“เฉลิมชัย” สั่งลุยมาตรการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรให้ได้อีก 10% ลดต้นทุนการผลิต สร้างรายได้เพิ่ม เกษตรฯ แก้พิษเงินบาทแข็งค่า กระทบความเป็นอยู่เกษตรกร
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในปี 2563 ได้กำหนดนโยบายปรับเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านสินค้าเกษตรและอาหารขึ้นอีก 10% จากการประเมินสถานการณ์ค่าเงินบาทพบว่า ยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องจากปี 2562 ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารปีละกว่า 1 ล้านล้านบาท แต่กำไรน้อยลงซึ่งการแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่านั้นทำได้ไม่ง่ายและต้องค่อยเป็นค่อยไป จึงต้องใช้กลยุทธ์อื่นคู่ขนานกันประกอบด้วย 5 มาตรการหลักคือ การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มมูลค่าผลผลิต การพัฒนาการขนส่ง การพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตร รวมถึงการหาตลาดและเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ทั้งนี้เพื่อให้การขับเคลื่อนของทุกหน่วยงานของกระทรวงเป็นไปในทิศทางเดียวกันจึงได้จัดตั้งศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (National Agriculture Big Data Center : NABC) เป็นฐานข้อมูลกลางของข่าวสารและองค์ความรู้ซึ่งทั้งเกษตรกรและภาคเอกชนสามารถเข้าถึง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สถาบันการศึกษาต่างๆ เป็นต้น
สำหรับนโยบายที่สำคัญที่ดำเนินการต่อเนื่องจากรัฐบาลที่แล้วคือ “การตลาดนำการผลิต” โดยผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาดเพื่อแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ ส่งเสริมการรวมกลุ่มการผลิตเป็นรูปแบบแปลงใหญ่และใช้กลไกสหกรณ์เพื่อให้สามารถจัดหาปัจจัยการผลิตได้ในราคาต่ำลง เดินหน้าการทำปุ๋ยสั่งตัดซึ่งจะต้องวิเคราะห์สภาพดินแต่ละพื้นที่ แล้วใช้สูตรปุ๋ยที่เหมาะสมกับชนิดพืชและให้ในเวลาที่เหมาะสม การพัฒนาเมล็ดพันธุ์และต้นพันธุ์เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิต โดยทำให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นและคุณภาพผลผลิตสูงขึ้น จากนั้นส่งเสริมการแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร นอกจากนี้ยังได้ตั้งคณะกรรมการพัฒนาโลจิสติกส์เกษตรเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าเกษตรให้ถึงผู้รับซื้อ ผู้บริโภคโดยเร็ว โดยที่สินค้ายังมีความสดใหม่ พร้อมกันนี้ได้ตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center: AIC) ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 ให้ครบ 77 จังหวัดโดยเร็วเพื่อให้เป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้การทำการเกษตรสมัยใหม่ที่เป็นเกษตรประณีตและเกษตรแม่นยำสูง (Precision Farming) ที่สำคัญอีกประการคือ หาตลาดใหม่ๆ และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายที่ทันสมัย โดยเฉพาะทางออนไลน์ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในปัจจุบัน ทั้งหมดนี้เป็นการปฏิรูปโครงสร้างภาคเกษตรทั้งระบบ
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายสำนักงานเศรษฐกิจทางการเกษตร (สศก.) คำนวณตามหลักเศรษฐศาสตร์จากทุกมาตรการที่กำหนดให้พบว่า สามารถเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันได้ 10% ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นผลให้เศรษฐกิจชาติดีไปด้วย แก้ปัญหาผลตอบแทนจากการส่งออกที่ได้กำไรลดลงจากพิษเงินบาทแข็งค่าและความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
“ศูนย์ข้อมูลเกษตรดิจิทัลนั้น ทุกคนสามารถเข้าถึงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผ่านโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ซึ่งกำชับให้ทั้ง 22 หน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ เริ่มบริการตั้งแต่ปีใหม่นี้เป็นต้นไป” นายเฉลิมชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี