ตร.ระดม8หมืนนาย
สกัดอุบัติเหตุปีใหม่เต็มรูปแบบ
เปิดศูนย์ฯดูแลการจราจร
รับมือ27ธค.เริ่มเดินทาง
ตร.เปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่เป็นทางการระดม 8 หมื่นนาย พร้อมภาคีเครือข่ายปฏิบัติงานเต็มรูปแบบ เน้นเฝ้าระวังเส้นทางที่มีปัญหาจราจรซ้ำซาก ประชาสัมพันธ์ทางเลี่ยงเส้นทางรอง คาด27ธค.คนเริ่มออกเดินทางหนาแน่น พร้อมตั้งด่านจับแก็งจยย.ฉวยโอกาสซิ่งในกทม.’สธ.’ปล่อยขบวนสุ่มตรวจอาหารยอดนิยมช่วงปีใหม่ ด้านพณ.กำชับร้านค้า-ผู้ให้บริการปิดป้ายแสดงราคาชัดเจน ไล่เช็คป้องกันค้ากำไรเกินควร กักตุน ปฎิเสธจำหน่าย ตรวจเจอโทษคุก7ปี ปรับ1.4แสนหรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อวันที่ 26ธันวาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.ในฐานะผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานประชุมเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 เตรียมความพร้อม และสั่งการตำรวจทั่วประเทศปฏิบัติงานด้านการอำนวยความสะดวกการจราจร ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563
โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวหลังประชุมว่า ตั้งแต่วันนี้ กำลังตำรวจเกือบ 80,000 นาย และภาคีเครือข่าย พร้อมปฏิบัติงานลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่เต็มรูปแบบ โดยศูนย์ฯจะติดตามสภาพการเดินทางของประชาชนใกล้ชิด และดำเนินการต่อเนื่องถึงวันที่ 3 มกราคม 2563 จากการติดตามขณะนี้ ยังไม่พบปัญหาในเส้นทางใด แต่จะเฝ้าระวังใกล้ชิดในเส้นทางที่มีปัญหาจราจรติดขัดเป็นประจำ เช่น ช่วงถนนมิตรภาพ กลางดง รวมถึงในพื้นที่จังหวัดที่มีตัวเลขการสูญเสียสูง ทั้งนี้ แม้จะเริ่มมีประชาชนออกเดินทางต่างจังหวัดกันบ้างแล้ว และคาดว่าวันที่ 27 ธันวาคม จะมีการเดินทางมากขึ้น จึงเน้นประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเส้นทางรอง เส้นทางเลี่ยง และเตรียมเปิดช่องทางพิเศษไว้แล้ว จึงขอให้ประชาชนศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางด้วย
พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับปีนี้สั่งการให้จัด พนักงานสอบสวนส่วนหน้า ประจำเส้นทางหลัก กรณีเกิดปัญหาหรืออุบัติเหตุ ให้เข้าไปถ่ายรูป ถ่ายคลิปวีดีโอ พร้อมเร่งคลี่คลายสถานการณ์แยกคู่กรณีโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาการจราจร ส่วนการตั้งด่านช่วงปีใหม่ จะเน้นถนนสายรอง เพื่อบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะ 10 ข้อหาหลัก และการตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เพราะจากสถิติปีที่ผ่านมา อุบัติเหตุส่วนใหญ่ มักเกิดมากถนนสายรอง รวมทั้งเพื่อไม่ให้กระทบจราจรถนนสายหลักด้วย ส่วนมาตรการยึดรถจากผู้เมาแล้วขับ ให้เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน หากจำเป็น หรือเห็นว่า รถนั้นเป็นหลักฐานทำความผิด ก็ให้ดำเนินการยึดไว้
นอกจากนี้ ช่วงสิ้นปี ที่หลายเส้นทางในกทม. อาจถูกใช้เป็นเส้นทางแข่งรถ ตำรวจจะเพิ่มการตั้งด่าน จุดสกัด เพื่อความปลอดภัย ความมั่นคง และป้องกันการแข่งรถในทางสาธารณะ พร้อมยืนยัน การข่าวยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ตำรวจพร้อมดูแลความปลอดภัยการจัดงานปีใหม่ และสวดมนต์ข้ามปีเต็มที่
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมปล่อยคาราวานรถโมบายออกปฏิบัติการอาหารปลอดภัย (Mobile Unit for Food Safety) เพื่อคนไทยสุขภาพดี โดยจะสุ่มตรวจสอบเฝ้าระวังผัก ผลไม้และอาหารที่นิยมบริโภคช่วงปีใหม่ เช่น ลูกชิ้น หมูยอ เครื่องดื่ม หาสารปนเปื้อน ด้วยชุดทดสอบเบื้องต้น และส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมทั้งตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์อาหาร
โดยในกทม.จะลงพื้นที่ห้างสรรพสินค้าและตลาด 10 แห่ง เช่น ตลาด อตก. ตลาดบองมาเช่ บิ๊กซีราชดำริ ท็อปส์เซ็นทรัลลาดพร้าว ฟู้ดแลนด์จรัญสนิทวงศ์ เดอะมอลล์บางแค โลตัสพระราม 2 ส่วนต่างจังหวัดมีการดำเนินการร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) 36 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำพูน สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์ พิจิตร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ลพบุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครนายก สุพรรณบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครพนม อุดรธานี อุบลราชธานี สุรินทร์ บึงกาฬ ชลบุรี ระยอง กระบี่ ระนอง พัทลุง ตรัง สงขลา ยะลา สตูล สุราษฎร์ธานี และนราธิวาส
ทั้งนี้ หากประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา และถ้าสงสัยในความปลอดภัยพืชผัก ผลไม้ อาหารสามารถนำมาให้หน่วยของเราตรวจได้ เพื่อให้มั่นใจว่าการท่องเที่ยว การบริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่นี้จะได้รับประทานอาหารปลอดภัย ไม่ติดเชื้อ ไม่ป่วยอาหารเป็นพิษ อย่างไรก็ตาม หากเกิดการเจ็บป่วย หน่วยบริการต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รองรับเรื่องการเจ็บป่วย เรื่องอุบัติเหตุ
ขณะที่นายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจสอบผู้จำหน่ายสินค้าและบริการ ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 เขตจตุจักร กทม.ว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่มีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับบ้านหรือไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัดจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า เพื่อไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา นอกจากนี้ ขอให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่งและสถานีรถไฟ เช่น ผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ให้บริการรับฝากของบริการรถเข็นสัมภาระ ให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและค่าบริการอย่างชัดเจน รวมทั้งกำชับให้คิดค่าสินค้าและบริการให้ตรงกับป้ายราคาที่แสดงไว้ ป้องปรามการฉวยโอกาสขึ้นราคาจำหน่ายสินค้าและบริการสูงเกินควรในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการกันอย่างคับคั่ง
นอกจากนี้ กรมฯส่งสายตรวจออกตรวจผู้จำหน่ายสินค้า และผู้ให้บริการตามสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งอื่น เช่น สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่ สถานีขนส่งเอกมัย สถานีรถไฟหัวลำโพง รวมทั้งท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ถ้าผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนไม่ปิดป้ายราคาสินค้าต้องมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่หากจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมปีนี้ ราคาจำหน่ายสินค้าและค่าบริการบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 ส่วนใหญ่มีราคาใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เช่น ข้าวราดแกง 1 อย่าง ราคา 35 บาท/จาน ข้าวราดแกง 2 อย่าง ราคา 40 บาท/จาน ข้าวกะเพรา (หมู, ไก่) ราคา 40-50 บาท/จาน น้ำเปล่าขวดเพท ขนาด 600 มล. ราคา 7-10 บาท/ขวด ค่าบริการ รับฝากสัมภาระเริ่มต้นที่ 20 บาท/ชิ้น นอกจากนี้ ได้เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคโดยได้จัดให้มีร้านหนูณิชย์พาชิมภายในสถานีขนส่งฯ โดยจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด เช่น กลุ่มอาหารปรุงสำเร็จ ได้แก่ ข้าวมันไก่ ข้าวผัดหมู-ไก่ ข้าวกะเพราหมู-ไก่ ข้าวราดแกง 1 อย่าง ราคา 35 บาท/กล่อง กับข้าวถุงละ 30-35 บาท ข้าวเปล่าถุงละ 5-6 บาท กลุ่มเครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำเปล่าขวดเพท ขนาด 600 มล. ราคา 7 บาท/ขวด เครื่องดื่มบำรุงกำลัง (ตรา M-150,กระทิงแดง) ราคา 10 บาท/ขวด, กาแฟกระป๋อง ขนาด 180 มล. ราคา 17 บาท/กระป๋อง
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าและบริการที่ไม่เป็นธรรม ร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 กระทรวงพาณิชย์จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี