“มนัญญา”ลั่นถึงเวลา ปฏิรูปกรมวิชาการเกษตรเรื่องอนุญาตนำเข้าสารเคมีทางการเกษตรขจัดปัญหาผลประโยชน์ใต้โต๊ะเล็งจัดระเบียบ ตั้งแต่โรงงานผลิตสารเคมีเกษตรถึงร้านค้า รวมถึงคนซื้อ กำชับทุกร้านค้าต้องแยกส่วนขายให้ชัด ตั้งกรรมการศึกษา300สารเดินหน้า หาตัวที่ต้องยกเลิกเป็นชนิดต่อไป
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยความคืบหน้าการจำกัดการใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิดคือพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตหลังคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเลื่อนการยกเลิกใช้ไปอีก 6 เดือนว่าตนสั่งการให้กรมวิชาการเกษตร เตรียมออกประกาศกระทรวงเกษตรฯ3ฉบับ รองรับมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่จะออกมา เพื่อดูแลเกษตรกรและประชาชน จากผลกระทบของสารเคมีดังกล่าว รวมถึงเกษตรกรที่ต้องได้ซื้อสินค้าที่การผลิตมีมาตรฐาน ตรวจสอบย้อนกลับได้ จากนี้ไปจะปฏิรูปกรมวิชาการเกษตรเรื่องอนุญาตนำเข้าสารเคมีทางการเกษตรทั้งหมด ไม่ให้มีปัญหาผลประโยชน์ใต้โต๊ะ ใต้ดินกันอีกต่อไป
รมช.เกษตรฯกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ประกาศกระทรวงเกษตรฯ 3 ฉบับ ประกอบด้วย เรื่องกำหนดให้โรงงานผลิตสารเคมีหรือวัสดุปัจจัยทางการเกษตร ต้องมีมาตรฐานไอเอสโอ 9001 เรื่องขั้นตอนการผลิต และเรื่องบริษัทหรือโรงงานที่จะผลิตสารเคมี ต้องมีไอเอสโอ14001 ซึ่งเป็นมาตรฐานเรื่องการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อม น้ำเสีย และโรงงานต้องมีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับตรวจสอบสารเคมีมาตรฐานไอเอสโอ 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตต้องมีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจสอบสารเคมีที่บริษัทผลิตจำหน่าย ถึงสารตกค้าง โดยทั้ง 3 ฉบับ เป็นไปตามพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ขณะนี้ร่างดังกล่าวยกร่างเสร็จแล้ว เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธาน ซึ่งนัดประชุมเดือนธันวาคมนี้ เพื่อทราบ และประกาศในราชกิจจาฯ
น.ส.มนัญญากล่าวอีกว่า ความต้องการของตนคือ ยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตรทั้ง 3 ชนิด แต่เมื่อคณะกรรมการฯมีมติออกมา ก็ต้องเคารพ แต่เพื่อคุ้มครองประชาชน ตนเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องจัดระเบียบโรงงานผลิตสารเคมีเหล่านี้ให้มีมาตรฐาน ประกาศทั้ง 3 ฉบับจะมีผลทำให้ทุกบริษัทที่ผลิตปุ๋ย หรือสารเคมีเกษตร ต้องมีการผลิตที่มีมาตรฐาน จะทำแบบเดิมไม่ได้ ที่นำเข้ามาขายแล้ว มีคนมาซื้อจะนำไปผลิตในยี่ห้อต่างๆตามใจชอบไม่ได้ เช่น สารพาราควอต ไปผสมเป็น3-4ยี่ห้อ ได้มาตรฐานหรือไม่ก็ไม่ทราบ ดังนั้นต่อไปบริษัทต้นทางต้องปฏิบัติตามประกาศ 3 ฉบับ และต้องรับผิดชอบ
สำหรับร้านจำหน่ายสารเคมี ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด เพราะมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 มีผลบังคับเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 แล้วว่าจำกัดการใช้ ดังนั้น ต้องแยกมุมจำหน่าย 3 สาร ออกจากสารเคมีทั่วไปให้ชัดเจน ฉลากต้องตัวใหญ่แสดงให้ประชาชนเห็น ผู้ซื้อต้องมีใบอนุญาตซื้อที่ถูกต้อง และต่อไปการอนุญาตจำหน่ายจะกำหนดให้ 1 ทะเบียนต่อ 1 ชื่อการค้าเท่านั้นจะไม่ปล่อยให้ทำกัน 2-3 ชื่ออีก เมื่อมีปัญหาจะได้มีเอกชนรับผิดชอบถูกตัว ประชาชนจะได้รู้ว่ายี่ห้อที่ประชาชนซื้อมาใช้ ผลิตโดยบริษัทอะไร
รมช.เกษตรฯกล่าวด้วยว่า เพื่อแก้ข้อครหาเรื่องรับผลประโยชน์ในการขึ้นทะเบียน การต่ออายุสาร และการตรวจเช็กสารเคมีทั่วประเทศ รมช.เกษตรฯ จะกำหนดให้ทำทะเบียนร้านค้า ที่ขึ้นทะเบียนไว้ทั้งหมด1.4หมื่นร้านค้า โดยให้แยกทำทะเบียนรายชื่อเอกชนผู้จำหน่ายสารเคมีเกษตร เป็นรายภาค และแต่ละภาค แยกทำเป็นรายจังหวัด เพื่อให้มีการตรวจสอบว่าแต่ละจังหวัด มีร้านจำหน่ายสารเคมีทั้งหมดกี่ร้าน แต่ละร้านจำหน่ายสารเคมี อะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ และยอดจำหน่ายให้ส่งตัวเลขเป็นรายเดือน เพื่อให้หน่วยตรวจสอบที่มีหน้าที่เข้าไปตรวจทะเบียนได้รวดเร็ว และเป็นการนำเอาทะเบียนการค้าขึ้นมาบนดินจะโปร่งใส ไม่มีข้อครหาจ่ายใต้โต๊ะ
โดยเฉพาะกรณี 3 สารเคมี พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ไกลโฟเซต ให้กรมวิชาการเกษตรทุกพื้นที่ จัดทำทะเบียนร้านค้าที่มีสาร 3 ตัวจำหน่าย แยกออกให้ชัดเจน เพื่อคุมปริมาณสต๊อก และร้านค้า จำนวนสารที่มีในครอบครอง เพราะเป้าหมาย 1 มิถุนายน 2563 ต้องไม่มีพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสซึ่งมติ กก.วัตถุอันตราย เดือน พ.ค.62 จำกัดการใช้ ดังนั้น ต้องเข้มงวดการจำหน่ายให้กับเกษตรกร ผู้ผ่านการอบรม อบรมการพ่นสาร โดยให้รายงานจำนวนเป็นระยะ เพื่อคุมสต็อกให้เป็นปัจจุบัน ไม่ให้มีสต็อกเกินกว่าการรายงานไว้ 2.3หมื่นตัน และสามารถติดตามเส้นทางการใช้สารทั้งระบบ และสำหรับไกลโฟเซต หากต่อไปจะขอนำเข้า ให้รายงานต่อรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้วย
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีการลด ละ เลิกใช้สารเคมีในอนาคต ให้ตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมาศึกษาว่าใน300 สารที่อนุญาต จะมีกี่ชนิด กี่ตัว ที่ควรยกเลิกใช้และหรือให้จำกัดการใช้ เนื่องจากเทคโนโลยีตรวจพิษ มีมากขึ้น เพื่อรักษาประโยชน์ และสุขภาพประชาชน โดยให้คณะทำงานให้แล้วเสร็จในเวลา 90วัน หาข้อสรุปให้ได้ว่าจะต้องยกเลิกสารอะไรเป็นตัวต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี