คลิปวงจรปิด “คิด  เดอะริปเปอร์”  ซื้อตั๋วขึ้นรถไฟที่บุรีรัมย์  ปลายทางอยุธยา  ก่อนถูกจับที่ปากช่อง นายสถานีเผยผู้ต้องหาสวมหมวกแก๊ป ใส่แมสปิดบังใบหน้าอำพรางตัวมิดชิด พนักงานขายตั๋วจึงไม่ทันสังเกตและไม่คาดคิดว่าฆาตกรต่อเนื่องจะกล้าย้อนรอยกลับมาในพื้นที่ที่เคยก่อเหตุอีก  ขณะ ตร.เข้าตรวจยึด จยย.เหยื่อที่สมคิด ขโมยขับมาจอดทิ้งไว้ใน รพ.

เมื่อเวลา 11.00 น. (18 ธ.ค.62)  นายบรรจง จันทร  นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์  และตำรวจรถไฟ  ได้ร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่สถานีรถไฟ   หลังทราบว่านายสมคิด    พุ่มพวง  หรือ “คิด เดอะริปเปอร์”  ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ฆ่าหญิงสาวหมอนวดและนักร้องคาเฟเสียชีวิตถึง 6 ศพ ได้เดินทางมาขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์  เพื่อเดินทางหลบหนีการจับกุม

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ ขณะที่นายสมคิด ฆาตกรต่อเนื่อง  เดินทางมาซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ช่วงเวลา 05.21 น. เป็นรถเร็ว เที่ยวล่อง ขบวนที่ 234 ต้นทางสถานีสุรินทร์ ปลายทางกรุงเทพฯ แต่ได้ซื้อตั๋วลงที่สถานีรถไฟอยุธยา รถไฟมาถึงสถานีบุรีรัมย์ เวลา 06.05 น. ออกจากสถานีบุรีรัมย์ เวลา 06.-07 น.

โดยขณะที่ซื้อตั๋วนายสมคิด ได้แต่งกายอำพรางตัวอย่างมิดชิด  ทั้งสวมเสื้อคลุมแขนยาว ใส่หมวกแก๊ป และหน้ากากอนามัย หรือแมสปิดบังใบหน้า  ประกอบกับขบวนดังกล่าวเป็นขบวนรถไฟธรรมดา จึงไม่ได้ขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน  ทำให้พนักงานที่ขายตั๋วไม่ทราบว่าเป็นนายสมคิด ฆาตกรต่อเนื่องที่ถูกออกหมายจับ และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งไล่ล่าตัว กระทั่งนายสมคิด ถูกจับกุมได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา

นายบรรจง  จันทร  นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังทราบว่ามีการจับกุมนายสมคิด ฆาตกรต่อเนื่องได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง   ก็ได้ทำการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟบุรีรัมย์  ก็พบว่านายสมคิด  ได้มาซื้อตั๋วและขึ้นรถไฟที่บุรีรัมย์จริง  แต่เนื่องจากนายสมคิด  มีการแต่งกายอำพรางตัวเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับและก็ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้ต้องหาที่เคยก่อเหตุจะกล้าย้อนรอยหลบหนีมาในพื้นที่บุรีรัมย์

ขณะที่ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์  พร้อม พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล  รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ได้เข้าทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ  สีขาว-แดง ของผู้เสียชีวิต ที่นายสมคิด ผู้ต้องหาขโมยมา แล้วขับไปจอดทิ้งไว้บริเวณหน้าตึกศัลยกรรมกระดูก  ภายในโรงพยาบาลบุรีรัมย์  ก่อนจะเดินไปซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟ โดยนายสมคิด ได้ถอดป้ายทะเบียนออกเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำรถ จยย.คันดังกล่าว ไปตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอนต่อไป

ขณะที่ตำรวจกองปราบปรามเปิดเผยเส้นทางหลบหนีของนายสมคิด หลังก่อเหตุหลังหลบหนีก่อคดีฆ่ารัดคอนางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี ชาวอำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเหยื่อคนที่ 6 โดยใช้รถจักรยานยนต์ของผู้ตายเข้าตัวเมืองขอนแก่น ขับต่อไปนอนค้างคืนที่จังหวัดมหาสารคาม 1 คืน จากนั้นหลบหนีในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนขึ้นรถไฟขบวนดีเซลรางที่ 234 อุบลราชธานี-กรุงเทพฯที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในช่วงเช้ามืดวันนี้ (18ธ.ค.) เพื่อมุงหน้าเข้ากรุงเทพฯ

เมื่อมาถึงสถานีชุมทางปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีพลเมืองดีพบเห็นนายสมคิด อยู่ในสภาพสวมเสื้อผ้าปิดบังใบหน้ามิดชิด สวมเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ หน้ากากอนามัย หมวกแก๊ป สะพานกระเป๋าที่เอว นั่งมาในลักษณะผิดสังเกต ซุกตัวอยู่กับเบาะที่นั่ง ไม่กล้าเหลียวมองสบตาผู้ใด จึงเชื่อว่าเป็นนายสมคิด ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ตำรวจกำลังตามล่าตัว จึงโทรศัพท์แจ้ง 191 ให้มาตรวจสอบ กระทั่งตำรวจไล่ติดตามรถไฟขบวนดังกล่าว วิ่งมาถึงสถานีปากช่อง จึงเข้าตรวจค้นพบชายต้องสงสัยคือนายสมคิด จริงจึงเข้าจับกุมคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป