ตำรวจคุมตัวแก้ว น.ส.ภัทราพร เพชรรัตน์ หนึ่งในห้าผู้ต้องหาแกงค์ค้ายาเสพติดบ้านโคกเมาที่ราดนำมันจุดไฟเผาป้ามาลัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังถูกจับกุมได้เป็นคนที่สองเมื่อวานนี้ และขอตำรวจไปพบแฟนหนุ่มที่ป่วยเป็นโปลีโอร่ำให้ทั้งสองคนอย่างน่าสงสาร
วันที่ 13 ธันวาคม 2562 ความคืบหน้าคดีแกงค์ค้ายาเสพติดบ้านโคกเมา ในต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา รุมซ้อมและจุดไฟเผา นางมาลัย ชุมประมาณ อายุ48ปีหรือป้ามาลัย หรือจอยซึ่งเป็นชื่อเช่นอย่างโหดเหี้ยมเพราะไม่พอใจที่แอบนำยาไอซ์300กรัมไปละลายน้ำทิ้ง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่1 ธันวาคมที่ผ่านมาเหตุในขนำที่พักของป้ามาลัย
ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด 5 คน จับกุมได้แล้ว2 คนคือ นายแบงค์ เยาวชนอายุ17ปีซึ่งจับได้เป็นคนแรกและน.ส.ภัทราพร เพชรรัตน์ อายุ 29 ปี หรือแก้ว ซึ่งถูกจับได้เป็นคนที่สองเมื่อวานนี้หลังจากที่แอบกลับมาซ่อนตัวที่บ้านซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับขนำเกิดเหตุและยอมรับสารภาพว่าเป็นคนซื้อน้ำมันเบนซิล
ส่วนอีก3คนยังหลบหนีประกอบด้วย นายส่อแหล๊ะ จิสวัสดิ์ หรือแหละ อายุ41 หรือแหล๊ะ นาง จันทิรา บินเสหาะ อายุ36ปีหรือแอดซึ่งเป็นผัวเมียกันและเป็นเจ้าของยาไอซ์ และนายยงยุทธ ชุมประมาณ อายุ26ปี หรือเป้ ซึ่งเป็นคนราดน้ำมันและจุดไฟเผา
ล่าสุด ตำรวจสภ.บางกล่ำ นำโดย พ.ต.ท.สนิท สุดทองคง รองผู้กำกับการสอบสวนสภ.บางกล่ำ และร.ต.อ.สมชาย แซ่จิ๋ว รองสารวัตรสอบสวนเจ้าของคดีนี้ ได้ควบคุมตัว น.ส.ภัทราพร หรือแก้ว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพรวม4 จุด
จุดแรกเป็นบ้านลูกสาวของป้ามาลัยในพื้นที่บ้านเสือผ่าน หมู่15 ต.ท่าช้าง ซึ่งแก้วและแบงค์ไปรับตัวมาลัยออกมา จุดที่สองบนสะพานข้ามคลองรอหนึ่ง หมู่13 ต.ท่าช้าง ซึ่งนำป้ามาลัยมาสอบถามเรื่องยาไอซ์ จุดที่สามภายในขนำเกิดเหตุที่จุดน้ำมันราดไฟเผาป้ามาลัย และจุดที่สี่เป็นจุดที่แก้วไปซื้อน้ำมันเบนซิลใส่ขวดมาให้
โดยระหว่างที่ทำแผนแก้วได้ขออนุญาตตำรวจมาพบกับสามีซึ่งป่วยเป็นโปลีโอแขนขาลีบมาแต่กำเนิดซึ่งอยู่ที่บ้านใกล้กับขนำเกิดเหตุและทั้งสองคนโผเข้ากอดกันและร่ำให้อย่างน่าสงสารเพราะทั้งคู่รักกันมากและสาเหตุที่แก้วต้องกลับมาที่บ้านจนถูกจับก็เพราะเป็นห่วงสามีที่ไม่มีใครดูแล
บังอะ สามีของแก้วบอกว่าตอนเกิดเรื่องแก้วก็ทุบตีป้ามาลัยบ้างแต่ตอนหลังช่วยห้ามและยังเป็นคนเอาน้ำไม่ดับไฟที่ป้ามาลัย อยากให้สังคมเข้าใจว่าใครเป็นคนทำและใครผิดใครถูก เพราะปรกติแก้วเป็นคนดีมากอยู่กินและดูแลตนที่ป่วยเป็นโปลิโอมา3ปี และเป็นผู้หญิงคนที่สองรองจากแม่ที่ดีกับตนหลังจากนี้ไม่มีแก้วตนก็ลำบากแน่
ด้าน นางฟาตีมะ ซึ่งเป็นญาติของกลุ่มผู้ต้องหารวมถึงป้ามาลัยซึ่งรู้จักกันดีบอกว่าผู้ต้องหาทั้ง5 คนปกติก็เป็นคนดีช่วยเหลือญาติพี่น้องและไม่มีปัญหากับเพื่อนบ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้น และอยากให้ที่เหลือเข้ามอบตัว
คดีนี้จากคำให้การของแก้วระบุว่าคนที่ราดน้ำมันและจุดไฟเผาป้ามาลัยคือ นายยงยุทธ หรือเป้เพียงคนเดียวส่วนคนอื่นต่างตกใจและช่วยกันดับไป
ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก3คนขณะนี้ตำรวจยังคงกดดันไล่ล่าผู้เชื่อว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่และน่าจะเข้ามอบตัวในเร็วๆนี้เพราะมีรายงานว่าเริ่มอยู่ยากและอยู่กันอย่างลำบากเนื่องจากไม่มีเงินและถูกกดดันจากตำรวจและสังคมอย่างหนัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี