เหยื่อแม่แท้ๆจอมลวงโลกโผล่อีก! ‘โชเฟอร์แท็กซี่อุดรฯ’แจ้งจับ แฉ‘ขุดบ่อล่อปลา’ตุ๋นเงิน
ความคืบหน้ากรณีนางกัญญ์ณณัฎฐ์ เพชรฤาชารัตน์ อายุ 39 ปี หรือ “เป๊กกี้” แม่แท้ๆพาลูกสาววัย 18 ปี หน้าตาดีแต่ป่วยพิการทางสมองเป็น “ออทิสติก” ระดับ 4 นำรูปขึ้นโปรไฟล์ในแชทหาคู่ ก่อนจะร่วมแก๊งพาลูกสาวไปส่งให้หลับนอนบำเรอกามกับชายหนุ่ม หลังมีคนตกเป็นเหยื่อก็จะแต่งชุดข้าราชการตุลาการศาลไปกรรโชกทรัพย์ มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลายรายนั้น(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดใจหนุ่มอุดรตกเป็นเหยื่อแม่แสบพาลูกสาวป่วย 'ออทิสติก' ร่วมหลับนอนแล้วตบทรัพย์)
ล่าสุดผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี รายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ร.ต.ท.เกรียงไกร แสวงศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากนายนรินทร์(สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี โชเฟอร์แท็กซี่สนามบินอุดรธานี ภูมิลำเนาอยู่หมู่ 5 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี นำหลักฐานสลิปโอนเงิน 4 ครั้ง รวม 15,000 บาท เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางกัญญ์ณณัฎฐ์ เพชรฤาชารัตน์ อายุ 39 ปี หรือ “เป๊กกี้” ฐานฉ้อโกงทรัพย์
นายนรินทร์ ให้การว่า เคยถูกนางกัญญ์ณณัฎฐ์ หลอกให้โอนเงินไปให้หลายครั้ง ระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 15,000 บาท โดยนางกัญญ์ณณัฎฐ์ สัญญาว่าจะชดใช้คืนให้ แต่หายเงียบไป ตนกำลังรวมรวมหลักฐานเพื่อจะมาแจ้งความ แต่ปรากฏว่าเมื่อดูข่าวเห็นนางกัญญ์ณณัฎฐ์ ถูกตำรวจอุดรธานีจับกุม แม้จะมีการเบลอหน้า แต่จากชื่อผู้ต้องหา และเรื่องเด็กสาวออทิสติก ทำให้ตนมั่นใจว่าเป็นคนเดียวกัน จึงมาแจ้งความ
นายนรินทร์ ระบุว่า มีอาชีพขับแท็กซี่ที่สนามบินอุดรธานี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา นางกัญญ์ณณัฎฐ์ ซึ่งวันนั้นตนยังไม่รู้ชื่อจริง มาติดต่อเหมารถของตนเดินทางไป จ.นครราชสีมา ในราคา 5,000 บาท โดยบอกว่าจะไปเอารถเบนซ์ที่จอดไว้ไปธุระต่อ โดยมีลูกสาวที่เป็นออทิสติก และผู้หญิงอีกคนเดินทางไปด้วย ระหว่างเดินทางได้พูดคุยหลายเรื่อง ทั้งเรื่องลูกสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศ , ทำทีขอซื้อแผ่นซีดีเพลงเก่าในรถแผ่นละ 500 บาท และเมื่อมาส่งถึงที่ จ.นครราชสีมา ได้จ่ายเงินตามสัญญา และให้ทิปตนอีก 1,000 บาท พร้อมขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการขุดบ่อล่อปลา
“วันต่อมาเขาโทร.มาหาขอความช่วยเหลือว่าไปเสียพนันที่บ่อนปอยเปตจนหมดตัว อ้อนอีกว่าญาติก็อยู่บนภูเขาโอนเงินให้ไม่ได้ รบกวนยืมเงินเติมน้ำมันเดินทางกลับ ผมก็โอนเงินไปให้ 5,000 บาท เช้าอีกวันโทร.มาความช่วยเหลืออีก บอกว่าขับรถไปชนเด็กบาดเจ็บ และยังทำตู้กระจกเขาแตก ต้องพาเด็กไปหาหมอ และจ่ายค่าตู้กระจก โดยให้ผมคุยกับพ่อเด็กที่บาดเจ็บ และเจ้าของของตู้กระจก สร้างเรื่องสร้างราวได้เหมือนจริงมาก ทำให้ผมเชื่อจนสนิทใจ” นายนรินทร์ กล่าว
นายนรินทร์ ให้การด้วยว่า ตนไม่มีเงินพอ จึงให้ลูกโอนให้ 3,000 บาท แล้วก็โอนไปให้เขาก่อน จากนั้นไปหยิบยืมเงินจากอู่รถที่รู้จักโอนไปให้อีก รวมเงินที่โอนไป 15,000 บาท บอกว่าเมื่อกลับมาถึงอุดรธานีจะเบิกเงินในบัญชีมาคืนให้ แต่ไม่ได้รับการติดต่อ เงียบกริบ และติดต่อกลับไปก็ติดต่อไม่ได้ พยายามตามหาจากเบอร์โทร. และเลขบัญชีที่โอนเงินให้ จึงรู้ชื่อว่านางกัญญ์ณณัฎฐ์ เพชรฤาชารัตน์ ไปตามหาในเฟซบุ๊กจึงเห็นภาพเป็นคนเดียวกัน
“เมื่อมาทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมด เชื่อว่านางกัญญ์ณณัฎฐ์ ไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่ทำกันเป็นขบวนการ วางแผนจัดฉากให้เราหลงเชื่อ ว่าเป็นคนมีฐานะดีมีน้ำใจ และยังมีตัวละครมาช่วยยืนยันผ่านโทรศัพท์ อ้างตัวเป็นญาติติดธุระบนภูเขา อ้างตัวเป็นพ่อเด็กถูกรถชน และอ้างตัวเป็นเจ้าของตู้กระจกอีกสารพัด ผมมีชื่อ-สกุล และภาพผู้หญิงที่นั่งรถไปวันนั้นด้วย อยากจะให้ตำรวจเอาผิดทั้งแก๊งอย่าให้มาก่อกวนประชาชนอีก” โชเฟอร์แท็กซี่รายนี้ กล่าว
ด้าน ร.ต.ท.เกรียงไกร แสวงศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่านางกัญญ์ณณัฎฐ์ มีพฤติกรรมหลอกลวงใช้อุบายต่างๆ เพื่อหลอกเหยื่อ เบื้องต้นจะได้นำข้อมูลส่งให้ชุดสืบสวนสอบสวน ภ.จว.อุดรธานี เพื่อให้ทำการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี