ปภ.ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ง
ระดมแจกน้ำ2.7พันหมู่บ้าน
มท.ยันมีแผนเร่งด่วนรองรับ
จี้รณรงค์ปชช.ช่วยประหยัด
เขื่อน‘อุบลรัตน์’แห้งน่าห่วง
ปภ.ประกาศ 11 จังหวัดเขตประสบภัยแล้ง เร่งประสานแจกน้ำอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่บิ๊กป้อมวอนช่วยประหยัดน้ำให้พอใช้จนกว่าจะพ้นแล้ง “บิ๊กป้อม”ห่วงเขื่อนอุบลรัตน์ น้ำเหลือน้อย ยันรัฐบาลเตรียมพร้อมรับมือมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาค“เหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ”พื้นที่นอกเขตชลประทาน สั่งขุดบ่อบาดาลนำน้ำใต้ดินมาใช้เสร็จแล้วกว่า 400 บ่อ
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยแล้งแล้ว 11 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน นครพนม มหาสารคาม บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา และเพชรบูรณ์ รวม 54 อำเภอ 314 ตำบล 2,798 หมู่บ้าน 1 เทศบาล 7 ชุมชน
ทั้งนี้ ในจ.เชียงราย ประกาศเขตฯภัยแล้งรวม 14 อำเภอ 76 ตำบล 651 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.ดอยหลวง อ.เวียงแก่น อ.เมือง อ.เวียงชัย อ.แม่จัน อ.เชียงของ อ.ขุนตาล อ.เวียงเชียงรุ้ง อ.พาน อ.เทิง อ.เชียงแสนอ.แม่ฟ้าหลวง อ.พญาเม็งราย และอ.ป่าแดด จ.น่าน ประกาศเขตฯภัยแล้ง ในอ.นาน้อย รวม 5 ตำบล 45 หมู่บ้าน จ.เพชรบูรณ์ ประกาศเขตฯภัยแล้ง 5 อำเภอ 33 ตำบล 194 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.น้ำหนาว อ.เมือง อ.ศรีเทพ อ.หนองไผ่ และอ.หล่มเก่า จ.นครพนม ประกาศเขตฯ ภัยแล้ง ในอ.ปลาบาก รวม 8 ตำบล 51 หมู่บ้าน
จ.มหาสารคาม ประกาศเขตฯภัยแล้ง 6 อำเภอ 43 ตำบล 542 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.แกดำ อ.โกสุมพิสัย อ.ชื่นชม อ.เชียงยืน อ.พยัคฆภูมิพิสัย และอ.ยางสีสุราช จ.บึงกาฬ ประกาศเขตฯภัยแล้ง รวม 4 อำเภอ 32 ตำบล 238 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.พรเจริญ อ.เมืองบึงกาฬ อ.ปากคาด และอ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย ประกาศเขตฯ ภัยแล้ง 8 อำเภอ 41 ตำบล 358 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.ท่าบ่อ อ.เฝ้าไร่ อ.รัตนวาปี อ.สระใคร อ.เมืองหนองคาย อ.โพนพิสัยอ.สังคม และอ.โพธิ์ตากิ
จ.บุรีรัมย์ ประกาศเขตฯภัยแล้ง 6 อำเภอ 45 ตำบล 481 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.พลับพลาชัย อ.ประโคนชัย อ.โนนดินแดง อ.ละหานทราย อ.หนองหงส์ และอ.นางรอง จ.กาฬสินธุ์ ประกาศเขตฯภัยแล้ง ในอ.ยางตลาด รวม 4 ตำบล 27 หมู่บ้าน จ.กาญจนบุรี ประกาศเขตฯ ภัยแล้ง รวม 6 อำเภอ 22 ตำบล 195 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.พนมทวน อ.เลาขวัญ อ.ท่าม่วง อ.บ่อพลอย อ.หนองปรือ และอ.ห้วยกระเจา จ.ฉะเชิงเทรา ประกาศเขตฯ ภัยแล้ง รวม 2 อำเภอ 5 ตำบล 16 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.บ้านโพธิ์ และอ.แปลงยาว
นายมณฑลกล่าวต่อว่า ปภ.ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปภ. ได้ประสานจังหวัดเตรียมพร้อมแก้ปัญหาภัยแล้งด้วยการจัดชุดปฏิบัติการสำรวจข้อมูลสถานการณ์น้ำ ข้อมูลแหล่งน้ำและประมาณการใช้น้ำในพื้นที่ ทั้งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงสำรวจและจัดทำบัญชีแหล่งน้ำ ควบคู่กับการปรับปรุงบัญชีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งให้เป็นปัจจุบัน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือภัยแล้งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า จากการประเมินสถานการณ์ได้ประกาศพื้นที่ภัยแล้งไปแล้ว 11 จังหวัด สำหรับสถานการณ์น้ำทั่วไป ปีนี้ถือเป็นปีที่น้ำน้อยที่สุดลำดับที่ 3 ในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตนประเมินว่าน้ำอุปโภคบริโภคขั้นต้น ทั้งการประปาส่วนภูมิภาคและการประปานครหลวงสามารถให้บริการน้ำได้ไม่มีปัญหา แต่หากสถานการณ์รุนแรงจะมีมาตรการเร่งด่วนไว้รองรับ แต่ทั้งนี้ต้องฟังคำชี้แจงเส้นทางน้ำจากกรมชลประทาน เพราะแบ่งพื้นที่เพาะปลูกไว้ ส่วนพื้นที่ประปาท้องถิ่นกำลังสำรวจอย่างละเอียด อาจมีบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องน้ำ แต่เราเตรียมมาตรการช่วยขนน้ำอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายเหมือนทุกปี อย่างไรก็ตาม เราต้องช่วยกันรณรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะจากการตรวจสอบประชาชนยังใช้น้ำกันปกติอยู่ อาจต้องช่วยกันรณรงค์ลดใช้น้ำ เพราะปริมาณน้ำเรามีน้อย
ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวในเรื่องเดียวกันว่า รัฐบาลเตรียมการมาตลอด โดยการนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ในภาคเหนือและอีสาน เพื่อใช้สำหรับน้ำอุปโภคบริโภค ซึ่งขณะนี้ขุดบ่อเสร็จแล้ว 400 บ่อ แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีพื้นที่ไหนวิกฤติขาดแคลนน้ำ ซึ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่นที่มีปริมาณน้ำน้อย ที่น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่อยู่นอกกรมชลประทานจะขาดแคลนน้ำและแล้งมาก
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงหลังประชุม ครม.ถึงมาตรการแก้ปัญหาภัยแล้งที่มาเร็วกว่าเดิม ทำให้หลายพื้นที่ไม่มีน้ำสำหรับทำนาปรัง ว่า เรื่องภัยแล้งวันนี้ต้องยอมรับว่าบางพื้นที่ไม่มีน้ำทำนาปรัง เพราะระบบชลประทานทำได้มากที่สุดไม่เกิน30-40 % นี่คือหลักการสำคัญ ดังนั้นต้องหาวิธีการว่า ทำอย่างไรกับการเพาะปลูกพืชลักษณะนี้ การทำนาปรังไม่ค่อยมีปัญหาในพื้นที่ชลประทาน แต่บางครั้งก็มีเหมือนกันถ้าน้ำต้นทุนน้อย
ขณะที่เราก็ต้องกักเก็บน้ำเอาไว้สำหรับอุปโภคบริโภคด้วย ดังนั้นต้องมองปัญหาทั้งหมด ถ้ามองปัญหาใดปัญหาหนึ่งก็แก้ไม่ได้สักอัน ต้องแก้ด้วยความเข้าใจและต้องขอความร่วมมือให้ใช้น้ำอย่างประหยัด โดยเฉพาะการเกษตรต้องลดใช้น้ำลงให้ได้มากที่สุด จากสถิติเราใช้น้ำเพาะปลูกพืชมากกว่าต่างประเทศใช้ในบางพื้นที่ต้องดูว่า ทำอย่างไรให้มีผลกระทบน้อยที่สุด มาตรการที่รัฐบาลต้องเตรียมการก็คือเรื่องการใช้น้ำบาดาลให้มากยิ่งขึ้น เป็นการรองรับหากน้ำสำหรับอุปโภค บริโภคขาดแคลน เพราะน้ำประปาก็ทำไม่ได้ ก็จะต้องเดือดร้อนกันมากยิ่งขึ้น ก็ขอให้ทุกคนพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันให้มากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี