ศาลชั้นต้นปัตตานีคืนความเป็นธรรมให้กับ5ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงวางระเบิดตู้ATMหลังจากมีการไต๋สวนไม่พบความเชื่อมโยง
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการดำเนินการต่อสู้คดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดปัตตานีหลังจากพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีสั่งฟ้อง6ผู้ต้องหาที่ทางการกล่าวหามีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดตู้ATMหลายแห่งในเขตตัวเมืองปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่20เดือนพฤษภาคม พศ.2561 จนกระทั่งเมื่อวันที่24พฤษภาคม2561เจ้าหน้าสามารถจับกุม นายมะยูโซะ มะแซ อายุ29ปี และสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายมูฮำมัด แวอูเซ็ง อายุ26 ปี 2.นายซุไฮมี มะแซ อายุ30ปี 3.นายอิสมาแอล อาแซ อายุ29ปี บ้ 4.นายอาแว หะยีเด็ง อายุ29ปี 5.นายนะหาดี อาแซ อายุ33ปี ซึ่งบุคลทั้งหกคนได้ถูกพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา3เป็นโจทย์สั่งฟ้องนายมะยูโซะ มะแซ กับพวก คดีหมายเลขดำที่3674/2561 ลงวันที่19พฤศจิกายน2561ที่ผ่านมาในข้อหา”ร่วมกันก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการใดอันก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตเพื่อให้เกิดความเสียหาย
ล่าสุดนายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมปัตตานี ได้เปิดเผยว่าศาลอาญาชั้นต้นปัตตานีได้คืนความเป็นธรรมให้กับ 5 ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง และพิพากษาให้ประหารชีวิตนายมะยูโซะ อาแซ อายุ29ปี แต่ด้วยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นซักถามและชั้นสอบสวน จึงเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ศาลจึงลดโทษ1ใน3 คงเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต จากนั้นศาลให้จำผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในระหว่างอุทธรณ์ของเจ้าพนักงานอัยการและฝ่ายจำเลยต่อไป
ส่วนประเด็นการต่อสู้คดีนั้นทางทนายได้เปิดเผยว่าผู้ต้องหาจำเลยที่1นายมะยูโซะ อาแซ ที่ถูกพิพากษาโทษประหารชีวิตและลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตนั้น ได้ให้การรับสารภาพในชั้นซักถามในระหว่างถูกควบคุมตัวที่ค่ายทหาร และให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนหลังถูกส่งตัวจากค่ายทหารมาดำเนินที่โรงพัก สภ.เมืองปัตตานี
ในส่วนของผู้ต้องหาที่เหลือทั้ง 5 คน ได้ให้การรับสารภาพในชั้นซักถามในค่ายทหาร และได้ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนหลังถูกส่งตัวจากค่ายทหารมาดำเนินคดีต่อที่โรงพัก สภ.เมืองปัตตานี โดยผู้ต้องหาประสงค์ให้การต่อในชั้นศาล โดยจากการเปิดเผยหรือการให้การของผู้ต้องหาดังกล่าวสาเหตุที่ให้การรับสารภาพในศูนย์ซักถามที่ค่ายทหารนั้นเพราะกลัวจะมีอันตรายต่อร่างกาย มีการบังคับ ให้รับสารภาพกรณีภาพที่ปรากฎในวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ดูในระหว่างซักถามทั้งๆที่ไม่ใช่ภาพของตัวเอง ผู้ต้องหาทั้ง5คนจึงกล้าให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนและรับที่จะให้การในชั้นศาล เนื่องจากผู้ต้องหามั่นใจจะได้รับคืนความเป็นธรรมจากศาล
นอกจากนั้นทางทนายได้กล่าวเพิ่มเติมว่าจะการกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ว่าลูกความได้กระทำผิดล้วนมาจากภาพในวงจรปิดตามเส้นทางที่มุ่งสู่ประตูมัสยิดกลางปัตตานีที่ถูกอ้างจากพนักงานสืบสวนว่า”เป็นสถานที่ส่งมอบวัตถุระเบิดให้กับผู้ต้องหาเพื่อนำไปวางไว้จุดต่าง ๆ”แต่กลับถูกปฏิเสธภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณมัสยิดกลางจากพนักงานสอบสวน ทั้ง ๆที่ทางลูกความสามารถนำสืบได้ว่าภายในรอบมัสยิดกลางปัตตานีมีการติดตั้งกล้องวงจรรอบพื้นที่ จึงไม่ทราบว่าทำไมทางพนักงานสืบสวนที่รับผิดชอบคลี่คลายคดีนี้ไม่ยอมนำภาพในวงจรปิดจุดนี้มาพิสูจน์ในชั้นศาล ในเมื่อกล่าวหาว่าเป็นจุด”มอบระเบิดอีกด้วย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี