“ป.ป.ส.” เพิ่มมาตรการเข้ม สกัดลอบลำเลียงยาเสพติดออกนอกประเทศ หลังญี่ปุ่นระบุปี 62 จับ“ไอซ์”ได้สูงสุด โดยส่วนใหญ่ลำเลียงมาจากไทย
จากกรณีทางการประเทศญี่ปุ่น แถลงข่าวพบว่าสถิติการลักลอบขนยาเสพติดที่ตรวจพบ ณ สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงตุลาคม 2562 มีปริมาณการจับกุมไอซ์จำนวน 272 กิโลกรัม ซึ่งสูงที่สุดเท่าที่เคยจับกุมได้ ส่วนใหญ่เป็นการลำเลียงมาจากประเทศไทย และจากกรณีสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้จับกุมชาวผิวสีว่าจ้างหญิงไทยขนไอซ์ไปยังประเทศญี่ปุ่นนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รวบแก๊งแอฟริกันขนไอซ์ข้ามชาติ แฉจ้างหญิงไทยซุกของใน‘ช่องคลอด’เข้าญี่ปุ่น)
4 ธันวาคม 2562 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ปัจจุบันปัญหาการแพร่ระบาดของไอซ์เป็นที่รับทราบกันว่าขยายตัวรุนแรงไปในหลายประเทศ โดยญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการลำเลียงไอซ์จำนวนมากเข้าประเทศ และบางส่วนมีที่มาจากแหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำผ่านประเทศไทย โดยกลุ่มขบวนการลำเลียงเกือบทั้งหมดจะเป็นคนไทยที่ถูกว่าจ้างโดยกลุ่มค้าไอซ์ชาวแอฟริกันตะวันตก หรือกลุ่มผิวสี ที่ปัจจุบันพบว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจัดหายาเสพติดหลายชนิดเข้าไปในประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สำนักงาน ป.ป.ส.ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับปัญหานี้ เนื่องจากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอาเซียน (ASEAN Airport Interdiction Task Force: AITF) ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับตำรวจ และศุลกากรญี่ปุ่น ทั้งด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และการขยายผลการสืบสวนเพื่อจับกุมผู้บงการอยู่เบื้องหลังทุกกรณี ไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานเคลื่อนไหวจัดส่งยาเสพติดไปยังภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
เลขาธิการป.ป.ส. กล่าวว่า โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือตำรวจญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อประชุมหาแนวทางแก้ไขสถานการณ์นี้ร่วมกันทั้งด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างรวดเร็วเพื่อการขยายผลและการเฝ้าระวังเครือข่ายค้ายาเสพติดและเร็วๆนี้จะได้หารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อให้ความรู้และวางมาตรการควบคุมบริษัททัวร์ให้ช่วยสอดส่องดูแลลูกทัวร์ที่เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย ที่ผ่านมาพบว่า คนไทยถูกจับคดีลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่นนั้น ส่วนใหญ่ทั้งหมดเดินทางไปในฐานะนักท่องเที่ยวและมักพบเป็นสุภาพสตรี ซึ่งเมื่อสอบสวนแล้วพบว่าล้วนถูกชักชวน หรือจ้างวานโดยผู้ค้ายาเสพติดผิวสี ซึ่งมีมูลเหตุจูงใจในเรื่องราคาจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่นได้รับผลกำไรสูง แม้จะเสี่ยงต่อการถูกตรวจยึดจับกุม ดังนั้นขอให้ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ทราบว่าขณะนี้ทางการญี่ปุ่นเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้เดินทางจากประเทศไทย และขอให้ระวังตกเป็นเหยื่อหรือเป็นเครื่องมือในการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศญี่ปุ่นของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ไม่ว่าจะโดยการชักชวนไปเที่ยวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การฝากสิ่งของที่ซุกซ่อนยาเสพติด รวมถึงการจ้างวานโดยตรง หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติด ได้ที่สายด่วนสำนักงาน ป.ป.ส.โทร 1386 ตลอด 24 ชม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี