เจ้านายสุดช้ำไว้ใจลูกน้องชาวเมียนมาเสมือนคนในครอบครัว ทิ้งให้อยู่แผงขายหมูฉวยโอกาสฉกเงินสูญนับแสน ก่อนหนีลอยนวล วอนโซเชียลช่วยตามตัวควักเงินครึ่งหมื่นเป็นเงินรางแจ้งเบาะแสจนถูกจับกุม
22 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลได้มีการแห่แชร์ภาพและข้อความออกประกาศตามล่าหาตัวลูกจ้างแสบแอบฉกเงินนายจ้างสูญนับแสนบาท หลบหนีหายอย่างลอยนวล โดยที่ผู้เสียหายได้มีการแจ้งความเพื่อดำเดินคดีกับลูกจ้างชาวเมียนมาแสบรายนี้ แล้วแต่ก็ยังไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ จึงได้ออกมาเพิ่งชาวโซเชียลช่วยตามล่าตัวและแจ้งเบาะแสหากจับกุมคนร้ายได้จะมีเงินรางวัลนำจับจำนวน 5,000 บาท
โดยผู้ใช้บริการ facebook ชื่อ โบ จำรัสศรี ได้ออกมาโพสต์ภาพและระบุข้อความว่า “บุคคลต้องสงสัยที่ 1 เงินในกระเป๋าที่หายไป 1.แบงก์พันล้วน ประมาณ 50,000 บาท, 2. แบงก์ 500 รุ่นราชินี 90-100 ใบ (ธนบัตรสะสม ผ่านการใช้งาน, ได้จากการสะสม จากการขายของมา) ใครพบเห็นบุคคลในภาพ โปรดแจ้งเบาะแส คุณเดช 081-987-5033 จากเหตุที่เกิดขึ้น ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นคนร้ายหรือไม่ แต่มีพฤติกรรมน่าสงสัย เพราะเคยก่อเหตุ ขโมยของในบ้าน แต่ด้วยความขยัน พ่อจึงแกล้งไม่เห็นความผิด ทั้งที่มีหลักฐานกล้องวงจรปิด 100% ส่วนครั้งนี้ที่ตำรวจไม่จับ เพราะ1. หลักฐานไม่เพียงพอ, 2. ตำรวจแนะนำให้กลับมาทำงาน พิสูจน์ ความบริสุทธิ์ใจ แต่เวลานี้ หลบหนีไป ไร้ร่องรอย และวันพรุ่งนี้ จะครบ 7 วัน การสูญเงิน 100,000 บาท เราขอเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์ และเพื่อจะได้เป็นแนวทางป้องกัน ให้เพื่อนๆนะคะ”
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังร้านของเจ้าของโพสต์ เป็นร้านแผงลอยจำหน่ายเนื้อหมูตั้งอยู่ ภายในศาลเจ้าใหม่ ตำบลดอนกรวย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี พบนายเดช จำรัสศรี อายุ 52 ปี บ้านหมู่ที่ 9 ตำบลแพงพวย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านแผงจำหน่ายเนื้อหมูดังกล่าว พร้อมทั้งเปิดเผยเรื่องราวในวันเกิดเหตุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.30 น. หลังจากที่ตนได้มาตั้งร้านแผงลอยจำหน่ายเนื้อหมูภายในตลาดนัดศาลใหม่ ตำบลดอนกรวย อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นล็อคประจำ กับลูกน้องชาวเมียนมา ภายหลังจากที่ตั้งร้านเสร็จได้ทิ้งร้านฝากไว้ให้ลูกน้องเป็นคนดูแลด้วยความไว้ใจ และคุ้นเคย เสมือนเป็นหนึ่งในครอบครัว ขณะที่ตนเองใช้ช่วงเวลาดังกล่าวเนื่องจากลูกค้ายังไม่มาก ได้เดินไปบอกงานแม่ค้าผักในตลาดนัด เพื่อเชิญมางานเลี้ยงที่บ้าน โดยเดินไปด้านหน้าตลาด โซนที่ตั้งแผง ชายคาตลาดนัด เมื่อเสร็จธุระจึงกลับมาขายของปกติ จนกระทั่งถึงเวลา 18:30 น. ตนเตรียมเก็บร้านเพื่อกลับบ้าน และได้หยิบกระเป๋า ที่วางไว้ในกระป๋องใต้แผงร้าน ขึ้นมา เพื่อจะเอาเงินใส่ ก็พบว่า กระเป๋าถูกรูดซิป และปิดคืน ไม่สนิท ตนจึงอ้ากระเป๋าดูชัดๆ ปรากฏว่าเงินที่เก็บไว้จำนวน 2 มัด มูลค่าเกือบ 1 แสนบาทที่เก็บไว้ หายไปหมด จึงได้รีบโทรศัพท์ไปเรียกภรรยาและลูกให้มาช่วยดู เพราะตนเองตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเงินที่ต้องนำไปใช้จ่ายหายไปทั้งหมด
นายเดช เจ้าของร้านกล่าวต่อว่า เมื่อลูกสาวทั้ง 2 คนมาถึงยังร้านได้รีบโทรแจ้งตำรวจ จากนั้นไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อเอาข้อมูลจากกล้องส่งให้กับตำรวจ ขณะนั้น ลูกน้องชาวเมียนมายังคงอยู่ที่ร้าน ไม่มีพิรุธใดๆ มีแต่เพื่อน 2 คน ที่มาเที่ยวหา อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เมื่อตำรวจมาถึงได้ค้นตัวทั้ง 3 คน ก็ไม่เจออะไร
และถัดจากวันเกิดเหตุ ลูกน้องชาวเมียนมาผู้ต้องสงสัยยังคงอยู่บ้าน ทำงานตามปกติ แต่จากหลักฐานเบื้องต้นที่พบ ลูกน้องชาวเมียนมาผู้ต้องสงสัยได้ก้มลงไปใต้ร้านที่พ่อวางเงิน แต่ภาพไม่สามารถระบุชัดเจน ว่ามีการเปิดกระเป๋า เห็นเพียงแค่ก้มลงไป แต่จากคำให้การกับตำรวจ ลูกน้องชาวเมียนมาผู้ต้องสงสัย ระบุว่า “ลงไปเสียบปลั๊กไฟ วันอาทิตย์ ตำรวจคุมตัวลูกน้องไป สน.” และให้การ ว่าไม่ได้เอาเงินไป
หลังจากที่ลูกน้องชาวเมียนมาได้กลับ สภ.ดำเนินสะดวกเพื่อให้ปากคำ ได้มาช่วยนายเดชขายของที่ตลาดนัดอีก เมื่อถึงช่วงกลางคืน ลูกน้องชาวเมียนมาคนดังกล่าวได้บอกว่า ขอไปหาเพื่อน จากนั้นลูกน้องชาวเมียนมาคนนี้ก็หายไป ไม่เก็บเสื้อผ้า สิ่งของใดๆไปทั้งสิ้น เอาเพียงโทรศัพท์ ที่พ่อให้ไว้ใช้ติดไป โทรหาก็ไม่รับสายอีกเลย ไม่สามารถตามตัวได้
ส่วนพฤติกรรมของลูกน้องชาวเมียนมาคนดังกล่าวที่ผ่านมา มีการขโมยหมูบ้าง ขโมยของในบ้านบ้าง มีหลักฐานเก็บไว้ทั้งหมด เพราะบ้านเรามีกล้องวงจรปิด แบบโชว์ให้เห็น และแบบซ่อนไว้ดูหลายจุด ทำให้ตนมั่นใจว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นลูกน้องชาวเมียนมาอย่างแน่นอน เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีใครอยู่นอกจากลูกน้องชาวเมียนมาคนนี้อยู่ และหลายสงสัยว่า ทำไมนายเดชต้องพกเงินสดจำนวนนับแสนบาทกับตัวเองนั้นเนื่องจาก อีก 2-3 วัน ที่บ้านจะจัดงานครบรอบ 15 ปี สถานีวิทยุชุมชน ต้องเตรียมเงินไว้สำหรับใช้จ่ายในงาน และเป็นเงินที่ขายหมูมาและยังไม่ได้เข้าธนาคาร
นายเดช เจ้าของร้าน กล่าวต่อว่า ตนได้เข้าแจ้งความต่อ รตอ.ธนวัฒน์ สุดแก้ว (ร้อยเวร) สภ.ดำเนินสะดวก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งทีมสืบสวนได้เร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ดีฝากถึงผู้ที่พบเห็น หรือ ชาวโซเชียลช่วยกันระดมตามตัวลูกน้องชาวเมียนมามารับโทษต่อไป สามารถโทรแจ้งเบาะแสได้ที่ตนเอง โทร 081-9875033 สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ มีเงินรางวัลนำจับจำนวน 5,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี