วันที่ 9 ธันวาคม 2562 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ชี้แจงกรณีที่สื่อมวลชนได้ตั้งประเด็นคำถามการจับกุมตัว พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในจำเลยที่ถูกศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก 4 ปี และศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับกรณีไม่มาฟังคำพิพากษา นั้น ว่า
ตามข้อมูลที่สื่อมวลชนได้นำเสนอถึงกรณีศาลจังหวัดพัทยา ได้ออกหมายจับพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ กรณีไม่มาฟังคำพิพากษาคดีบุกล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยาเมื่อปี 2552 โดยนัดให้ฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 15 มกราคม 2563 ต่อมาวันที่ 4 ธันวาคม พ.ต.ท.ไวพจน์ ยังคงเดินทางมาร่วมประชุมสภาฯ อีกทั้งที่ตั้งของรัฐสภานั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ของ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เพตรา ผบช.น. ได้สั่งการเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.62 ให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ทำบันทึกสอบถามไปยังศาลจังหวัดพัทยา เพื่อขอตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับหมายจับ ทั้งนี้หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับหมายจับแล้ว การดำเนินการตามหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา(ส.ส.). ในระหว่างสมัยประชุม จะต้องได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกเสียก่อน ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หากได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้อง ก็พร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า โดยปกติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้รับหมายจับ(ศาลเป็นผู้ออกหมายจับเอง) เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจจะได้ข้อมูลหมายจับและเอกสารที่เกี่ยวข้อง แบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.ได้รับหนังสือแจ้งจากศาล พร้อมสำเนาหมายจับ ตำหนิรูปพรรณผู้ต้องหา แจ้งมายัง กองบังคับการตำรวจหรือ สถานีตำรวจ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่หรือภูมิลำเนาของผู้ต้องหา เพื่อให้ประกาศสืบจับ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
2.ได้รับหนังสือจากศาลพร้อมสำเนาหมายจับ ตำหนิรูปพรรณผู้ต้องหา แจ้งมายังกองทะเบียนประวัติอาชญากร(ทว.) เพื่อนำข้อมูลหมายจับมาลงในระบบคอมพิวเตอร์และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมาจะได้รับเอกสารโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยในขณะนี้นั้นเบื้องต้น จากการตรวจสอบของ กองทะเบียนประวัติอาชญากร(ทว.) และ กองบังคับการในถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหา ในปัจจุบันทั้ง 2 หน่วยนั้นยังไม่ได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใดซึ่งอยู่ในระหว่างการประสานงานในขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งหาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับแจ้งหนังสือและเอกสารสำเนาหมายจับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็พร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่าเบื้องต้นนั้น เมื่อศาลออกหมายจับ ส.ส. แล้ว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำเนาหมายจับ ตำหนิรูปพรรณผู้ต้องหา ก็จะทำหนังสือไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรฯ เพื่อขออนุญาตประสานการปฎิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายในการจับกุม ส.ส. ตามหมายจับของศาล และเมื่อจับกุมแล้ว ผู้ต้องหาก็จะมีสิทธิต่างๆตามกฎหมายในชั้นจับกุม การแจ้งหรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งญาติหรือผู้ที่ผู้ต้องหาไว้วางใจ ถึงการจับกุม และสถานที่ที่ถูกควบคุมตัว พบและปรึกษาทนาย การเยี่ยมจากญาติ สิทธิการรักษาพยาบาล และที่เกี่ยวข้อง ตามปกติเหมือนคดีอื่นทุกประการ โดยไม่มีการเลือกปฎิบัติ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี