ตั้งกก.สอบทหาร‘สำคัญผิด’ยิงชาวบ้านดับ 3 ศพที่เขาตะเว ญาติยันไม่ใช่โจรใต้
17 ธันวาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ศูนย์เด็กเล็กบ้านอาเน หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ชาวบ้านและญาติกว่า 100 คน เดินทางมารอรับศพที่ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยจรยุทธ์ยิงบนเขาอาปี หมู่ 8 ต.บองอ เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา
โดยเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พนักงานสอบสวน พร้อมผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครกู้ภัย ได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าว เพื่อจะนำศพมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของวันนี้ ใช้เวลาเดินทางขึ้นไปถึงที่เกิดเหตุเวลา 11.30 น. และคาดว่าจะใช้เวลา 3 ชม.ในการนำศพลงมา สร้างความกดดันและไม่พอใจให้กับญาติที่มีความพยายามที่ประสานขอรับศพหลังเกิดเหตุ แต่ไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องล่วงเลยเวลาเกิน 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาผ่านไปกว่า 35 ชั่งโมง กับการรอคอยศพกลับถึงบ้าน เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม และรอคำชี้แจงจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในการอำนวยความเป็นธรรม หลังจากถูกกล่าวหาว่าผู้ตายเป็นแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ โดยเฉพาะกรณีอาวุธปืนสงครามและปืนพกสั้นที่อ้างว่าเป็นของผู้ตาย ทางญาติไม่เชื่อและรู้สึกถูกเจ้าหน้าที่ใส่ความ จึงทำให้แม่ของผู้ตายรายหนึ่งถึงกับเป็นลมหมดสติเพราะรับไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้งกับศพลูกชายที่เสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง แต่กลับไม่ยอมมอบศพให้กับญาติ เพื่อนำประกอบพิธีตามศาสนาอิสลาม ซึ่งต้องทำให้เร็วที่สุด แต่ญาติกลับต้องรอนานถึง 35 ชั่วโมง
พ่อของหนึ่งในผู้ตาย กล่าวว่า ยังไม่ได้นอนเลยตั้งแต่เมื่อคืน รอลูกกลับมา จะได้ทำพิธี สงสารร่างเขาคงทรมาน ตอนนี้อยากได้ร่างของลูก และความเป็นธรรมให้เขา เพราะเขาไม่ใช่โจร ปืนไม่ใช่ของเขาแน่ ขอให้แม่ทัพ หรือผู้เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเขาทั้ง 3 คน และครอบครัวแก้ข่าวด้วยว่าเขาไม่ใช่คนร้าย เขาเป็นชาวบ้านไปตัดไม้
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น.ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนเยอะมาก จนกระทั่งเวลา 16.00 น. ชาวบ้านเริ่มผิดสังเกตคนอื่นกลับหมด แต่ทำไมเด็กๆ 3 คนนี้ที่ไปตัดไม้ยังไม่กลับมา ก็รวมตัวกันจะขึ้นไปบนเขา แต่มีบางคนบอกว่าเราต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่ จึงส่งตัวแทนไปแจ้งทหารที่ ฉก.45 ทหารบอกว่าคอยก่อน เขาจะติดต่อไป กระทั่งประมาณ 17.00 น. ทหารมาแล้ว ชาวบ้านพร้อม ชรบ. 6 คนขึ้นไป ไม่นานลงมา เขาบอกว่าทหารที่อยู่ข้างบนไม่ยอมให้ขึ้น ให้รอข้างล่าง จนถึงเวลา 14.00 น. ของวันนี้(17 ธันวาคม 2562) ศพยังไม่ถึงที่ พวกเรายังไม่ได้นอนเลย รอลูกกลับมาเพื่อจะทำพิธี กระทั่งเวลา 18.00 น.วันที่ 17 ธันวาคม 2562 ศพถึงบ้าน และทำพิธีทางศาสนาประมาณ 20.00 น.
พ่อของผู้เสียชีวิตรายนี้ กล่าวอีกว่า ปกติเขาอยู่มาเลเซีย เขากลับมาประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมาเพราะค่าเงินริงกิตถูก กลับมาทำผลไม้ ก็กำลังจะไปมาเลเซียแล้ว แต่หนังสือเดินทางยังไม่มา ก็เลยทำไม้ไปเรื่อยๆ เขาทำ 3 วันแล้วที่จุดนี้ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้เลย อยากให้ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมกับพวกเราทุกคนด้วย พวกเขาไม่ใช่คนร้าย
ด้านแม่ของอีกหนึ่งผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ลูกชายเอาเงิน 200 บาทมาให้แล้วบอกว่าให้ซื้อข้าว แล้วเก็บไว้ด้วยจะกลับมากิน แล้วเขาไม่กลับมา จนถึงตอนเย็นญาติไปบอกว่าเขาตายตอนนั้นล้มทั้งยืนเลย ในใจคิดว่าทำไมต้องทำกับเขาด้วย เขาแค่ไปตัดไม้ เข้าใจอยู่ว่าผิดกฎหมายก็ดำเนินคดี เราจะได้ไปเยี่ยม แต่ยิงทิ้งแบบนี้เหมือนลูกไก่เลยทำแบบนี้ อยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องชี้แจง และบอกสังคมให้เข้าใจว่าเขาไม่ใช่คนร้ายอย่างที่มีการใส่ความ จุดนี้ที่โกรธสุดๆยิงเขาแล้วไปบอกว่าเราเป็นคนร้ายแล้วมาบอกว่ามีปืนด้วย
“ขอยืนยันว่าพวกเขาไม่มีปืน ถ้ามีปืนที่เกิดเหตุไม่ใช่ของพวกเขาแน่ และเราก็ไม่รู้ว่าของใคร ขอให้ทุกฝ่ายให้ความเป็นธรรมด้วย เขามีอาชีพรับจ้างทำไม้กับหาน้ำผึ้ง เขาไม่เคยมั่วเรื่องอื่นๆ คดีก็ไม่มี 3 คนไม่มีคดียาเสพติด พ.ร.ก.ไม่มี ตรวจสอบได้ ชาวบ้านยืนยันได้หมด น้ำกระท่อมยอมรับว่าเขามีกิน เขาทำงานก็เพื่อตัวเขาไม่ไปยุ่งกับคนอื่น” แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าว
ด้านพ่อของอีกหนึ่งผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ยืนยันว่าลูกชายและหลาน รวมถึงเพื่อนของเขาไม่ใช่โจร ไม่ใช่คนร้ายตามที่เป็นข่าว พวกเขาแค่เข้าไปตัดไม้บนภูเขาเพื่อหารายได้ และยืนยันว่าปืนที่พบ ไม่ใช่ของลูกชายแน่นอน
ส่วนนายมุสตอปากามา สะมะแอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.บองอ และนายนิมัน เซ็งสาเมาะ กำนันตำบลบองอ กล่าวยืนยันว่า ถ้าคนตายคือคนเดียวกับ 3 คนที่ปรากฏในบัตรประจำตัวประชาชนตามที่เป็นข่าว ก็ต้องถือว่าไม่ใช่คนร้าย เพราะไม่เคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความมั่นคง
ล่าสุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ออกแถลงการณ์เรื่อง ข้อเท็จจริงเหตุยิงราษฎรเสียชีวิต 3รายบนเขาตะเว ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จากกรณีเจ้าหน้าที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ได้ปะทะกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย เหตุเกิดเมื่อ 16 ธันวาคม 2562 บนเทือกเขาตะเว ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส นั้น
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงให้ทราบดังนี้ ในนามของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ที่เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยขอยืนยันว่าจะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ด้วยความโปร่งใสและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ แม้เบื้องต้นพบว่าเป็นการสำคัญผิดของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามหากภายหลังพบว่าเจ้าหน้าที่กระทำความผิดด้วยความจงใจก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาทหารขั้นสูงสุดโดยไม่มีข้อยกเว้น
2.จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นพบว่าการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นการขยายผลจากเหตุปะทะกับกลุ่มคนร้ายเมื่อ 4 ธันวาคม 2562ในพื้นที่ หมู่ 13 ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส แต่คนร้ายได้หลบหนีไปได้ และจากภาพข่าวความเคลื่อนไหวของคนร้ายอย่างต่อเนื่องในห้วงที่ผ่านมา จึงได้จัดกำลังเข้าไปพิสูจน์ทราบ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เคยปะทะกับกลุ่มคนร้ายหลายครั้งในห้วงที่ผ่านมา
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เจอกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายประมาณ 4-5 คน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว เพื่อตรวจสอบแต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้วิ่งหลบหนีพร้อมกับได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยิงตอบโต้และเมื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ส่วนที่เหลือได้หลบหนีไปได้
3.ในห้วงที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เปิดแผนเข้ากดดันบังคับใช้กฎหมายกลุ่มคนร้ายในพื้นที่ป่าภูเขาทุกพื้นที่ พร้อมได้ออกคำสั่งห้ามราษฎรขึ้นไปหาของป่าหรือกระทำสิ่งอื่นใดในพื้นที่ป่าภูเขา
ทั้งนี้ ได้แจ้งผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบโดยต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่เทือกเขาเมาะแต และเทือกเขาตะเว ถือเป็นพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาดเพราะเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ได้เคยปะทะกับกลุ่มคนร้ายมาแล้วหลายครั้ง โดยที่ผ่านมาสามารถตรวจยึดฐานที่มั่นบนพื้นที่ เขาตะเวและเขาเมาะแตได้ถึง 8 ฐาน
อย่างไรก็ตามเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงในเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3ราย เป็นราษฎรในหมู่บ้าน มิใช่ผู้ก่อเหตุรุนแรง ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง แต่ได้สำคัญผิดว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ปรากฏภาพข่าวความเคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าว ก็ตาม แต่เมื่อเกิดความสูญเสียขึ้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้ โดยจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนของหน่วยเพื่อดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางวินัย และทางอาญาขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีข้อละเว้น
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการ ด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรอิสระจากผู้แทนของทุกภาคส่วนที่ได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานอย่างเป็นอิสระด้วยความโปร่งใส เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาให้เหมาะสมและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่บทสรุปดังกล่าว จะไม่มีข้อพันธะผูกพันทางกฎหมาย ทั้งนี้ จะรายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้สังคมทราบเป็นระยะๆต่อไป
ด้านทหารพรานในพื้นที่ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่เกิดเหตุขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ แต่ยอมรับว่าเป็นทหารจากพื้นที่อื่นเป็นหน่วยหนึ่งที่เข้ามาปฏิบัติการณ์ในพื้นที่ โดยไม่ได้ประสานกับกำลังในพื้นที่แต่อย่างใด จึงรู้สึกไม่กล้ามองหน้าชาวบ้านในพื้นที่รับผิดชอบ เพราะคนที่เสียชีวิตขุนเคยดี บางดีก็นั่งคุยกัน มีกาแฟก็นั่งขงกินกัน ไม่เคยมีพฤติกรรมที่ส่อเป็นที่น่าสงสัยแต่อย่างใด ซึ่งถ้ามีการประสานกำลังในพื้นที่ก่อนคงไม่เกิดเหตุในลักษณะนี้ แต่กำลังที่เข้ามาปฏิบัติการกลับไม่ประสานกับหน่วยในพื้นที่ จนถึงวันนี้เราก็ยังไม่รู้เลยมันเกิดอะไรขึ้น เพราะหน่วยพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้เลย เราจึงไม่รู้จะตอบชาวบ้านในพื้นที่อย่างไรถ้าเกิดมีชาวบ้านถาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี