เตรียมตัวรับภัยแล้งสาหัส
หนักสุดรอบ40ปี
อากาศแปรปรวนร้อนพุ่ง
รุนแรงใกล้เคียงปี’58-59
ภาคเกษตรเสี่ยงงดนาปรัง
นักวิชาการเตือนรับมือ วิกฤติแล้งสาหัส ต่อเนื่องปี’63 รุนแรง ใกล้เคียงปี’58-59 ฝนตกน้อย น้ำน้อย ภาคเกษตรเสี่ยงเสียหาย จี้ รบ.ออกประกาศงดทำนาปรัง ขณะที่อุณหภูมิร้อนขึ้นต่อเนื่องมากกว่าค่าปกติในรอบ 30-40 ปี
“บิ๊กป้อม” นั่งหัวโต๊ะถกแผนจัดการน้ำ รับปีนี้น้ำแล้ง สั่งขุดบาดาลเพิ่ม 500 บ่อ วอนปชช.ช่วยใช้ประหยัด-งดทำนาปรัง ขณะที่ สทนช.วางแผนสู้ภัยแล้ง เพื่อให้มีน้ำใช้ถึง กรกฎาคม ขณะที่อ่างทองประปาสะดุดไหลอ่อน น้ำต้นทุนลดฮวบ เตือนชาวบ้านสำรองน้ำไว้ใช้
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิตเปิดเผยว่า ประชาชนกำลังเผชิญผลกระทบจากภัยแล้ง ทั้งการประปาส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง น้ำบริโภคเริ่มขาดแคลน น้ำเค็มรุกล้ำ กรมชลประทานงดส่งน้ำทำนาปรังในภาคอีสานบน และอีสานกลาง รวมทั้งลุ่มน้ำเจ้าพระยาหลายจังหวัด จากการคาดการณ์ภาพรวมปริมาณฝน 6 เดือนข้างหน้า พบว่าภัยแล้งมีแนวโน้มมากขึ้นถึงเดือนพฤษภาคมปี 2563
เตือนแล้งจัดข้าวออกผลผลิตน้อย
ทั้งนี้ ฝนจะเริ่มเต็มเม็ดเต็มหน่วยตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ชาวนาที่ทำนาปรังไปแล้วและกำลังคิดที่จะทำอีกต้องบริหารความเสี่ยงตัวเองด้วย กล่าวคือ จะมีปริมาณน้ำไม่พอถึงเดือนพฤษภาคม 2563 ถึงฤดูเก็บเกี่ยวเดือนมีนาคม-เมษายน-พฤษภาคม ข้าวเสี่ยงขาดน้ำ ขณะที่จะอาศัยฝนก็ไม่มี คาดการณ์ว่าผลผลิตนาปรังปี 2563 จะออกมาน้อยกว่าปกติ ไม่ถึง 8 ล้านตันข้าวเปลือก และปริมาณน้ำอุปโภค-บริโภคในบางพื้นที่จะไม่เพียงพอ ขณะนี้กำลังประเมินร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค
น้ำน้อยเท่าปี58-59จี้ประกาศงดนาปรัง
นายเสรีกล่าวต่อว่า ส่วนกทม.และปริมณฑลมีน้ำกร่อยบ้าง ตามประกาศของการประปานครหลวง สำหรับชาวนาที่คาดหวังกับการทำนาปี ก็ต้องรอจนกลางปีคือ เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป อย่ารีบหว่านกล้าเดือนพฤษภาคมจะเสียหายได้ เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนปัจจุบันมีน้อยมากใกล้เคียงกับปีแล้ง 2558-2559 ที่ผ่านมา แต่ในปี 2558-2559 มีการประกาศให้งดทำนาปรัง จึงผ่านเหตุการณ์มาได้ ขณะที่ปีนี้ต่อจนถึงปีหน้า ไม่มีประกาศใดๆจึงไม่สามารถควบคุมพื้นที่เพาะปลูกได้ การใช้น้ำภาคการเกษตรจึงมีความเสี่ยงสูงกว่า
ร้อนทุบสถิติ40ปีก่อน
“ที่สำคัญอุณหภูมิประเทศไทย มีแต่สูงขึ้น สูงขึ้นจากค่าปกติเมื่อ 30-40 ปีก่อน จากผลพวงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีแต่เฉพาะช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 3-9 ธันวาคม ที่อุณหภูมิรายวันต่ำกว่าปกติ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เสถียร จากความกดอากาศสูง”นายเสรีกล่าว
สั่งขุดบาดาล500บ่อ-ชะลอนาปรัง
สอดคล้องกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2562 ว่า ปีนี้เป็นปีที่น้ำแล้งมากกว่าปกติ ต้องเตรียมนำน้ำใต้ดินและน้ำบนดินมาใช้ให้เพียงพออุปโภคและบริโภค ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ในส่วนน้ำใต้ดินได้เจาะน้ำบาดาลเพิ่มประมาณ 500 บ่อทั่วประเทศในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือ ทั้งนี้ ฝากถึงประชาชนขอให้ช่วยกันประหยัดน้ำ ขณะที่การทำนาปรังขอให้เกษตรกรอย่าเพิ่งทำนาปรัง เพราะเราไม่มีน้ำแล้วจะทำนาปรังได้อย่างไร และขอให้ปลูกพืชน้ำน้อยดีกว่า แต่ต้องดูว่ากรมชลประทานมีน้ำเพาะปลูกหรือไม่ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ดำเนินการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกมาตรการจูงใจเกษตรกรไปแล้ว
สทนช.ชี้ปีนี้น้ำแล้ง-วางแผนใช้ให้ถึงกค.
ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนบริหารจัดการน้ำเสียในอีก 20 ปีข้างหน้าใน 446 พื้นที่ที่เป็นการบำบัดให้แหล่งน้ำชุมชน 780 แห่ง นอกจากนี้ ยังตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำระดับจังหวัดโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานดูแผนใช้งบประมาณและการบริหารจัดการน้ำ 40 จังหวัด นอกจากนี้ ยังหารือการป้องกันภัยแล้ง ซึ่งปีนี้บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะมีการใช้น้ำมากกว่าแผนที่กำหนดไว้เกือบ 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ดังนั้น จะปรับลดเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพราะใน 2-3 เดือนข้างหน้าอาจกระทบการใช้น้ำ ซึ่งพล.อ.ประวิตรสั่งให้กองทัพบกโดยกรมการทหารช่างและหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย กรมทรัพยากรน้ำบาดาลไปขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล รวมถึง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจสถานพยาบาลในการใช้น้ำ โดยในส่วนการประปาส่วนภูมิภาคไม่มีปัญหา แต่อาจจะมีสถานพยาบาลขนาดเล็กจะมีปัญหา จึงต้องวางแผนแก้ไขให้เรียบร้อย ขณะที่ด้านการเกษตรนอกเขตชลประทานที่เสี่ยงรุนแรง 3.7 แสนไร่จะมอบให้กรมทรัพยากรน้ำและกระทรวงเกษตรฯไปบูรณาการช่วยเหลือ ยอมรับว่าปีนี้น้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมาและคาดการณ์ฝนน้อย จึงต้องวางแผนใช้น้ำให้ได้ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม .
อ่างทองน้ำลดฮวบประปาไหลอ่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มขยายวงกว้างหลายพื้นที่ อย่างจ.อ่างทอง สำนักงานการประปาอำเภอวิเศษชัยชาญ ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนผู้ใช้น้ำประปา 5,300 ครัวเรือน จากวิกฤติภัยแล้งทำให้แหล่งน้ำดิบของการประปาวิเศษชัยชาญได้รับผลกระทบต้องลดแรงดันน้ำประปา ทำให้น้ำประปาไหลอ่อนลง พร้อมให้เตรียมหาภาชนะสำรองเก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง นอกจากนี้ ยังเตรียมนำเครื่องจักรกลหนักมาขุดร่องน้ำ เปิดทางเดินของน้ำเชื่อมต่อแม่น้ำน้อย มายังคลองขุนที่จุดสูบน้ำประปา มาผลิตน้ำประปาให้ประชาชน นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนน้ำจากการประปาจังหวัดอ่างทองส่งน้ำประปามาให้ประชาชนในพื้นที่อ.วิเศษชัยชาญและใกล้เคียง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
นราฯท่วมสูงเกือบ2เมตรเร่งอพยพ
อีกด้านหนึ่งมีรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ริมฝั่งแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยช่วงเช้าระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งเกือบ 2 เมตร และน้ำจากฝั่งมาเลเซียไหลเข้ามาสมทบ ทำให้น้ำเพิ่มสูงขึ้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมฝั่ง จนต้องขนย้ายสิ่งของ พาครอบครัวไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนเทศบาล 4 เทศบาลสุไหงโก-ลก 160 คน ขณะที่สินค้าพืชผลทางการเกษตรเริ่มมีราคาแพงขึ้น เนื่องจากพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย ต้องสั่งมาจากจังหวัดอื่น นอกจากนี้ ชาวบ้านฝั่งมาเลเซียที่ถูกน้ำท่วมหนักเช่นกัน ต่างทยอยนั่งเรือข้ามฝากเดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้าจากฝั่งไทยด้วย
ระดมเครื่องสูบน้ำระบายน้ำท่วมขัง
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และยะลา ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานี แม่น้ำโก-ลก แม่น้ำสายบุรี และคลองตันหยงมัส เพิ่มสูงขึ้นและล้นเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่ง ล่าสุดแม่น้ำโก-ลก อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาสน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 1.87 เมตร แนวโน้มลดลงถ้าไม่มีฝนตกเพิ่ม ที่ยะลา แม่น้ำปัตตานี ที่ผ่านอ.เมืองยะลา แนวโน้มลดลง ส่วนที่จ.ปัตตานี แม่น้ำปัตตานีที่ผ่านอ.เมืองระดับน้ำยังสูงกว่าตลิ่ง 27 เซนติเมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนการให้ความช่วยเหลือนั้น กรมชลประทาน ส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 25 เครื่อง และ เครื่องผลักดันน้ำ 4 เครื่อง พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำจากสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าอีก 9 สถานี เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังแล้ว พร้อมให้ชลประทานจังหวัดเฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี