‘สุริยะ’ยันชัด
มติคกก.วัตถุอันตราย
ประเด็นปรับแบน3สาร
ชี้ถูกระเบียบ-กฎหมาย
‘วิษณุ’ระบุเปลี่ยนได้
“สุริยะ” มั่นใจมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ ในประเด็นเกี่ยวกับการแบน 3 สารพิษ ที่ให้เลื่อนการแบนออกไป 2 ตัว และอีก 1 ตัว ให้จำกัดการใช้ได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบและขั้นตอนทางกฎหมายทุกอย่าง ขณะที่“วิษณุ” การันตีคณะกรรมการฯ ชุด “สุริยะ” กลับมติเดิมได้ เหตุของเก่ายังไม่มีผลทางกฎหมาย เพราะยังไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา แนะใครสงสัยยื่นถามกฤษฎีกาได้
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมขอยืนยันว่ามติการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ที่มีตนเป็นประธานเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นมติที่ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย และไม่ได้เข้าใจผิดตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุขได้กล่าวอ้าง เนื่องจากได้ตรวจสอบจากฝ่ายกฏหมายที่เข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าวแล้ว ว่าที่ประชุมฯ ได้ปฎิบัติตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายทุกอย่าง
“การประชุมมีมติและถูกต้องอย่างแน่นอน และไม่ได้เข้าใจผิดอย่างที่มีการกล่าวถึง เพราะได้ตรวจสอบจากฝ่ายกฏหมายที่เข้าร่วมประชุมในวันดังกล่าวแล้ว ว่าที่ประชุมฯได้ปฎิบัติตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายทุกอย่างแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมขอยืนยันอีกครั้งว่ามติดังกล่าวถูกต้อง” นายสุริยะ กล่าว
รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า สำหรับมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ที่มีตนเป็นประธานเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้กำหนดวัตถุอันตรายพาราควอต และคลอร์ไพริฟอส เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาบังคับใช้ เลื่อนจาก 1 ธันวาคม 2562 เป็น 1 มิถุนายน 2563 ส่วนวัตถุอันตรายไกลโฟเซต ให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 พร้อมทั้งมอบหมายให้ กรมวิชาการเกษตรและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำมาตรการรองรับในการหาสารทดแทน หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม รวมถึงลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป และให้นำเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาภายใน 4 เดือน นับจากวันที่มีมติ
โดยก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ย้ำว่าได้คุยกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แล้ว ซึ่งนายสุริยะเข้าใจว่า การที่พูดออกไปโดยไม่มีใครโต้แย้ง สามารถเป็นมติได้ และอาจไม่สามารถใช้ได้ในยุคสมัยนี้ ซึ่งได้เสนอไปยังนายสุริยะแล้วว่าเพื่อความชัดเจน ต้องเปิดให้มีการโหวต ย้ำว่าประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลาต้องโหวตให้ชัดเจน
ทางด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อถกเถียงมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธาน จะสามารถลบล้างมติเดิมที่ประชุมกันก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ว่า ถ้าถามว่าลบล้างมติกันได้หรือไม่ ต้องตอบว่าได้ แต่เขาจะลบหรือไม่นั้นตนไม่รู้ และยังสับสนอยู่ ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าการที่คณะกรรมการฯชุดเดิมมีมติไปเมื่อเดือนตุลาคมนั้น เป็นกรรมการตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุอันตรายฉบับเก่า แต่ต่อมา พ.ร.บ.ฉบับใหม่มีผลประกาศใช้บังคับออกมา องค์ประกอบกรรมการเก่ากับองค์ประกอบกรรมการใหม่ มันเปลี่ยนไป
นายวิษณู กล่าวต่อว่า เดิมคณะกรรมการฯ ชุดนี้มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน แต่ฉบับใหม่ มี รมว.อุตสาหกรรมเป็นประธาน เพราะฉะนั้น ที่มีการประชุมครั้งล่าสุดเป็นการประชุมคณะกรรมการชุดใหม่และเป็นการประชุมครั้งแรก ซึ่งมีองค์ประกอบเพิ่มเติมเข้ามา มีคนมากขึ้น ซึ่งเขาสามารถเปลี่ยนมติได้ แต่จะเปลี่ยนหรือไม่ หรือเป็นมติหรือไม่ ตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่จะมีมติใหม่ออกมา และเป็นการพิจารณาเรื่องเดียวกัน จำเป็นต้องยกเลิกมติเก่าก่อนหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นจะเหมือนเป็นการซ้อนมติกัน นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะมติเก่ายังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น คณะกรรมการฯชุดใหม่เขามีสิทธิที่จะมีมติได้ เพื่อที่จะลงประกาศให้มันถูกต้อง แม้ว่ามติของคณะกรรมการฯชุดเก่าจะระบุชัดเจนให้มีผลในวันที่ 1 ธันวาคม ก็ตาม เพราะถือว่ายังไม่มีผลในทางกฎหมาย ซึ่งที่บอกว่ายังไม่มีผลในทางกฎหมาย เพราะว่ายังไม่ถึงวันที่ 1 ธันวาคม นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ก็สามารถเปลี่ยนมติได้
เมื่อถามว่า หากทางพรรคภูมิใจไทยอยากให้มีการตีความเรื่องให้ชัดเจนจะทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากใครสงสัยสามารถส่งให้มีการตีความได้ โดยยื่นสอบถามไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี