ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คำสั่งแต่งตั้งตำแหน่งอำนวยการระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เริ่มทยอยออกมา สร้างเสียงฮือฮาอยู่หลายตำแหน่ง มีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจ คละๆ กันไป แต่ส่วนใหญ่จะออกมาเป็นประเด็นหลังมากกว่า
ในทางการบริหาร เรามักจะเชื่อกันว่า จบอะไรก็สามารถเป็นผู้บริหารได้ แต่ในความเป็นจริงนั้น นักบริหารหน่วยงานที่มีลักษณะงานเฉพาะเจาะจง เป็นศาสตร์เฉพาะสาขานั้น ใช่ว่าใครก็จะบริหารได้นักบริหารที่คิดว่าแน่ ตกม้าตายกันไปหลายราย ยิ่งหน่วยงานที่ต้องทำงานกับผู้คนที่ยากจนที่สุดในสังคม เป็นหน่วยงานบริการสาธารณะ ได้นักบริหารที่ไม่มีพื้นฐาน ขาดความเข้าใจในเนื้องาน จะยิ่งพบความยุ่งยาก ล้มเหลว ไม่เป็นที่ยอมรับ แล้วผลจากความผิดพลาดของนักบริหารไม่ได้ตกแก่ตัวนักบริหาร หรือหน่วยงานเท่านั้น แต่จะกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ที่มารับบริการ และถ้าเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการทำอาชีพการเกษตรแล้ว ปัญหาจะยิ่งรุนแรง สะสม หมักหมม ยากที่จะเยียวยา
ผู้แทนกระทรวงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในระดับจังหวัด ที่เรียกกันว่า เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ทำหน้าที่บริหารจัดการงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ ครอบคลุมงานทุกด้านของกระทรวง หากผู้บริหารดังกล่าวไม่มีความเข้าใจในเนื้องาน ไม่มี
พื้นฐานทางด้านการเกษตร ขาดความรักต่ออาชีพการเกษตร ขาดจิตวิญญาณของการเป็นนักเกษตร เห็นเป็นเพียงทางผ่านของเส้นทางอาชีพรับราชการเพื่อมุ่งไปสู่ตำแหน่งอื่นๆ ต่อไปนั้น หรือ มองว่าเป็นตำแหน่งก่อนเกษียณ ส่วนผลจากการครองตำแหน่งนั้น จะเป็นอย่างไร ไม่ได้คำนึงถึง ให้คิดให้หนัก ยิ่งในช่วงที่การเมืองเฟื่องฟูนักวิ่งเข้าสู่ตำแหน่ง ก็พยายามหาช่องทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จะโทษนักวิ่งเหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียวก็ไม่น่าจะถูกต้องนักคงต้องโทษคนแต่งตั้งด้วย ความผิดพลาดประการใดที่เกิดขึ้นจากการบริหารของนักบริหารที่ขาดความเป็นมืออาชีพ คงต้องย้อนกลับไปหาคนที่แต่งตั้งที่หวังเพียงรักษาสถานภาพของตนเอง ให้ทุกอย่างผ่านไปและรอวันอำลาชีวิตราชการไปเปล่าๆ เมื่อไล่เรียงรายชื่ออำนวยการสูงในรอบนี้ เห็นชัดถึงเรื่องราวแต่หนหลังของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้ง ยังนึกอยู่ว่าจะฝากอนาคตการเกษตรไทย ตามนโยบายรัฐบาลไว้กับท่านๆทั้งหลายได้หรือไม่ ท่านๆจะเข้าใจในงานการเกษตรจริงหรือ หรือจะเป็นเพียงหุ่นเชิดของใคร หากเป็นเช่นนี้ คงสิ้นหวังกับอนาคตการเกษตรไทยแน่นอน
ผมมีโอกาสร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในต่างจังหวัด เป็นหน่วยงานที่ทำงานวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตร ได้พูดคุยกับนักปรับปรุงพันธุ์พืช อายุยังไม่มาก มีความรู้ความสามารถในงานที่รับผิดชอบ ไม่มีความทะเยอทะยานในงานบริหาร แต่มีความกระตื้อรือร้นในการทำงานวิจัย มีผลงานวิจัยที่ช่วยแก้ปัญหาทางการเกษตรได้อย่างชัดเจน เป็นที่ยอมรับของเกษตรกร แต่นักปรับปรุงพันธุ์คนนี้ กลับถูกมองจากกลุ่มคนอีกกลุ่มว่า ล้าหลัง ไม่เจริญเติบโตในอาชีพราชการ หลายครั้งที่หยิบยกประเด็นนี้มาพูดคุยกัน กพ. มักจะแนะนำว่า ถ้าอยากก้าวหน้าในอาชีพราชการก็ให้เปลี่ยนสายงาน เปลี่ยนไปเป็นนักบริหารแทน เป็นคำตอบที่ง่ายเกินไปหรือไม่ เพราะกว่านักวิจัยจะสะสมประสบการณ์ สะสมความชำนาญ สร้างผลงานวิจัยแต่ละชิ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเกษตรของประเทศ สร้างมูลค่าให้กับการเกษตรอย่างมหาศาล รัฐได้ลงทุนกับนักวิจัยแต่ละรายไปเป็นจำนวนไม่น้อย แทนที่จะใช้ประโยชน์จากนักวิจัยนั้นให้เต็มที่ กลับผลักให้นักวิจัยออกไปจากวงจรของการวิจัยคำแนะนำที่ว่าอยากโตก็ต้องเปลี่ยนงาน ไม่น่าใช่วิธีการที่เหมาะสม ด้วยวิธีดังกล่าวไม่ได้คำนึงถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นตามมา หาก ก.พ. ยังคงแนวคิดเช่นนี้ ในที่สุดวงการราชการจะสูญเสียนักวิจัยดีๆ ไป แล้วได้ผู้บริหารแย่ๆ มาแทน แล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เกษตรกรจะอยู่ได้หรือ
หากจะยังคิดกันอยู่ในกรอบเดิมๆ เอาง่ายๆ ทางรอดของการเกษตรไทยคงริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องบ่นว่าประเทศไทยขาดนวัตกรรม ขาดผลงานวิจัยที่ช่วยแก้ปัญหาการเกษตร เพราะความคิดทางบริหารของหน่วยงานกลางเป็นเช่นนี้ ประเทศไทยจึงไปไม่ถึงไหนและประสานกับเส้นทางของนักวิ่ง เส้นทางของเส้นสาย และการบริหารแบบเอาตัวรอดไปวันๆ ทุกอย่างจึงจบ พยาบาลมาเป็นเกษตรและสหกรณ์จังหวัดได้ ก็โอเค
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี