ถกครึ่งค่อนวันไร้ข้อสรุป ‘ส.ป.ก.-ป่าไม้’ติดหล่มกม.ดำเนินคดี‘ปารีณา’
11 ธันวาคม 2562 ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) นายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดิน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงการประชุมร่วมกับฝ่ายกฎหมายของ ส.ป.ก. เพื่อหาแนวทางว่าหน่วยงานใดจะเป็นผู้ดำเนินคดีกับที่ดิน ส.ป.ก. 682 ไร่ของ น.ส.ปารีณา ซึ่งมีการประชุมตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงช่วงบ่าย ว่า ที่ประชุมมีมติให้ทาง ส.ป.ก. เร่งทำหนังสือตีกลับไปให้ น.ส.ปารีณา กรณีส่งคืนที่ดินโดยไม่ต้องไม่มีการระบุเงื่อนไขใดๆภายใน 7 วัน หลังจากนั้นกรมป่าไม้จึงจะมาหารืออำนาจการจัดการตามกฎหมายอีกครั้ง โดยยังไม่มีข้อสรุปในวันนี้ เนื่องจากยังต้องรอดูรายละเอียดในหนังสือที่ น.ส.ปารีณา ส่งกลับมาว่ามีข้อมูลและเนื้อหารายละเอียดอย่างไร ส่วนเรื่องรายละเอียดข้อกฎหมายและระเบียบยังไม่ได้ข้อยุติ แต่ยืนยันว่ากรมป่าไม้จะดำเนินการตามมาตรฐานด้วยความรอบคอบ แต่ต้องรอความชัดเจนจาก ส.ป.ก. ด้วยเช่นกัน
สำหรับการเทียบเคียงกับคำพิพากษาศาลฎีกาจังหวัดนครพนมที่พิพากษาให้ชาวบ้านจำคุก 6 เดือน จากการเข้าไปครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ซึ่งคำพิพากษาได้ระบุว่าแม้ที่ดินเป็นเขตปฏิรูป แต่เป็นเพียงแค่การกำหนดขอบเขตที่ดินไม่ได้มีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ กรมป่าไม้ต้องมีอำนาจในการดำเนินคดีอยู่ นายธวัชชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขอไปดูรายละเอียดของแต่ละกรณี ไม่สามารถนำมาเทียบเคียงกับกรณี น.ส.ปารีณา ได้
ทั้งนี้ ยืนยันว่าท่ามกลางกระแสการตั้งข้อสงสัยว่ามีการดำเนินการ 2 มาตรฐานหรือไม่นั้น ขอย้ำว่าทั้งหมดดำเนินไปด้วยมาตรฐานเดียวกัน ขอให้มั่นใจการทำงานของกรมป่าไม้ ที่ก่อนหน้านี้ถ้าที่ดินอยู่ในอำนาจของกรมป่าไม้ก็แจ้งความร้องทุกข์ไปแล้วกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) แต่ที่ยังไม่สามารถส่งฟ้องได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้นายวีระ สมความคิด ได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.จอมบึง ไว้ก่อน ตำรวจ ปทส. มีความจำเป็นต้องทำความเห็นไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้พิจารณาอำนาจว่าใครจะเป็นคนทำคดีดังกล่าว
ด้านนายจุมพฎ ชอบธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานกฎหมายกรมป่าไม้ กล่าวในแง่ของข้อกฎหมายว่า ลักษณะของที่ฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณา ทั้ง 682 ไร่ ในเขต ส.ป.ก. คล้ายกับคดีการบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก.ใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ปี 2558 ที่ตำรวจดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก. ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตความรับผิดชอบของใครผู้นั้นต้องเป็นคนแจ้งความร้องทุกข์ ไม่สามารถดำเนินการก้าวล่วงอำนาจของแต่ละหน่วยงานได้ พร้อมเปรียบเทียบกับที่ดินท้องสนามหลวง หากมีการเข้าไปบุกรุกตักดิน หรือดำเนินการใดๆ ต้องเป็นอำนาจแจ้งความร้องทุกข์ของกรุงเทพมหานคร แม้ก่อนหน้านี้สภาพท้องสนามหลวงจะเป็นป่าก็ตาม
ส่วนกรณี น.ส.ปารีณา กับกรณีชาวบ้านหมู่บ้านซับหวาย บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง นายจุมพฎ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ และมีที่ดินป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนกับที่ดินอุทยานฯ ซึ่งตามกฎหมายแล้วที่ดินอุทยานฯไม่สามารถเข้าไปบุกรุกได้เลย แต่ที่ดินของ น.ส.ปารีณา เป็นที่ ส.ป.ก. จึงทำให้การดำเนินการทางกฎหมายแตกต่างกัน
สำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินรัฐของ น.ส.ปารีณา ถูกตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่ายถึงหนังสือส่งมอบคืนพื้นที่แก่ ส.ป.ก. ซึ่ง น.ส.ปารีณา ให้ผู้รับมอบอำนาจมาส่งต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งไม่ระบุวันที่ในหนังสือ โดย ร.อ.ธรรมนัส รับหนังสือวันที่ 7 ธันวาคม 2562 แต่ปรากฏเลขรับหนังสือภายหลังลงหมายเลข 20 280 วันที่ 6 ธันวาคม 2562 ต่อมาหลังการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ได้ระบุให้ น.ส. ปารีณา ต้องทำหนังสือส่งมอบคืนที่ดินให้ส.ป.ก.ใหม่ เนื่องจากฉบับที่ส่งมากำหนดเงื่อนไขไว้ ดังนี้ “ข้าพเจ้าและ/หรือบุคคลในครอบครอง ขอสงวนการใช้สิทธิเป็นอันดับแรกตามที่กฎหมายกำหนด”
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้สั่งการให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการส.ป.ก. ทำหนังสือแจ้ง น.ส. ปารีณา ไปอีกครั้ง ให้ทำหนังสือใหม่เพราะการส่งมอบที่ดินเพื่อเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนั้น มีเงื่อนไขไม่ได้ ทางฝ่ายกฎหมายพิจารณาแล้วเห็นว่าการระบุเงื่อนไขในหนังสืออาจทำให้การนำที่ดินมาเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินมีปัญหาตามมาภายหลัง นอกจากนี้ น.ส.ปารีณา ยังระบุในหนังสือว่า “ได้แนบสำเนาการเสียภาษีบำรุงท้องที่ประเภท ภ.บ.ท. 5 มาด้วย” ซึ่งอาจเป็นความเข้าใจของ น.ส.ปารีณา ว่า แสดงถึงสิทธิการครอบครอง ซึ่งตามกฎหมาย ส.ป.ก. เอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่ไม่ได้แสดงสิทธิการครอบครอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี