‘ครูส้มหวาน’ยุจัดการครูตบหัวนร. ชี้สุภาษิตรักวัวให้ผูกฯสะท้อนอำนาจนิยมวัฒนธรรมไทย
6 ธันวาคม 2562 น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) แสดงความเห็นต่อกรณีคลิปที่ครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งตบศีรษะนักเรียนหญิง ว่า ไม่แน่ใจว่าที่เราเห็นการกระทำเช่นนี้มากเป็นเพราะการมีโซเชียลมีเดียหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นคือการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่มีพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และระเบียบวิธีการทำโทษเด็ก 4 ประเภทของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ไม่ได้ระบุว่าสามารถตีเด็กได้ ดังนั้นสิ่งที่น่าจะต้องทำคือการเอาผิดทางวินัย ที่สภาวิชาชีพครูจะต้องจริงจังต่อกรณีนี้ ตนไม่อยากให้กรณีนี้เกิดขึ้นแล้วผ่านไป
“ตกลงแล้วถ้าครูทำโทษเด็กด้วยความรุนแรง แล้วเป็นคดีความต้องจัดการครูอย่างไร พาครูออกนอกพื้นที่หรือไม่ ซึ่งปกติจะทำอยู่แล้ว แต่พอสืบสวนสอบสวนเสร็จครูคนนั้นก็จะได้กลับมาที่โรงเรียนเหมือนเดิม ที่นี้ก็เป็นคำถามว่าควรจะเป็นเช่นนี้อยู่หรือไม่ ปัญหาของประเทศไทยคือไม่มีคนรับผิดชอบ” น.ส.กุลธิดา กล่าว
น.ส.กุลธิดา แสดงความเห็นต่อสุภาษิต “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” ที่คนไทยบางส่วนยังยึดถือ และเชื่อปฏิบัติ ว่า มันมาจากระบบอำนาจนิยมในวัฒนธรรมเรา คือ ความที่มีอำนาจมากขนาดที่จะไปทำร้ายคนอื่น ซึ่งวัฒนธรรมไทยจะไม่เรียกว่าเป็นการทำร้าย แต่จะเรียกว่า “ตี” ซึ่งมันควรจะดี หลายคนก็บอกว่าเราโตมากับไม้เรียว อย่างไรก็ตามมีงานวิจัยทางจิตวิทยาจำนวนมากออกมาระบุว่าจิตวิทยาเชิงบวกต่างหากถึงจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเด็กได้จริง ดังนั้นทำไมเรายังยืนยันที่จะทำแบบนี้ ทั้งที่กฎหมายในหลายประเทศเองได้ห้ามการลงโทษที่ถูกเนื้อต้องตัวเด็กไปแล้ว
นอกจากนี้ น.ส.กุลธิดา ระบุถึงมุมมองของครูที่ใช้ความรุนแรงต่อเด็ก ว่า เราต้องเข้าใจสภาพความกดดันของครู คือ บางคนมีงาน และภาระเต็มไปหมด นักเรียนเยอะ คุมห้องลำบาก การใช้ความรุนแรงจึงเป็นวิธีที่ชะงัด และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ซึ่งตนไม่ได้บอกว่าถูกต้อง แต่ถ้าเรามีการอบรมครูด้วยวิธีจิตวิทยาการเรียนการสอน ครูก็จะมีวิธีการจัดการปัญหาเหล่านี้ อีกอย่างคือครูมีตัวช่วย เช่น นักจิตวิทยา หรือไม่ในห้องเรียน เพื่อรับมือกับเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรมมากๆ
“ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของวัฒนธรรมจริงๆ ที่ต้องค่อยๆคุยและอธิบายกัน ดิฉันยังเชื่อในวินัยเชิงบวก และไม่ใช่ว่าดิฉันไม่เคยเจอเด็กที่มีพฤติกรรมมีปัญหา แต่เราเชื่อว่าความรุนแรง ไม่สามารถแก้ปัญหาความรุนแรงได้ และในระยะยาวจะส่งผลต่อตัวนักเรียน ซึ่งลึกๆจะส่งผลกับครูด้วย ดิฉันเชื่อว่าไม่มีมนุษย์คนไหนเกิดมาแล้วอยากจะทำร้ายกัน ถ้าต้องทำบ่อยๆก็ไม่ทำให้เราชอบตัวเองนัก” น.ส.กุลธิดา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี