ประธาน กสม.เผยครบ3ทศวรรษ‘อนุสัญญาสิทธิเด็ก’ หวังผู้ใหญ่หนุนเยาวชนพัฒนาเต็มศักยภาพ
9 ธันวาคม 2562 นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) มีสารเนื่องในโอกาสวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม ประจำปี 2562 โดยวันสิทธิมนุษยชนปีนี้เป็นวันครบรอบ 30 ปี ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child : CRC) องค์การสหประชาชาติจึงถือโอกาสพิเศษนี้รณรงค์ให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ภายใต้หัวข้อ “เยาวชนคนรุ่นใหม่ ยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชน"(Youth Standing up For Human Rights)” ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กและมีพันธกรณีที่จะต้องประกันสิทธิและเสรีภาพของเด็กทุกคนในประเทศให้อยู่รอดและเติบโตเต็มตามศักยภาพ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จึงได้เสนอมาตรการในการแก้ไขปัญหา และข้อเสนอแนะนโยบายที่สำคัญต่อรัฐบาลในการคุ้มครองสิทธิของเด็กและเยาวชน เช่น การแก้ไขระเบียบห้ามเปิดเผยประวัติอาชญากรรมของเด็กและเยาวชน เพื่อให้เด็กที่ก้าวพลาดได้มีโอกาสกลับคืนสู่สังคม การขอให้นำเด็กที่ติดตามครอบครัวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายออกจากสถานกักตัว และให้ได้รับการดูแลตามสิทธิขั้นพื้นฐาน การเคารพสิทธิของเด็กในการแต่งเครื่องแบบนักเรียนตามหลักความเชื่อทางศาสนา การสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยศูนย์การเรียนของชุมชน และการร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการจัดทำคู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ตั้งแต่ชั้นปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ
นายวัส ยังได้เชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน และขอให้สังคมร่วมกันสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชาติ ได้เติบโตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีภูมิคุ้มกันสามารถพัฒนาได้เต็มตามศักยภาพ ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต และมีส่วนร่วมสร้างวัฒนธรรมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้นในสังคมต่อไป
วันเดียวกัน ประธาน กสม. ยังกล่าวว่า ปีที่ผ่านมา กสม. ได้ดำเนินการในการคุ้มครองสิทธิของเด็กและเยาวชนหลายประการ โดยเสนอมาตรการในการแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะนโยบายที่สำคัญ อาทิ การแก้ไขระเบียบห้ามเปิดเผยประวัติอาชญากรรมของเด็กและเยาวชนให้สอดคล้องกติกาสากล อันจะทำให้เด็กและเยาวชนที่ก้าวพลาดหลงผิดได้มีโอกาสกลับคืนสู่สังคมเป็นคนดี การขอให้นำเด็กที่ติดตามครอบครัวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายออกจากสถานกักตัวและให้ได้รับการดูแลตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กควรได้รับการคุ้มครองสิทธิเด็กในการแต่งเครื่องแบบนักเรียนตามหลักความเชื่อทางศาสนาของตน และการสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยศูนย์การเรียนของชุมชน
“กสม. ได้ตระหนักถึงบทบาทของเด็กและเยาวชนในการสร้างสรรค์สังคมที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยการร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในการจัดทำคู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษา ตั้งแต่ชั้นปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนในสถานศึกษาทั่วประเทศอย่างเป็นระบบ” ประธาน กสม. กล่าว
นายวัส กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้ องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ถือโอกาสพิเศษดังกล่าว รณรงค์ภายใต้หัวข้อ “เยาวชนคนรุ่นใหม่ ยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชน (Youth Standing up For Human Rights)” ให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของบทบาทเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างสรรค์พลังบวก ใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความรู้ความสามารถที่มี ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคมเกิดการเคารพสิทธิและเสรีภาพ
ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสวันสิทธิมนุษยชนสากล 10 ธันวาคม ประจำปี 2562 และการครบรอบ 30 ปี ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กในปีนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชน ทั้งการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การเชื่อมั่นในความเท่าเทียมของบุคคลโดยปราศจากการแบ่งแยก การศรัทธาในสิทธิและเสรีภาพของบุคคล และการปฏิบัติต่อผู้อื่นในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์เฉกเช่นเดียวกัน
“ขอให้ผู้ใหญ่ทุกคนร่วมกันสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชาติได้เติบโตอย่างมีศักดิ์ศรีและมีภูมิคุ้มกัน สามารถพัฒนาตนได้เต็มตามศักยภาพในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต และมีส่วนร่วมสร้างวัฒนธรรมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้นในสังคมต่อไป” ประธาน กสม. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี