเภอตะกั่วป่า ว่ามีบุคคลมีพฤติการณ์ลักลอบเสพและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์,ยาบ้า) ในพื้นที่ ม.9 ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้วางแผนทำการจับกุม ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเมื่อเจ้าหน้าที่ฯไปซุ้มดูได้พบเห็นบุคคลมีลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งเดินเข้าไปที่ห้องพักที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดต่อผู้ดูแลกิจการห้องพักดังกล่าวขอเข้าไปทำการตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุและได้รับความยินยอมให้เข้าทำการตรวจสอบ
จากนั้นจึงเข้าตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุ พบผู้ต้องหาอยู่ในห้องพักดังกล่าว จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจค้น โดยได้แสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.และใช้อำนาจตามตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ. 2519 มาตรา 14(1) เข้าไปในเคหสถาน หรือสถานที่เพื่อตรวจค้นเมื่อมีเหตุอันควรสงสัย ตามสมควรว่ามีบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิด
จากการตรวจค้นพบของกลางที่ใช้ในการกระทำผิดกฎหมายข้างต้น ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเป็นของตน สอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่ารับยาไอซ์และยาบ้า มาจากเพื่อนทางเฟสบุ้ค จากเครือข่ายรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยโอนเงินค่ายาเสพติดเข้าบัญชี เพื่อมาจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่อำเภอท้ายเหมือง และอำเภอตะกั่วป่า โดยจำหน่ายยาไอซ์ในราคากรัมละ 1,000 - 1,500 บาท และยาบ้าในราคาเม็ดละ 100 บาท
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ ผู้ถูกจับรับทราบและเข้าใจสิทธิ์ของตนดีแล้ว จากนั้นจึงได้ทำการจับกุมพร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุมที่กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่า ที่ 7 พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี