กรมป่าไม้แจ้งจับ‘ปารีณา’
ฟัน4ข้อหาหนัก
โทษสูงสุดคุก20ปีปรับ2ล.
ฟาร์มไก่ราชบุรีรุกป่าสงวน
‘ทวี’ออกโรงป้องลูกสาว
วีระ-อัจฉริยะแจ้งเอาผิดซ้ำ
อธิบดีป่าไม้ ยัน รังวัด 2 รอบที่ฟาร์มไก่ 46 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแน่นอน ส่งคณะทำงานตรวจสอบที่ดินฯแจ้งความบก.ปทส.เอาผิด 4 ข้อหาหนัก โทษสูงสุด 20 ปีปรับ 2 ล้าน “ทวี”โผล่กลางวงแถลงข่าวขอความเป็นธรรมให้ลูกสาว ยันเอ๋ไม่รู้เรื่อง หอบแผนที่เอกสารแจงข้อเท็จจริง ขณะที่“วีระ-อัจฉริยะ”ยื่นแจ้งความร้องทุกข์ 2 พ่อลูกรุกที่รัฐ ด้านตำรวจเผย ป่าไม้-ส.ป.ก.ต้องหาข้อสรุปเรื่องรังวัด เพราะไทยมีแผนที่ฉบับเดียว
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่กรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)แถลงข่าวกรณีตรวจสอบการถือครองที่ดินของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ว่าจากการเข้าตรวจสอบรังวัดที่ดินฟาร์มไก่เขาสน ของ น.ส.ปารีณาจำนวน 46-1-40 ไร่ ในพื้นที่ ม.6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของคณะทำงานตรวจสอบที่ดินของกรมป่าไม้ ลงพื้นที่รังวัดรอบที่ 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ 46 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี 41 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา และพื้นที่ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484จำนวน 4 ไร่3งาน81ตารางวา
อธิบดีป่าไม้ยันรุกป่า-ปัดยื้อเวลา
“ยืนยันว่าตามข้อมูลที่ตรวจสอบทั้ง 2 ครั้ง พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตตามของป่าไม้อย่างแน่นอน เป็นการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยต้องมีการแจ้งความดำเนินการกระบวนการยุติธรรมต่อไป” อธิบดีกรมป่าไม้กล่าว พร้อมยืนยันด้วยว่า การทำงานครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการประวิงเวลาตามที่มีการตั้งข้อสงสัย กรมป่าไม้ทำงานเต็มที่และเร็วที่สุดแล้ว หลังสั่งการวันแรก เพียงแต่ต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องในการรวบรวมหลักฐานดำเนินการแจ้งความผิด และยืนยันว่าเป็นการทำงานในมาตรฐานเดียวกัน
นายอรรถพลกล่าวต่อว่านับจากนี้คดีรุกป่าจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ต่อไปคงพูดอะไรมากไม่ได้ แต่ได้ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เรื่องนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยตั้งคณะทำงานมี นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ เป็นประธาน ร่วมกับนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และเริ่มลงพื้นที่วันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากนั้น น.ส.ปารีณาร้องเรียนกรมป่าไม้ ระบุว่า น่าจะรังวัดที่ดินไม่ถูกต้อง เนื่องจากมาตราส่วนที่ของ ส.ป.ก. และกรมป่าไม้ไม่เหมือนกัน กรมป่าไม้รับเรื่องไว้พิจารณากับคณะทำงาน และตรวจสอบความถูกต้อง จึงเข้าไปตรวจซ้ำเพิ่มเติม ฉะนั้น ยืนยันไม่ได้ประวิงเวลา หรือมีหลายมาตรฐานกับประชาชนที่บุกรุกป่า ทุกรายที่ถูกตรวจสอบ มีสิทธิจะแย้ง คัดค้านได้
หลักฐานชัดฟัน4ข้อหาโทษหนัก
ด้าน นายชีวภาพ ชีวธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าหนึ่งในคณะทำงานตรวจสอบฯกล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีนี้ผู้ครอบครองที่ดินเขาสนฟาร์ม 2 มีความผิด ใน4พ.ร.บ คือ ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507ประมวลกฎหมายที่ดินและพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม 2535จะมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี ปรับ 2 ล้านบาท และยืนยันว่าเรื่องนี้อะไรที่ผิด ก็คือผิดเพราะตรวจสอบตรงไปตรงมา แต่ไม่ขอลงรายละเอียด เกรงกระทบรูปคดี ส่วนข้อกังวลที่นายทวี พ่อของน.ส.ปารีณานำมาแสดงนั้นทำได้เจ้าหน้าที่ยืนยันความถูกต้องในการตรวจสอบและมีเอกสารหลักฐานชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าไม้แน่นอน
พ่อเอ๋มาเองบุกยื่นขอความเป็นธรรม
ผู้สี่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่างของอธิบดีกรมป่าไม้ นายทวี ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี บิดาของ น.ส.ปารีณา ได้เข้ามานั่งฟังการแถลงข่าวด้วย หลังจบการแถลง นายทวีลุกขึ้นเดินเข้าไปหาอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมระบุว่า ไม่ได้ตั้งใจมาฟังการแถลงข่าว แต่ตั้งใจนำหนังสือขอความเป็นธรรม พร้อมข้อมูลมาชี้แจงกับอธิบดี เพื่อชี้ให้เห็นว่าการใช้แนวเขตอาจคลาดเคลื่อนและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และขอความเห็นในการชี้แนวเขตในแผนที่ที่ใช้ด้วย ขณะนี้ยังติดต่อลูกสาวไม่ได้ จึงฝากถึงลูกสาวว่า อย่าไปฟ้องอธิบดีกรมป่าไม้เลย เพราะเขาทำตามหน้าที่ อยากให้ลูกสาวหาหลักฐานมาสู้คดีจะดีกว่า อย่าไปฟังทนายมาก
จี้อธิบดีชี้จุด46ไร่บนแผนที่ที่รุกป่า
จากนั้นนายทวีถามอธิบดีกรมป่าไม้ เรื่องแผนที่ที่บอกว่าครอบครัวของตนรุกป่า 46 ไร่ อยู่บริเวณไหน เพราะว่าแผนที่ที่มีมันเล็กมาก อีกทั้งในพื้นที่นี้มีชุมชน อยู่บริเวณเดียวกัน และแผนที่ในแต่ละหน่วยงานก็ทับซ้อนกัน เชื่อถือได้หรือไม่ สำหรับที่ดังกล่าว ตนอยู่มากว่า 40 ปี ได้มาด้วยการซื้อจากชาวบ้านที่ทำไร่ โอนกรรมสิทธิ์ครอบครองจากชาวบ้านก่อนปี 2553 โดยไม่รู้ว่าเป็นเขตป่าสงวนหรือเขตป่าไม้ หรือที่ส.ป.ก.เพราะไม่มีการปักป้าย ไม่มีหลักหมุดและที่ไปโอนสิทธิครอบครองก็ไม่มีพื้นที่ป่าแม้แต่พื้นที่เดียว เป็นชุมชนไปหมด ในข้อเท็จจริง น.ส.ปารีณาไม่รู้การซื้อที่ที่นี่ หลังพูดจบนายทวี ได้ยื่นแผนที่ให้อธิบดีกรมป่าไม้ โดยอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ไม่อยากพูดในรายละเอียดมาก เพราะมีผลทางคดี ซึ่งพื้นที่รุกป่า 46 ไร่ นั้น ให้ไปสู้ในชั้นศาล
ตร.ไม่กดดันเล็งรวมคดีที่วีระร้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น อธิบดีกรมป่าไม้มอบให้คณะทำงานนำเรื่องเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ใน 4 ข้อหา นำโดย นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ ในฐานะตัวแทนของอธิบดีกรมป่าไม้ ยื่นฟ้องดำเนินคดีน.ส.ปารีณา ถือครองที่ดินฟาร์มไก่เขาสน ที่อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พร้อมระบุว่า ได้ทำหน้าที่เสร็จแล้ว และวันนี้มอบหมายให้ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ราชบุรี และผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ในส่วนวันนี้เป็นการมอบเอกสารเท่านั้น
ด้าน พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รอง ผบก.ปทส.เผยว่า เบื้องต้นจะตรวจสอบว่าเป็นมูลคดีเดียวกันกับคดีของ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน หรือไม่ ถ้าหากเป็นมูลเดียวกันจะส่งไปที่ สภ.จอมบึง จากนั้นจะพิจารณาว่าใครจะสอบสวน หรืออาจตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันขึ้นมาในขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ยืนยันว่าคดีเมื่อเช้าเป็นคนละกรณีกับที่นายอัจฉริยะพาผู้เสียหายมาแจ้งความ ซึ่งแนวทางสอบสวนจากนี้ ปทส. กับ สภ.จอมบึง จะสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด พร้อมย้ำว่าไม่กดดัน หลังจากนั้นพนักงานสืบสวนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยแจ้งให้หน่วยงานในพื้นที่และผู้ถูกกล่าวหาทราบ เพื่อเดินรังวัดใหม่ สอบหมุดหาพื้นที่ข้อพิพาทว่าอยู่ในพื้นที่ป่าและพื้นที่ป่าสงวนหรือไม่ ใครเป็นผู้ครอบครอง คาดว่าใช้เวลาไม่นาน
ถึงคิว“ทวี”โดน’วีระ’แจ้งจับรุกป่า
วันเดียวกัน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่นเข้าพบ ร.ต.อ.ประดิษฐ์ คงเปรม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อดำเนินคดีกับ นายทวี ไกรคุปต์ พ่อของ น.ส.ปารีณา ความผิดฐานบุกรุก ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และที่ป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และมีการลงบันทึกประจำวันรับคำร้องทุกข์ เป็นคดีอาญาที่ 419/2562 โดยหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป
นายวีระ กล่าวว่า วันนี้ตนมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายทวี และก็เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำความผิดการบุกรุกครอบครองที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่ป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ซึ่งนำหลักฐานที่ได้รับจากประชาชนในพื้นที่ และเอกสารข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ ตนได้พาพนักงานสอบสวนไปลงพื้นที่ตรวจสอบชี้จุดที่มีการบุกรุก และครอบครองมาหลายสิบปี หลักฐานทั้งหมดนี้เป็นการกระทำที่นายทวีทำมานานมากแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
อัจฉริยะพาชาวบ้านร้อง2พ่อลูกฮุบที่ดิน
ขณะที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพร้อมน.ส.ปราณี นำพา อายุ 49 ปี เข้าพบ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผบก.ปทส.เพื่อร้องขอให้ดำเนินคดีต่อนายทวี และน.ส.ปารีณา ข้อหาบุกรุกป่าสงวน ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2507 ม.14 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 ม.54 ในพื้นที่ ม.6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยเผยว่า ตนพาครอบครัวน.ส.ปราณี มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายทวี ฐานบุกรุกที่ดินของน.ส.ปราณี กว่า 30 ไร่ และบุกรุกที่ดินป่าสงวนย่านสวนผึ้งกว่า 1,000 ไร่ และดำเนินคดีต่อ น.ส.ปารีณา กรณีบุกรุกที่ดินย่านจอมบึง ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ยืนยันว่าตนมีหลักฐานเอาผิดทั้งสองคนได้ สำหรับประเด็นที่น.ส.ปารีณา เตรียมแจ้งความกลับกับตนและนายวีระนั้น ไม่กังวล ให้รีบไปแจ้ง ตนต้องการหมายศาล เพื่อเข้ากระบวนการยุติธรรมเร็วขึ้น
พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องต้องสอบปากคำก่อนไปตรวจสอบว่าผู้ร้องทุกข์เคยไปร้องทุกข์ในพื้นที่ใดแล้วบ้าง ส่วนเรื่องคดีหากพบว่าเป็นคดีเดียวกันกับที่กรมป่าไม้จะเข้าแจ้งความ จะรวมสำนวนเป็นคดีเดียวกัน สำหรับการใช้แผนที่รังวัดที่ดินที่ยังไม่ชัดเจน กรมป่าไม้ และ ส.ป.ก.ต้องหาข้อสรุปให้ได้ว่าระวางตรงกันหรือไม่ หากไม่ตรง มีสาเหตุจากอะไร เพราะประเทศไทยมีแผนที่เพียงฉบับเดียว ยืนยันว่าคดีนี้ไม่กังวลแม้ผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นนักการเมือง ขอให้ว่ากันตามกฎหมาย ใครผิดก็ติดคุก
นัดฟังสั่งคดี”ช่อ”ฟ้อง”เอ๋”หมิ่น12ธ.ค.
อีกด้านหนึ่ง ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีหมายเลขดำ อ.2043/2562 ที่น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ปารีณา เป็นจำเลย ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328จากกรณีน.ส.ปารีณาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวกล่าวหา น.ส.พรรณิการ์ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดหลายพื้นที่ของกทม.วันที่ 2-3 สิงหาคม 2562 และความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นการจงใจทำให้โจทเสียหายต่อชื่อเสียง เข้าใจผิดถูกดูหมิ่นเกลียดชังโดยน.ส.พรรณิการ์พร้อมทนายโจทก์ และทนายจำเลยมาศาล ภายหลังศาลไต่สวนเสร็จสิ้น น.ส.พรรณิการ์เปิดเผยว่า ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 12 ธันวาคม เวลา 09.00 น.ว่าจะรับคดีไว้พิจารณาหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี