16จว.แล้งจัด
ประกาศเขตภัยพิบัติ
เกษตรฯสั่งฝนหลวง
หาช่องบินปฏิบัติการ
“ปภ.”ประกาศ 16 จว.ประสบภัยแล้ง เร่งจัดรถแจกน้ำกินน้ำใช้ ด้านรมช.เกษตรฯสั่งชุดฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วหาช่องบินทำฝนเทียมบรรเทาแล้ง
ทั่วประเทศ ขณะที่หลายจังหวัดวิกฤติ
ต่อเนื่อง บึงบอระเพ็ดน้ำลดเหลือต่ำกว่าครึ่ง นครพนม-หนองคายน้ำโขงแห้ง เร่งเจาะบาดาล ชาวบ้านเมืองบุรีรัมย์วอนรัฐช่วยด่วน 900 ครัวซื้อน้ำกินมาร่วมเดือน หนองน้ำใหญ่กลางหมู่บ้านแห้งกลายเป็นดินแตกระแหง
เมื่อวันที่ 9 มกราคม นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง)แล้ว 16 จังหวัด รวม 80 อำเภอ 464 ตำบล 4,117 หมู่บ้าน/ชุมชน แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ รวม 23 อำเภอ 127 ตำบล 980 หมู่บ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ นครพนม มหาสารคาม บึงกาฬ หนองคาย บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา รวม 31 อำเภอ 215 ตำบล 2,151 หมู่บ้าน 20 ชุมชน ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทราอุทัยธานี ชัยนาท และนครสวรรค์ รวม 26 อำเภอ 122 ตำบล 966 หมู่บ้าน
ทั้งนี้ ปภ.ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยสนับสนุนการแจกจ่ายน้ำแก่ประชาชนต่อเนื่อง อีกทั้ง ประสานจังหวัดเตรียมพร้อมแก้ปัญหาภัยแล้ง ด้วยการจัดชุดปฏิบัติการสำรวจข้อมูลสถานการณ์น้ำ ข้อมูลแหล่งน้ำและประมาณการใช้น้ำ แยกเป็นน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงสำรวจและจัดทำบัญชีแหล่งน้ำ ตลอดจนรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนเกษตรกรให้ปรับวิถีทำเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ
ส่งทีมตรวจแล้งชัยนาท-สิงห์บุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลาง จ.ชัยนาท พล.อ.สุชาติ ผ่องพุฒิ ประธานและคณะทำงานตรวจติดตามกำกับการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการเร่งด่วนสำหรับงบกำกับภูมิภาคของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยร่วมประชุมพิจารณาโครงการที่เสนอของงบประมาณ 28 โครงการ มีนายวีระศักดิ์ ศรีโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดชัยนาท หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิจารณาให้ข้อมูล จากนั้นคณะพล.อ.สุชาติลงพื้นที่อ.หนองมะโมง 4 จุดคือ จุดผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน สระน้ำ 400ไร่และพื้นที่ทดลองเจาะน้ำบาดาลเพิ่ม 2 จุด ต่อมาคณะเดินทางไป อ.วัดสิงห์ ติดตามโครงการซ่อมฝายและขุดลอกเส้นทางน้ำ
จุดเจาะบาดาลส่งน้ำเข้ากทม.
ทั้งนี้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลส่งผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ด้วย และเสนอโครงการขนาดใหญ่ที่กรมฯจะมาดำเนินการขุดบ่อบาดาล 2 จุด เพื่อผันน้ำไปยัง กทม. โดยพล.อ.สุชาติเสนอให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลสำรวจศักยภาพการขุดบ่อบาดาล เพิ่มในพื้นที่อ.หนองมะโมง 2 จุด เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง โดยจะเริ่มสำรวจและดำเนินการวันที่ 9 มกราคม จากนั้นพล.อ.สุชาติและคณะจะเดินทางต่อไปยัง จ.สิงห์บุรี ประชุมพิจารณาความเหมาะสมของโครงการทีจังหวัดเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในอำนาจของรองนายกฯ ด้วย
บุรีรัมย์900ครัวเดือดร้อนหนัก
สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งหลายพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง โดยนายกนกศักดิ์ เสงี่ยมศักดิ์ กำนันตำบลเสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยขณะลงพื้นที่ติดตามสภาพหนองมะค่า หมู่ 4 บ้านหัววัว สระน้ำกลางหมู่บ้านขนาดใหญ่ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ว่า สระน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำดิบใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงทั้ง 4 หมู่บ้าน ต.เสม็ด ได้แก่ บ้านหัววัว บ้านหนองขาย่าง บ้านสนวน และบ้านสำโรง ล่าสุดแห้งขอดกลายเป็นดินแตกระแหง จึงไม่มีน้ำใช้ผลิตประปา อีกทั้ง บาดาลของหมู่บ้านไม่พอต้องเปิด-ปิดน้ำเป็นเวลา แม้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสม็ด นำรถบรรทุกน้ำมาแจกแต่ไม่พอ จึงอยากให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านทั้ง 4 หมู่บ้านจำนวน 900 ครัวเรือน กว่า 5,000 คน เพราะขณะนี้ต้องซื้อน้ำมาใช้กว่า 1 เดือนแล้ว เสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 250-300 บาท เป็นหมู่บ้านประสบกับภัยแล้งซ้ำซาก แต่ปีนี้หนักสุด เพราะฝนทิ้งช่วง ไม่มีน้ำเข้าเติมในสระน้ำ และหลายครัวเรือนต้องลงทุนเจาะบาดาลใช้เอง ครัวเรือนละ 5,000-12,000 บาท แก้ปัญหาไปก่อน
นายสายัณห์ อินทร์พิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านสนวน ต.เสม็ดเผยว่า ปีนี้ชาวบ้านประสบปัญหาภัยแล้งหนักในรอบ 20 ปี ต้องซื้อน้ำใช้มานานกว่า 1 เดือน อยากให้จังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ เพื่อจัดหางบประมาณขุดลอกสระน้ำกลางหมู่บ้านใช้กักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นเพื่อผลิตน้ำประปาได้ตลอดทั้งปี
บึงบอระเพ็ดเหลือน้ำต่ำครึ่ง
เช่นเดียวกับ สถานการณ์น้ำบึงบอระเพ็ด ในส่วนหน่วยบริหารจัดการประมงน้ำจืดบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ที่รับน้ำจากแม่น้ำน่าน พบมีน้ำไหลเข้าน้อย ประกอบกับเกษตรกรโดยรอบบึงสูบน้ำไปใช้ทางการเกษตร ทำให้บึงบอระเพ็ดน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว เกิดสันดอนทรายหลายแห่ง ปริมาณน้ำลดเหลือ73.60 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือประมาณร้อยละ 40.89 หากมีพื้นที่น้ำต่ำกว่านี้จะกระทบระบบนิเวศ
นครพนมน้ำโขงต่ำสุดรอบ10ปี
ที่จังหวัดนครพนม แม่น้ำโขงแห้งขอด มีระดับต่ำเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 1 เมตร ถือว่าต่ำสุดในรอบ 50 ปี ส่งผลให้ลำน้ำสาขาได้แก่ ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม และลำน้ำก่ำ มีปริมาณน้ำน้อย ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตร โดยมณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม ได้รับงบประมาณจากจังหวัด เร่งสำรวจโครงการขุดเจาะบ่อบาดาลให้ชุมชนที่ประสบความเดือดร้อนแล้วกว่า 100 จุด โดยปีงบประมาณ 2563 จะดำเนินการต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับ จ.หนองคาย ประสบปัญหาแม่น้ำโขงระดับน้ำต่ำสุดในรอบหลายสิบปี ที่ริมตลิ่งเขตตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเมืองหนองคาย มีเกษตรกรลงทุนปลูกพืชหลายชนิด เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ ต้องต่อท่อลงไปเพื่อดูดน้ำมาใช้ไกลขึ้น บางรายต่อท่อไกลกว่า 1 กิโลเมตร
สั่งชุดฝนหลวงหาช่องทำฝนเทียม
ด้านร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์เผยว่า สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรส่งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว ตั้งอยู่ที่จ.นครสวรรค์ 2 ชุด พร้อมบินทำฝนทั่วประเทศในฤดูแล้งนี้ โดยต้องติดตามสภาพอากาศใกล้ชิด หากพบบริเวณใดมีสภาพอากาศเอื้ออำนวยให้บินขึ้นปฏิบัติการทันที เพื่อให้มีน้ำช่วยภาคเกษตรกรรม เติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งการบรรเทาปัญหาหมอกควัน ดับไฟป่า และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ป่าไม้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงปัญหาภัยแล้ง สั่งการให้กรมฝนหลวงฯ เตรียมพร้อมบุคลากร อากาศยาน เครื่องมือ และสารฝนหลวง ถ้าต้องการกำลังเสริมให้เสนอนายกฯสั่งการทุกเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติสนับสนุนทั้งอากาศยานและกำลังพลในการปฏิบัติ
กรมชลฯเร่งระบายน้ำไล่น้ำเค็ม
ขณะที่นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการเพิ่มปริมาตรน้ำที่ระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทเป็น 100 ลบ.ม./วินาที โดยจะคงการระบายอัตรานี้ถึงวันที่ 10 มกราคม จากนั้นจะทยอยปรับลดลงจนอยู่ที่ 90 ลบ.ม./วินาที ส่วนที่เขื่อนพระราม 6 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยาซึ่งรับน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบาย 11 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องถึงวันที่ 10 มกราคม แล้วจะปรับลดเช่นกัน ทั้งนี้ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือคาดการณ์ว่า น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดระหว่างวันที่ 12-13 มกราคม แล้วจะลดลงตามลำดับ ระหว่างนี้ได้เร่งสูบน้ำจากแม่น้ำลำคลองต่างๆ มาสู่แม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเพื่อเจือจางค่าความเค็มน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเดินเครื่องสูบน้ำ 12 เครื่องที่ประตูระบายน้ำ (ปตร.) พระยาบรรลือ สูบน้ำที่ผันมาจากแม่น้ำแม่กลองผ่านแม่น้ำท่าจีน ลงสู่คลองพระยาบรรลือ ระบายผ่านประตูระบายน้ำสิงหนาท 2 ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา 36 ลบ.ม./วินาที โดยจะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านอ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยาไปยังสถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี สถานีสูบน้ำดิบผลิตน้ำประปาเลี้ยงกรุงเทพฯ และปริมณฑล
“นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากการประปานครหลวงเพิ่มการสูบน้ำจากคลองประปาที่เชื่อมจากแม่น้ำท่าจีนมาลงคลองปลายบางบริเวณหน้าโรงกรองน้ำมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี จาก 6 ลบ.ม./วินาทีเป็น 10 ลบ.ม./วินาทีเพื่อให้น้ำจืดมาเจือจางค่าความเค็มของแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยให้ผลิตน้ำประปาได้ตามปกติ ประกอบกับเปิดบานประตูระบายน้ำ คลองลัดโพธิ์ช่วงเวลาน้ำลง ตั้งแต่เวลา 15.30- 21.30 น.” นายทองเปลวกล่าว และว่า ขณะนี้ขอความร่วมมือให้โครงการชลประทาน 2 ฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดรับน้ำเข้าระบบชลประทานให้เป็นไปตามแผนอย่างเคร่งครัด ขณะนี้น้ำยังไหลเข้าคลองชลประทานทุกสายและไหลย้อนขึ้นสู่แม่น้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานีได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี