18 ธันวาคม 2562 พ.ต.ต. (หญิง) กัลยาณี ท่าโพธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 132/4 ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ซอยอู่ทอง ชุมชนวิเศษชัยชาญ เขตเทศบาลนครพิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นางกนกอร ศรีกระจ่าง อายุ 61 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าเลือดไหลนองกองเต็มพื้นอยู่หน้าบ้านพัก ตรวจสอบตามร่างกายพบมีรอยคมกระสุนยิงเข้าที่บริเวณสีข้างใต้รักแร้ด้านขวา 1 แห่ง น่องขาซ้าย 1 แห่ง น่องขาขวา 1 แห่ง และมีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกถูกอยู่ในที่เกิดเหตุ 3 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบศพผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ภายในห้องนอนหลังบ้านที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.เล็ก ศรีกระจ่าง อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นสามีของนางกนกอร ผู้เสียชีวิต สภาพนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน โดยใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. แบบแม็กกาซีน จ่อยิงเข้าที่ขมับด้านขวาทะลุด้านซ้าย นอนจมกองเลือดอย่างน่าสยดสยอง
จากการสอบสวน นางพรรณี วรรณเพิ่มพูล อายุ 66 ปี พี่สาวของนางกนกอร ผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังว่า นายเล็กและนางกนกอร ผู้เสียชีวิต ได้จดทะเบียนอยู่กินกันฉันสามีภรรยามานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่นายเล็กซึ่งเคยมีอาชีพรับราชการเป็นสารวัตรทหารอยู่ที่เคยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก แต่เกษียณออกมานานแล้วเพื่อมาดูแลหอพักแห่งหนึ่ง โดยมีนิสัยอารมณ์ร้อนชอบดื่มเหล้าเวลามึนเมาก็จะทำร้ายตบตีภรรยาประจำ บางครั้งก็เคยมีการบีบคอจนภรรยาสลบไป ภรรยาจึงต้องทำการฟ้องหย่าเพื่อแบ่งทรัพย์สิน ก่อนจะหลบหนีมาอยู่กับตนเองที่บ้านเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว โดยที่ผ่านมานายเล็กไม่ทราบเรื่องว่าภรรยาหายไปอยู่ที่ใด กระทั่งในวันนี้จะต้องไปขึ้นศาลในช่วงบ่ายเพื่อฟ้องหย่า จนกระทั่งนายเล็กทราบข่าวว่าภรรยาหนีมาอยู่ที่บ้านของตน
จึงเดินทางมาตามหาที่บ้านแล้วพบเจอกันถึงขั้นทะเลาะมีปากเสียงอย่างรุนแรง ขณะนั้นนางกนกอรก็ได้ว่าจ้างช่างมาติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านด้วยเนื่องจากเกรงกลัวจะมีเหตุร้าย ซึ่งตนได้โทรแจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุจนนายเล็กกลับไป แต่สุดท้ายนายเล็กก็ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับมาอีก และมีอาวุธปืนพกติดตัวมาด้วยก่อนจะใช้ไว้อาวุธปืนไล่ยิงภรรยาจนเสียชีวิต แล้วใช้ปืนไล่ยิงตนเองจนหนีหัวซุกหัวซุน ซึ่งตนได้วิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ห้องของบ้านอีกหลังหนึ่ง ล็อคกลอนประตูอย่างแน่นหนาจนไม่สามารถเข้ามาได้ ส่วนช่างวงจรปิดก็กลัวจะถูกลูกหลงจึงพากันวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที ตนจึงออกมาดูก็พบว่านายเล็กใช้อาวุธปืนยิงตัวตายในห้องนอนของตนแล้ว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานคาดว่า ขณะเกิดเหตุ นางกนกอร ผู้เสียชีวิต ได้ว่าจ้างให้ช่างมาติดกล้องวงจรปิดเพราะอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้น เนื่องจากทราบดีว่า จ.ส.อ.เล็ก ศรีกระจ่าง ผู้ก่อเหตุ มีนิสัยใจร้อนและขี้โมโห เมื่อเจอกันอาจจะทุบตีภรรยาอีกจึงต้องติดกล้องวงจรปิดเพื่อไว้เป็นหลักฐาน เป็นจังหวะเดียวกันที่ผู้ก่อเหตุเดินทางมาของ้อคืนดีด้วยพอดี ส่วนในวันนี้ต้องไปขึ้นศาลในช่วงบ่าย
คาดว่าอาจจะมีปากเสียงกันทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนจะบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงภรรยาเสียชีวิต จากนั้นใช้ปืนไล่ยิงนางพรรณีแต่หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะตัดสินใจใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองตายตามภรรยาเพื่อหนีความผิดที่ก่อเอาไว้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงครั้งนี้ รวมถึงสอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมกับส่งร่างของผู้เสียชีวิตเพื่อผ่าชันสูตรพลิกศพ ก่อนมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี