บึ้มเย้ยเจรจา‘BRN’

ทหารดับ3

ล้างแค้นถูกวิสามัญ

ใบปลิวด่ายับถกโจร

เกลื่อนงานรำลึกครู

บิ๊กโอ๋จ้องปิดปากสื่อ

ห้ามเสนอข่าวมั่นคง

เมื่อเวลา 7.00 น. วันที่ 28 มีนาคม ร.ต.ต.สมพร สุขอนันต์ ร้อยเวร สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหาร (อส.ทพ.) บนถนนเลียบทางรถไฟสายเจาะไอร้อง-บูกิต ช่วงบ้านเจาะเกราะ ม.1 ต.บูกิต ทำให้ทหารเสียชีวิต 3 นาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 นาย จึงนำกำลังตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครองรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเสาไฟฟ้าริมถนนหักโค่นขวางถนนและมีศพเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 2นาย คือ อส.ทพ.ธีระฉัตร สีน้ำเงิน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่4810 สภาพถูกสะเก็ดระเบิดพรุนทั้งร่าง ศพที่2 คือ อส.ทพ.พรชัย โพธิ์เงิน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่4903 ถูกสะเก็ดระเบิดศีรษะเปิด ในที่เกิดเหตุพบเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในถังแก๊สปิคนิคหนัก 25กก.จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อน ส่วนผู้บาดเจ็บ 5นาย ถูกนำตัวส่ง รพ.เจาะไอร้อง ไปก่อนหน้านั้นแล้ว

ดักบึ้มอส.ทพ.พลีชีพ3สาหัส5

ต่อมา เจ้าหน้าที่ไปดูอาการผู้บาดเจ็บปรากฎว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1นาย คือ อส.ทพ.สังคม เมืองฮุง สังกัดกองร้อยทหารพรานที่4903 มีแผลฉกรรจ์ที่ลำตัว แขนและขา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 นายนั้น สังกัดกองร้อยทหารพรานที่4810 ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนและขา คือ 1.อส.ทพ.สุนันต์ ศรีสุข 2.อส.ทพ.กิตติ โกมาลย์ 3.อส.ทพ.บูรพา เนินทราย 4.อส.ทพ.บุง วงศ์ใหญ่และ5.ส.ท.ธวัชชัย ขำเหนียว หัวหน้าชุด แพทย์ปฐมพยาบาลแล้วจึงส่งไปรักษาต่อที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์

ลอบวางข้างเสาไฟฟ้าดักถล่ม

จากการสอบสวน ส.ท.ธวัชชัย ขำเหนียว หัวหน้าชุด ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงคืนที่ผ่านมา ได้นำกำลังกองร้อยทหารพรานที่4810 สนธิกำลังกับกองร้อยทหารพรานที่4903 รวม 12นาย ออกจากฐานที่ตั้งอยู่ในวัดเจาะไอร้อง เพื่อปฏิบัติภารกิจเดินเท้าดูแลหมู่บ้าน เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นหมู่บ้านภูมิลำเนาเกิดของ นายมะแซ อุเซ็ง แกนนำอาร์เคเครายสำคัญที่หลบหนีคดีปล้นปืนกองพันพัฒนาที่4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 4มกราคม2547 ปรากฏว่า มีคนร้ายแฝงตัวอยู่บนเนินดินภายในสวนยางพารารกทึบ ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ใส่ไว้ในถังแก๊สปิคนิคที่นำไปวางไว้ใต้โคนเสาไฟฟ้าริมทาง จนเกิดระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

ล้างแค้นเพื่อนถูก”วิ”จ่อป่วนอีก

จากการประเมินสถานการณ์เหตุร้ายที่เกิดขึ้นพบว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้มีด้วยกัน 3 คน คือ 1.นายซูกิฟรี สือแม มือประกอบระเบิดที่ประเทศมาเลเซีย เคยจับตัวได้ในบ้านเช่า ซึ่งตั้งอยู่เมืองปาเสมัส รัฐกลันตัน เมื่อประมาณ 7ปีที่ผ่านมา แต่ถูกปล่อยตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ 2.นายแวฮันมัน กูแวกามา ชำนาญใช้ปืนสงครามและ3.นายมามะ มูดออาแซ ผู้ควบคุมการปฏิบัติการของกลุ่มอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง โดยทั้ง 3คน ปฏิบัติการเพื่อแก้แค้นให้ นายอับดุลรอแม็ง ดือเลาะ ที่ถูกวิสามัญเสียชีวิตเมื่อวันที่ 27มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ร่วมสนธิกำลังกันออกไล่ล่ากลุ่มคนร้ายแล้ว เนื่องจากทราบว่า ทั้งหมดยังมีแผนก่อเหตุร้ายที่ อ.เจาะไอร้อง โดยเฉพาะในช่วงการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบที่ประเทศมาเลเซีย

ปัตตานีติดใบปลิวเย้ยขอคุยโจร

ที่ จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดงานรำลึกคุรุวีรชนชายแดนใต้ครั้งที่5ที่โรงแรมซีเอสปัตตานี ซึ่งสมาพันธ์ครูชายแดนใต้จัดขึ้น เพื่อรำลึกถึงการเสียสละของบรรดาครูที่อุทิศกำลังกาย กำลังใจมาสอนนักเรียนในชายแดนใต้ ท่ามกลางเหตุไม่สงบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเข้าสู่ปีที่9 ทำให้ครูสูญเสียชีวิตไปแล้ว 159คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ซึ่งบรรดาครูชายแดนภาคใต้เข้าร่วมงานนับหมื่นคน โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับปากจะมาเป็นประธานเปิดงานคุรุวีรชนชายแดนใต้ในครั้งนี้ แต่ต้องผิดหวังเพราะเวลาต่อมาทราบว่า นายกฯติดภารกิจเร่งด่วน จึงส่ง รมว.ศึกษาธิการ มาเป็นประธานแทน ขณะเดียวกันภายในงานพบแผ่นใบปลิวว่อนทั่วงาน มีเนื้อหาโจมตีรัฐบาลกรณีกำลังจะไปพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีข้อคามว่า“รัฐบาลสิ้นคิด ร้องขอโจรเจรจา ในการแก้ไขปัญหา”และยังมีการนำเนื้อหาของกรมหลวงชุมพรมาวางเกลื่อนงาน เจ้าหน้าที่ต้องรีบเก็บเพื่อไม่ให้กิดความเข้าใจผิดต่อกัน

สมช.ซักซ้อนก่อนถกบีอาร์เอ็น

ต่อมา เวลา 08.00น.ที่ห้องประชุมชั้น4 โรงแรมเจดับบิว มารีออท กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการฯสมช.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เชิญคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพฝ่ายไทย เข้าร่วมประชุมเพื่อวางกรอบของการพูดคุยเพื่อสันติภาพกับแกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น

โดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการฯสมช.เปิดเผยก่อนประชุมว่า หลังจากการพูดคุยวันนี้จะต้องออกแบบความถี่ของการพูดคุย ซึ่งคาดว่าจะเป็นเดือนละ 1ครั้ง แต่จะต้องพูดคุยกับฝ่ายขบวนการก่อน สำหรับกลุ่มที่จะมาพูดคุยในครั้งนี้คงจะยังไม่มีกลุ่มปฎิบัติการเดินทางมาพูดคุย แต่ก็ยังไม่ยืนยันเพราะยังไม่ทราบว่า จะมีผู้ใดเดินทางมาพูดคุยบ้าง รวมทั้งสถานที่พูดคุย ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นสถานที่ใด อยู่ที่ทางมาเลเซียที่จะมารับคณะเดินทางไป ส่วนแนวทางการพูดคุยนั้นก็ได้วางกันเอาไว้แล้ว ประเด็นหลักคือ ลดความรุนแรง ซึ่งทั้งหมดต้องอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญไทย

ย้ำลดรุนแรง-รับฟังข้อเสนอ

“หากมีข้อเสนอให้แบ่งพื้นที่การปกครองพิเศษ ก็ต้องรับฟังไว้ก่อน แล้วกลับไปพูดคุยฝ่ายเรา ซึ่งมีการประเมินไว้แล้วว่า อาจมีข้อเสนอนี้ อย่างไรก็ตามหัวข้อหลักต้องการให้ลดความรุนแรง ซึ่งเมื่อเรายกหัวข้อนี้ขึ้นมา ข้อมูลจากฝ่ายเขาก็คงจะออกมาว่า จะหยิบยกขึ้นมาปฎิบัติได้อย่างไร ส่วนความรุนแรงในพื้นที่ที่ยังคงเกิดอย่างต่อเนื่องนั้น การพูดคุยหรือไม่พูดคุย มันก็มีเหตุอยู่แล้ว เพราะปัจจัยที่เกิดเหตุมันเกิดจากหลายขบวนการ รวมทั้งภัยแทรกซ้อนอื่นๆ แต่เมื่อเราได้พูดคุยกับเขาแล้ว ตอนหลังเราสืบสภาพจะรู้ว่า มูลเหตุเกิดจากสิ่งใด”พล.ท.ภราดร กล่าว

มาเลย์เข้มห้ามสื่อตามทำข่าว

จากนั้น เวลา 10.00น.หลังจาก พล.ท.ภราดรและคณะ เสร็จสิ้นประชุมวางกรอบการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ก็เดินทางด้วยรถยนต์ 6คัน ที่ทางการมาเลเซียเตรียมเอาไว้เพื่อไปยังสถานที่ที่มีการพูดคุย ทั้งนี้ มาเลเซียไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนไทย ร่วมขบวนเดินทางดังกล่าวและไม่ให้ข้อมูลถึงสถานที่ที่พูดคุยแต่อย่างใด

“เหลิม”เล็งประชุมศปก.กปต.

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) กล่าวถึงการเจรจาระหว่าง สมช.กับกลุ่มบีอาร์เอ็น ว่า การเจรจาบางภาคส่วนอาจมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ตนได้คุยกับเลขาธิการฯสมช.รอบสุดท้ายและทำบันทึกเหตุผลและตัวบุคคลที่จะไปเจรจา ซึ่งตนบอกเลขาฯสมช.แล้วว่า ต้องรีบมารายงาน ศปก.กปต.ฝ่ายความมั่นคงและกองทัพ ซึ่งตนนัดประชุม ศปก.กปต.วันที่ 2เมษายนนี้ เพื่อรับทราบ เพราะหากรู้เบื้องต้นในสิ่งที่ไปพูดคุยมาจะกำหนดทิศทางได้

บิ๊กโอ๋ยัวสื่อตีข่าวเมษาเลือด

ขณะที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมวส.กลาโหม กล่าวว่า จะหารือกับ ผบ.เหล่าทัพ ถึงการเสนอข่าวด้านความมั่นคงของสื่อมวลชน เพราะขณะนี้เสรีภาพการเสนอข่าวของสื่อมีมากจึงต้องพิจารณาดู ซึ่งสื่อของต่างประเทศ อย่าง ซีเอ็นเอ็น เขาไม่เคยด่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกา ถึงมีก็น้อยมาก ตนรู้สึกเป็นห่วงเรื่องความมั่นคงด้านสื่อมวลชน

เมื่อถามว่า แล้วเป็นห่วงความมั่นคงด้านการเมืองหรือไม่ เพราะคาดการณ์ว่า จะเกิดความวุ่นวายช่วงเดือนเมษายนนี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ถ้าสื่อไม่เขียนก็ไม่มีใครรู้ ที่บอกว่าเมษายนจะเป็นเมษาเลือด จึงอยากถามว่า มีอะไรดีขึ้นหรือไม่ต่อประเทศไทย เมื่อถามต่อว่า การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนอาจจะเป็นการปรามเพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เมื่อถามว่า กระแสข่าวนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ปูดประเด็นขึ้นมาต้องไปห้ามปรามหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่สื่อ เพราะบางคนรู้ว่าเมื่อพูดไปสื่อก็เสนอข่าว ซึ่งเป็นการบั่นทอนประเทศตัวเอง

ผบ.ทบ.สวน9ข้อเสนอBRN

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอ 9ข้อของบีอาร์เอ็น ว่า จากที่อ่านดูนั้นยากและยังเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งต้องใช้เวลาและต้องมาพูดคุยพิสูจน์ทราบกันก่อน รวมถึงการลดความบาดเจ็บและสูญเสีย ต้องมาแก้กันทีละข้อ จะแก้ทีเดียว 9ข้อเลยไม่ได้ ซึ่งเขาพยายามเรียกร้องให้มากเข้าไว้ เราต้องดูว่า อันไหนเรายอมรับได้บ้าง ส่วนข้อเสนอที่จะให้ถอนทหาร คงยังไม่ได้ ถ้าจะถอนทหารออกมาตนวางการแก้ปัญหาไว้แล้วและเสนอไปยังรัฐบาลแล้ว คือ การแก้ปัญหา 3ระยะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระยะที่สอง ส่วนการตั้งรัฐปัตตานีนั้น เป็นไปไม่ได้