เปิด‘พุทธมณฑล’จัดใหญ่
สวดมนต์ข้ามปี
ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
บุรีรัมย์เชิญรับอรุณเบิกฟ้า
ทำบุญบนยอดเขาพนมรุ้ง
ตำรวจคุมเข้มการจราจร
รัฐบาลและมหาเถรสมาคมจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี ณ พุทธมณฑล นครปฐม คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “เทวัญ”และเจ้าคณะอำเภอบางเลนเชิญชวนประชาชนร่วมพิธีรับสิริมงคลปีหนูทอง ด้านบุรีรัมย์จัดงาน“ปีใหม่ พนมรุ้ง รับอรุณเบิกฟ้า”ขอพร เสริมบารมีรับพลังแสงแรกของปีตามความเชื่อโบราณ ขณะที่ตำรวจกำชับคุมเข้มการจราจรทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ที่ห้องแถลงข่าวมหาเถรสมาคม อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และพระศรีวิสุทธิวงศ์ เจ้าคณะอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม แถลงการจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี 2563 ภายใต้ชื่องาน “สวดมนต์พุทธวิถี เสริมบารมี เริ่มสิ่งดี รับปีใหม่” บริเวณลานหน้าพระประธานพุทธมณฑล ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2563
โดยพิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17.19 น. สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี(เจ้าคุณธงชัย เจ้าของผ้ายันต์เลสเตอร์) วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมด้วยพระเถราจารย์จากทั่วประเทศรวม 84 รูป ร่วมเจริญจิตภาวนา โดยชาวพุทธที่มาร่วมพิธีจะได้รับแจกหนังสือสวดมนต์ข้ามปีและวัตถุมงคลของพระเถราจารย์แต่ละรูป
นายเทวัญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ คนไทยเน้นเรื่องความสนุกสนาน รื่นเริง การเลี้ยงสังสรรค์ด้วยการดื่มสุราและของมึนเมาต่างๆ ซึ่งเป็นที่มาของเหตุทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุ การสูญเสีย ทางรัฐบาลได้ร่วมกับมหาเถรสมาคม จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ครอบครัว และสังคม จึงขอเชิญชาวพุทธร่วมพิธีอันเป็นมงคล ที่ลานหน้าพระประธานพุทธมณฑล หรือวัดใกล้บ้านทั่วประเทศ
วันเดียวกัน นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ทางอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จัดงาน “ปีใหม่ พนมรุ้ง รับอรุณเบิกฟ้า” ณ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ประจำปี 2563 ขึ้นในระหว่างวันที่ 30-31 ธันวาคม 2562 และวันที่ 1 มกราคม 2563
ทั้งนี้ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังและนักท่องเที่ยวได้รำลึกถึงคุณงามความดี และคุณูปการที่บรรพชนได้สร้างสรรค์ปราสาทพนมรุ้งที่วิจิตรสวยงามให้เป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานในปัจจุบัน เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่นอันดีงาม สำหรับบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ปราสาทพนมรุ้ง และตักบาตรพระสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตของตนและครอบครัว
นอกจากนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ของดีอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับทราบ อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์ให้ทราบเป็นที่แพร่หลาย
โดยในช่วงกลางวันของวันที่ 30-31 ธ.ค.62 จะมีกิจกรรมการแสดงศิลปะพื้นบ้าน การออกร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ชม ชิม ช็อป (ตลาดย้อนยุคโบราณ) ในวันที่ 31 ธ.ค.62 เวลา 16.00 น. มีกิจกรรมสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว และเตรียมรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า
จากนั้นในช่วงเวลา 05.00 น.ของวันที่ 1 ม.ค.2563 ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยว แต่งกายด้วยชุดสีขาว ร่วมขบวนกองบุญ นำข้าวสารอาหารแห้ง เดินเท้าจากบริเวณศาลเจ้าพ่อปราสาททอง ขึ้นไปยังอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ ณ บริเวณทางดำเนินเสานางเรียง ทางขึ้นเขาพนมรุ้ง เพื่อเป็นการฟื้นฟูประเพณีเบิกฟ้า ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิม หลังจากไม่ได้มีการสืบสานมานานกว่า 100 ปี พร้อมร่วมรับพลังแสงอาทิตย์แรกของปีใหม่ 2563 บนยอดเขาพนมรุ้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลและพลังอันยิ่งใหญ่ให้เกิดกับชีวิตของตนเองและครอบครัวในทุกๆ ด้านตลอดปี 2563 และตลอดไป
นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า การจัดงาน “รับอรุณเบิกฟ้า วันปีใหม่ ณ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง” ครั้งนี้ ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 เพื่อเป็นการฟื้นฟูประเพณีเบิกฟ้า ที่ชาวบ้านได้ปฏิบัติกันมาช้านานเมื่อกว่า 100 ปี ให้กลับคืนมาอีกครั้ง เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวโบราณสถาน ปราสาทหินพนมรุ้ง ให้ประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวนำรายได้เข้าจังหวัดในอีกทางหนึ่งด้วย
โดยคาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยว จากทั้งในและต่างจังหวัดมาร่วมงานหลายพันคน จึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาร่วมงาน พร้อมขึ้นไปทำบุญตักบาตร และรับพลังแสงอาทิตย์แรกของปี บนยอดเขาพนมรุ้ง เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเนื่องในวันปีใหม่ด้วย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมอำนวยความสะดวกการจราจร ของประชาชน นักท่องเที่ยว พร้อมเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ การเจ็บ การตาย ทั้งถนนหลักและรอง ในห้วงวันคริสมาสต์และเทศกาลปีใหม่2563
โดยเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ อำนวยความสะดวกการจราจรและจัดระเบียบการจราจรตามเส้นทางหลัก เส้นทางรอง ตลอดทุกเส้นทางที่พี่น้องประชาชนใช้สัญจรกลับภูมิลำเนา โดยกำหนดให้มีการเปิดเส้นทางพิเศษ เพื่อระบายรถขาขึ้น-ขาล่อง พร้อมทั้ง จัดให้มีจุดบริการประชาชน จุดแวะพักรถระหว่างทาง ตลอดจน จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว คอยดูแลการจราจรในเส้นทางเข้า-ออก จุดที่พี่น้องประชาชนเข้าไปใช้บริการอย่างหนาแน่น อาทิ สถานีขนส่ง หมอชิต สายใต้ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และ บริเวณที่จัดงานเคาท์ดาวน์ต่างๆทั่วประเทศ
ประกอบกับ จัดให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์กับผู้ขับขี่รถ กวดขันจับกุมตามมาตรการบังคับใช้กฎหมาย 10ข้อหาหลัก ได้แก่ ขับรถเร็ว,ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร, ย้อนศร, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย,ไม่มีใบขับขี่, แซงในที่คับขัน, เมาแล้วขับ,ไม่สวมหมวกนิรภัย, มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย, ใช้มือถือขณะขับขี่รถ เพื่อลดอภิบัติเหตุจึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
อีกทั้งขอให้พี่น้องประชาชนศึกษาเส้นทาง ตรวจเช็คสภาพรถ เครื่องยนต์ ก่อนออกเดินทาง เพราะหากเครื่องยนต์ สภาพรถมีปัญหา จะทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้น และพี่น้องประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางการจราจร หรือสามารถแจ้งอุบัติเหตุ ขอความช่วยเหลือรถเสียในเขต กทม.ได้ที่ สายด่วน บก.จร. หมายเลข 1197 ตำรวจทางหลวง หมายเลข 1193 หรือ สายด่วน191 ในเขตพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และ ศปก.ตร. 1599 หรือ ผ่านแอพพลิเคชั่น POLICE I LERT U ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี