วันอาทิตย์ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สทน.แจง!เก็บกากกัมมันตรังสีที่องครักษ์ทำถูกต้องตามกม.

สทน.แจง!เก็บกากกัมมันตรังสีที่องครักษ์ทำถูกต้องตามกม.

วันพฤหัสบดี ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.
Tag :
  •  

ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์กรมหาชน)หรือ สทน. ได้ก่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ขึ้นที่ ต.ทรายมูล อ.องครักษ์และมีการนำกากกัมมันตรังสีซึ่งเกิดจากการผลิต หรือการใช้วัสดุนิวเคลียร์หรือจากเครื่องกําเนิดรังสี ที่หมดอายุการใช้งานแล้ว ซึ่งเดิมมีการเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานเดิมที่ถนนวิภาวดี บางเขน ข้าง มก. และศูนย์ฉายรังสีคลอง 5 ปทุมธานี โดยมีการจัดจ้างเอกชนให้ทำการขนย้ายกากกัมมันตรังสีทั้ง 2 แห่งดังกล่าวไปเก็บรักษาไว้ ณ โรงเก็บกากกัมมันตรังสี อ.องครักษ์ ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ โดยที่ภาคประชาชนใน อ.องครักษ์และหรือประชาชน จ.นครนายก ไม่มีใครทราบข้อมูลดังกล่าวเลยแต่อย่างใด ตลอดจนระบุว่า สทน.ไม่ดำเนินตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ 

ดร.พรเทพ นิศามณีพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. กล่าวว่ากรณีนายศรีสุวรรณ และชาว อ.องครักษ์ไปร้องป.ป.ช.นั้นน่าจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน และมีหลายประเด็นที่ไม่ถูกต้อง จึงขอชี้แจงดังนี้ 1.สทน. เป็นหน่วยงานของรัฐประเภทองค์การมหาชน จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกา การจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติปี พ.ศ.2549 แก้ไขเพิ่มเติมปี พ.ศ. 2561 โดยรับโอนภารกิจสำคัญๆ มาจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ อาทิ การเดินเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูวิจัย การผลิตสารเภสัชรังสี การฉายรังสีและอาหารและผลิตผลการเกษตร ซึ่งสทน.ได้รับใบอนุญาตการเป็นสถานประกอบการทางนิวเคลียร์และใบอนุญาตครอบครองวัสดุกัมมันตรังสี ภายใต้พระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติปี พ.ศ.2504 ทุกกิจกรรม 


2.สำหรับที่ระบุว่า สทน.ไม่ทำการตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.2559 นั้นอาจจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยมาตรา 51 ที่ระบุในพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ.2559 นั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ซึ่งปัจจุบันสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) อยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ และจัดทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (EHIA) เพื่อขอจัดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัยเครื่องใหม่ ซึ่งยังไม่มีการอนุมัติก่อสร้างโครงการแต่อย่างใด สทน.จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องขอรับใบอนุญาตสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ตามที่ระบุ

และ 3.สำหรับกรณีกากกัมมันตรังสีนั้น เนื่องจาก สทน. จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ.2549 โดยรับโอนภารกิจหน้าที่ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.)

ในส่วนที่เป็นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี โดยพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. 2504 มิได้กำหนดเกี่ยวกับใบอนุญาตผู้ให้บริการจัดการกัมมันตรังสี สทน. ดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ.2549 โดยให้ดำเนินการจัดการกากกัมมันตรังสีให้เป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในส่วนของกฎกระทรวงเกี่ยวกับใบอนุญาตผู้ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสีขณะนี้ยังมิได้ประกาศใช้บังคับ สทน. ยังคงปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและเป็นไปตามมาตรฐานสากล

“สทน.เป็นหน่วยงานของรัฐหน่วยงานเดียวที่ทำหน้าที่ในการจัดการกากกัมมันตรังสี โดยดำเนินการตามมาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้บริหารสูงสุดยืนยันว่า สทน.ดำเนินการอย่างถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนด และยังได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก อาทิ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) และทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) หน่วยงานด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ ขอให้เชื่อมั่นว่าเราจะดำเนินทุกกิจกรรมอย่างตรงไปตรงมาตรวจสอบได้” ดร.พรเทพ กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ดอดหนีกลับไทย เขมรแร้นแค้นไม่มีจะกิน ฝ่าความมืดจนมุมตำรวจ ดอดหนีกลับไทย เขมรแร้นแค้นไม่มีจะกิน ฝ่าความมืดจนมุมตำรวจ
  • เตือนโรคไข้ดิน ระบาดในอีสาน คร่าเกษตรกร ดับแล้ว92ศพ เตือนโรคไข้ดิน ระบาดในอีสาน คร่าเกษตรกร ดับแล้ว92ศพ
  • กทม. เดินหน้ายุทธศาสตร์ \'มุสลิมร่วมพัฒนาเมือง\' กทม. เดินหน้ายุทธศาสตร์ 'มุสลิมร่วมพัฒนาเมือง'
  • กทม.รับมอบธงแดงข้ามทางม้าลายจากสสส. สร้างความปลอดภัยคนข้าม กทม.รับมอบธงแดงข้ามทางม้าลายจากสสส. สร้างความปลอดภัยคนข้าม
  • คลินิกสิ่งแวดล้อม: 1 สิงหาคม 2568 คลินิกสิ่งแวดล้อม: 1 สิงหาคม 2568
  • กทม. จับมือสมาคมคนหูหนวก พัฒนาสื่อภาษามือ กทม. จับมือสมาคมคนหูหนวก พัฒนาสื่อภาษามือ
  •  

Breaking News

ตร.พังงาลุยจับ3ผู้ค้า-ยึดยาบ้าเฉียดแสนเม็ด

'การ์เซีย'ร่วมงาน! 'หงส์'เปิดตัวสวมชุดอาดิดาสล่าแชมป์

โค่นแชมป์เก่า!'พัณณิน'ผงาดแชมป์หวดไอทีเอฟเวิลด์

คนร้ายกราดยิงดับกำนันคาดปมขัดแย้่งธุรกิจมืด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved