เปิดคลินิกกัญชา
‘แพทย์แผนไทย’
‘อนุทิน’ตั้งเป้าปี’63
รักษาผู้ป่วยทั่วปท.
“อนุทิน” ประเดิม เปิด “คลินิกกัญชาแผนไทย”วันแรกตั้งเป้าปี2563 ลุยบริการผู้ป่วยทั่วประเทศ ลั่นต้องนำจากใต้ดินมาอยู่บนดินเร่งแก้กฎหมาย ปลดล็อค ชงขึ้นบัญชี‘สปสช.’ผลิตสกัด-จ่ายยาได้เอง ยอมรับนโยบายปลูกกัญชา 6 ต้น ยังต้องฝ่าอีกหลายด่าน
เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่กรมการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานเปิด คลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทยซึ่งมีผู้บริหารในกระทรวงเข้าร่วมงานอาทิ นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก งานดังกล่าว ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยนายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้มาเดินหน้านโยบายกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง โชคดีที่หลายภาคส่วนให้ความร่วมมือ ขอขอบคุณบุคลากรในกระทรวงสาธารณสุขทุกท่าน การเปิดคลินิกกัญชาแผนไทยวันนี้ จะได้รับการรักษาอย่างครบวงจร เป็นต้นแบบของการให้บริการ ซึ่งมีแผนผลักดันให้ทั่วประเทศต้องมีคลินิกลักษณะเดียวกัน เพื่อให้บริการอย่างทั่วถึง หากทำสำเร็จ จะได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะปัจจุบันมีประชาชนจำนวนไม่น้อยเลือกรักษาแพทย์แผนไทย แค่คนป่วยของนายเดชา ศิริภัทร ผู้อำนวยการมูลนิธิข้าวขวัญ ก็มีหลายหมื่นคน อย่างไรก็ตาม การรักษาในคลินิกกัญชา จะต้องเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนางานด้านการแพทย์ต่อไป หากผลการรักษาเป็นบวก จะต้องผลักดันกัญชาเข้าไปอยู่ในบัญชียาของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)
“เบื้องต้นที่คลินิก มีตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมที่จะให้บริการ 4 ตำรับ คือ ยาตำรับศุขไสยาศน์ ตำรับทำลายพระสุเมรุ ยาแก้ลมแก้เส้น และน้ำมันกัญชาสูตรอาจารย์เดชา รักษาอาการไมเกรน นอนไม่หลับ ปวดข้อ ปวดตึงกล้ามเนื้อ ลดอาการมือเท้าชา ช่วยเจริญอาหาร ซึ่งจากดำเนินงานที่ผ่านมาผลการรักษาด้วยสารสกัดจากกัญชาในผู้ป่วยได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และจะนำผลการรักษาและผลที่ได้จากการศึกษามาผลักดัน สนับสนุนการแก้กฎหมายเพื่อให้คนไทยเข้าถึงการใช้กัญชาในการรักษาโรค และอาการเจ็บป่วยได้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์ต้องเกิดขึ้น เราสนับสนุนให้ใช้กัญชานักษาโรค แต่ไม่ใช่เพื่อสันทนาการ ปัจจุบัน ได้ใช้อำนาจที่มีอยู่เข้าไปแก้ไขกฏกรอบต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบเพื่อคลายล็อกให้นำสารสกัดจากกัญชาและกัญชงมาใช้ทางการแพทย์ เราให้องค์การเภสัชกรรมผลิตสารสกัดจากกัญชาได้ เราให้สูตรกัญชาของหมอพื้นบ้านมาขึ้นทะเบียน และให้ภาครัฐผลิตได้ เรากำลังนำสารสกัดกัญชาที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานมาอยู่บนดิน แทนที่ของใต้ดิน ที่ไม่รู้ที่มาที่ไป นอกจากนี้ เรากำลังหารือเพื่อหาทางให้แพทย์แผนปัจจุบัน จ่ายยาที่มีส่วนผสมของกัญชาได้ ส่วนในเรื่อง 6 ต้น ต้องรอกฏหมายฉบับใหม่ ซึ่งพิจารณาอยู่ในสภาแล้ว ต้องผ่านหลายด่าน จะเห็นว่าการผลักดันกัญชา ที่ยังเป็นยาเสพติด มันมีอุปสรรคของกฎหมาย แต่ไม่เคยนิ่งนอนใจ พยายามใช้ทุกช่องทางเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ในความเป็นจริงประชาชนสามารถรวมตัวและปลูกกัญชาได้แล้ว เพียงแต่ต้องร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เมื่อสามารถทำกำไรได้ ก็มาแบ่งกัน หากกัญชาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จะเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศไทย
ด้านนายแพทย์ สุขุม กล่าวว่า ในการนำพืชกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย ในตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมอยู่ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย ภายใต้กรอบเงื่อนไขที่ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา 6 แห่ง สภาเกษตรกรแห่งชาติ และวิสาหกิจชุมชน 3 แห่ง เพื่อวิจัยกัญชาสายพันธุ์ไทยที่ดีที่สุดและให้มีวัตถุดิบกัญชาสำหรับนำมาผลิตตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสม โดยโรงงานผลิตยาของรัฐที่ผ่านมาตรฐาน WHO GMP จำนวน 6 แห่ง เป็นผู้ผลิตยา 16 ตำรับ กระจายให้แก่คลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยในหน่วยบริการของรัฐทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ มีโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน เปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย ทั้งหมด 25 แห่ง ทั่วประเทศ เป็นคลินิกกัญชาแผนไทยที่โรงพยาบาลชุมชน 13 แห่ง คลินิกกัญชาการแพทย์ผสมผสานประจำโรงพยาบาลศูนย์ 12 แห่ง
สำหรับตำรับยากัญชาทางการแพทย์แผนไทยที่ใช้รักษาอยู่นั้นผลิตได้ที่รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร และกองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพร และอีก 5 แห่งอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อขออนุญาตผลิต คือ โรงพยาบาลคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โรงพยาบาลดอนตูม จังหวัดนครปฐม โรงพยาบาลเด่นชัย จังหวัดแพร่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี และกองพัฒนายาไทยและสมุนไพร จังหวัดปทุมธานี ในปี2562 มีโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลชุมชน ได้รับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมแล้ว 86 แห่ง
ทั้งนี้ประชาชนสนใจเข้ารับการรักษาที่คลินิกกัญชาแผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข สามารถจองคิวได้ที่แอปพลิเคชัน “กัญชาทางการแพทย์แผนไทย” “Dr.Ganja in TTM” ทางสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ สำหรับระบบ IOS อยู่ในระหว่างดำเนินการ และรับลงทะเบียนหน้างาน ซึ่งจะเป็นคิวเสริมต่อจากผู้ป่วยที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันในแต่ละวัน รับได้ 50 คน/วัน และไม่เกินเวลา 12.00 น. โดยคลินิกจะเปิดเวลา 08.30 น- 15.30 น. ทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในช่วงวันที่ 6- 17 มกราคม รับผู้ป่วยวันละ 300 คน จากนั้นจะให้บริการวันละ 200 คน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่คลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย ชั้นใต้ดินอาคาร อาคารพิพิธภัณฑ์การสาธารณสุขและการแพทย์ไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร 025902606 025911964
ขณะที่ นพ.มรุต กล่าวว่า ผู้ป่วยที่เข้ามาจะผ่านจุดคัดกรองก่อนเบื้องต้น จากนั้นจึงจะเข้าห้องตรวจ วันนี้มีผู้ลงทะเบียนได้ประมาณ 368 ราย และถึงวันที่ 31 มีนาคม ประมาณ 1,900 กว่าคน สำหรับการเปิดคลินิกแห่งนี้จุดสำคัญ คือ เราต้องการให้กล้าจ่ายยากัญชาแผนไทยมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาได้รับยาน้อย ประมาณ 20% ซึ่งต้องบอกว่าผลข้างเคียงน้อย แต่หลังจากทำความเข้าใจก็มีการจ่ายยามากขึ้นประมาณ 95% ส่วนการกระจายยาไปทั่วประเทศไม่มีปัญหา
สำหรับผู้ป่วยที่รับยาในระบบของเรามีประมาณ 3 พันกว่าราย ส่วนยาที่มีการใช้เยอะสุดคือน้ำมันเดชาและศุขไสยาศน์ อย่างน้ำมันเดชาเรามีมากที่สุด ส่วน 16 ตำรับต้องใช้ของกลางมาผลิต และขณะนี้เพิ่งเริ่มได้จากการปลูกที่สกลนคร สำหรับผู้ป่วยที่มามักเป็นนอนไม่หลับอ่อนเพลีย พาร์กินสัน ไมเกรน มีภาวะเกร็งชัก บางคนกินข้าวไม่ได้ กินยาแผนปัจจุบัน แต่พอใช้น้ำมันเดชา 3 หยดต่อคืน 2 สัปดาห์กินข้าวได้
นพ.มรุต กล่าวว่า ภาพรวมการจ่ายยานั้น น้ำมันเดชาผลข้างเคียงน้อยมาก เพราะมีกัญชาประมาณ 0.2-0.3% เท่านั้น หากมีอาการก็เล็กน้อย ได้ผล 60-80% แล้วแต่อาการ ส่วนทำลายพระสุเมรุก็ได้ผลค่อนข้างดี ส่วนการเสนอน้ำมันเดชาให้เป็นตำรับที่ 17 นั้น ขณะนี้มีผลการศึกษา 3 พันรายที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยดำเนินการ ก็จะเสนอเข้าสู่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เพื่อปลดออกจากการวิจัย และเสนอออกเป็นตำรับที่ 17 ต่อไป เพื่อให้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี