พนักงานรถไฟบุรีรัมย์ ออกมาชี้หลังถูกโซเชียลรุมตำหนิขาดไหวพริบ ขายตั๋วให้ฆาตกรไม่มอง ลั่นสุดน้อยใจทำหน้าที่ตามระเบียบการรถไฟตั๋วขบวนธรรมดาไม่ต้องขอดูบัตร และใช้เวลาเพียง 1 นาที ด้านนายสถานีวอนเห็นใจ จนท.กลางคืนเข้าเวรขายตั๋วคนเดียวและก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้รับการประสานหรือมีป้ายประกาศจับบุคคลอันตราย แต่หลังจากนี้ก็กำชับให้คอยสังเกตสิ่งผิดปกติมากขึ้น
วันที่ 20 ธันวาคม 2562 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายสมคิด พุ่มพวง หรือ คิด เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่อง และผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม นางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี ได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชนหลายพื้นที่ รวมถึง จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากเคยก่อเหตุฆ่าสาวหมอนวดเป็นศพที่ 5 ที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ก่อนถูกจับกุมตัวได้เมื่อปี 2548 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสมคิดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งที่ จ.ขอนแก่น, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด และบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจุดที่นายสมคิด ใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
แต่ล่าสุดกลับมีกระแสดราม่า เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากได้ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำภาพวงจรปิดภายในสถานีรถไฟบุรีรัมย์ มาโพสต์ พร้อมเขียนข้อความว่า “สมคิด พุ่มพวง” จริง ๆ แล้วเขาควรจนมุมและถูกรวบตัวที่บุรีรัมย์ ต้องยอมรับว่าการประกาศจับและลงรูปนายสมคิด พุ่มพวง บุคคลอันตรายในโซเชียลของตำรวจ ทำให้ประชาชนทั่วไปจำใบหน้าและตำหนิของเขาได้ง่าย แต่สุดท้ายก็มีพลเมืองดีบนขบวนรถไฟโทรแจ้งตำรวจและจับกุมตัวได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เขาก็ได้ขึ้นรถไฟโดยสารออกจากสถานีบุรีรัมย์ไปแล้วเกือบ 4 ชั่วโมง ถ้าเขาเกิดลงระหว่างทางก่อนถึงสถานีโคกกรวด ป่านนี้ก็ยังคงจับเขาไม่ได้ ซึ่งการโพสต์ดังกล่าว ทำให้โลกโซลเชียลต่างออกมาวิจารณ์กันเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย โดยเฉพาะพนักงานขายตั๋วสถานีรถไฟบุรีรัมย์
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามที่สถานีรถไฟ แต่พนักงานที่ขายตั๋วในวันนั้นไม่ได้เข้าเวร เนื่องจากช่วงกลางวันจะพนักงานขายตั๋วเข้าเวร 3 คน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. กะกลางคืนเข้าเวรตั้งแต่เวลา 18.00 – 06.00 น.
โดยมีพนักงานขยตั๋ว ประจำสถานีรถไฟ คนหนึ่ง ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ในฐานะพนักงานขายตั๋วด้วยกัน ก็รู้สึกเสียใจและน้อยใจที่ถูกโซเชียลตำหนิแบบเสียหาย ทั้งขอชี้แจงด้วยว่าพนักงานทำหน้าที่ตามระเบียบข้อกำหนดของการรถไฟ โดยเฉพาะการขายตั๋วขบวนธรรมดา ไม่ต้องขอดูบัตร ปชช.จากผู้ที่มาซื้อตั๋ว และในวันนั้นตามที่ปรากฏในวงจรปิดก็ใช้เวลาขายตั๋ว เพียง 1 นาที จึงไม่มีเวลาที่จะไปจ้องมองหน้าใคร โดยเฉพาะนายสมคิดที่ปิดบังใบหน้ามาอย่างมิดชิด “จริงแล้วก่อนที่จะมาถึงคนขายตั๋ว ผ่านเจ้าหน้าที่มาหลายฝ่าย และผ่านมาตั้งหลายจังหวัด ซึ่งจังหวัดเหล่านั้นใกล้กับจุดที่เกิดเหตุด้วยซ้ำ อยากให้สังคมเห็นใจด้วย
ด้านนายบรรจง จันทร นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ก็ออกมาชี้แจงว่า ตามที่ปรากฎในสื่อสังคมโซเชียล ว่าพนักงานสถานีรถไฟบุรีรัมย์จำหน่ายตั๋วให้กับนายสมคิด ฆาตกรต่อเนื่อง โดยไม่ตรวจสอบบัตรประชาชนและไม่สังเกตผู้โดยสารที่มาติดต่อซื้อตั๋วนั้น ในฐานะผู้รับผิดชอบ ขอชี้แจงดังนี้
1.ระเบียบของการรถไฟแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการจำหน่ายตั๋วชั้นสามกับรถโดยสารธรรมดาและซื้อตั๋วในวันเดินทางไม่ต้องแสดงบัตรประชาชน 2.ผู้ต้องหาใส่หมวกสวมแม็สปิดใบหน้า จึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าที่ชัดเจน 3.ระยะเวลาที่มาซื้อตั๋วใช้เวลาหน้าช่องจำหน่ายตั๋วเพียง 1 นาที ซึ่งไม่มีเวลาที่จะทันได้สังเกตความผิดปกติ 4.ได้สอบถามพนักงานที่จำหน่ายตั๋วแล้วเหตุที่ไม่ได้สังเกตและเฝ้าระวัง เพราะไม่ได้ติดตามข่าวสารจากทางสื่อต่างๆ รวมทั้งไม่ได้รับแจ้งจากผู้เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังผู้ต้องหารายนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ดี สถานีรถไฟบุรีรัมย์ยินดีน้อมรับคำติชมและจะนำไปปรับปรุงการทำงานเพื่อให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจสูงสุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี