“ยุวชนอาสา” เป็นโครงการของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยให้คนรุ่นใหม่จากมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐและเอกชน ไปทำงานร่วมกับชุมชน อันเป็นการเรียนรู้
จากประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2563 ที่ผ่านมา มีพิธีเปิดมหกรรม “ยุวชนสร้างชาติ” ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมียุวชนอาสาจำนวน 500 คน จาก ม.กาฬสินธุ์, ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร, ม.ขอนแก่น, มทร.อีสาน วิทยาเขตนครราชสีมา, มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ,
มทร.อีสาน วิทยาเขตสุรินทร์, มรภ.มหาสารคาม, มรภ.ศรีสะเกษ และ ม.ศรีปทุม วิทยาเขตบางเขน เข้าร่วมพิธี ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้โอวาทแก่นักศึกษาที่เข้าร่วมในโครงการยุวชนอาสา ว่า โครงการยุวชนสร้างชาติ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาประเทศและเป็นโครงการสำคัญในการปฏิรูปประเทศไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ด้วยการใช้พลังเยาวชนไทยเป็นกุญแจหลักในการขับเคลื่อนประเทศ
พร้อมทั้งปฏิรูประบบการเรียนรู้สร้างประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน เปิดโอกาสให้ยุวชนนำความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีไปพัฒนาพื้นที่ชนบท พร้อมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์และผู้ประกอบการยุคใหม่อีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ประเทศไทยต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วนและจริงจัง คือ ทรัพยากรมนุษย์ที่มีทั้ง “ทักษะทางวิชาการ (Hard Skill)” และ “ทักษะทางอารมณ์และสังคม (Soft Skill)” รวมทั้งมีคุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม และศักยภาพที่จะดำเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21
“กระทรวง อว. เป็นกระทรวงสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากเป็นการหลอมรวมหน่วยงานวิจัยของประเทศและสถาบันอุดมศึกษามาเพิ่มพลังทวีคูณในการเติมเต็มศักยภาพของคนไทยให้สามารถเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมและความรู้เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน อยากให้ดึงอาชีวศึกษาเข้ามาร่วมในโครงการนี้ด้วย และให้ยุวชนอาสาไปสร้างเครือข่ายและดึงคนรุ่นใหม่มาร่วมโครงการนี้ให้ได้มากที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ขณะที่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ กล่าวว่า ยุวชนอาสาเหล่านี้จะไปทำงานร่วมกับชุมชนที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเหตุที่เลือก จ.กาฬสินธุ์ เพราะเป็นจังหวัดที่ติด 1 ใน 4 อันดับพื้นที่ยากจนที่สุดของประเทศ มีสัดส่วนคนยากจนสูงถึงร้อยละ 31.99 โดยรายงานการประมวลผลผลิตภัณฑ์ภาคและจังหวัดของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ พบว่า จ.กาฬสินธุ์ มีผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อหัวอยู่ที่เพียง 51,147 ต่อคนต่อปี
ทั้งนี้ มีนักเรียน-นักศึกษาผ่านการคัดเลือก จำนวน 83 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมาย 83 ตำบล ใน 15 อำเภอ จาก 134 ตำบล ใน 18 อำเภอ มีระยะเวลาในการดำเนินโครงงาน 1 ภาคการศึกษา โดยประเด็นการพัฒนา ครอบคลุม4 ด้าน ได้แก่ 1.พัฒนาศักยภาพที่มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าเกษตรและอาหารปลอดภัย 2.ยกระดับคุณภาพและรายได้ด้านการท่องเที่ยว และส่งเสริมการค้า การลงทุน 3.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม4.การพัฒนาทุนมนุษย์ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมที่มีความมั่นคงและสงบสุข
“โครงการนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่เยาวชนไทยจะเข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการนำความรู้ความสามารถที่เรียนมาช่วยแก้ปัญหาความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้เกิดขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรม โดยกำหนดเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด ภายใต้แนวคิดมั่งคั่งด้วยเกษตรปลอดภัย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยกำหนดเป้าหมายผลิตภัณฑ์มวลรวมเฉลี่ยต่อคนต่อปีเพิ่มสูงขึ้น 7% และสัดส่วนคนจนลดลง 2.5% ต่อปี” นายสุวิทย์ ระบุ
สำหรับโครงการยุวชนอาสานั้นเป็นโครงการที่นักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 กลุ่มละ 8-10 คนแบบคละศาสตร์ (วิทย์-สังคม) เรียนรู้และพักอาศัยในชุมชนเป็นเวลา 1 ภาคเรียน (4-5 เดือน) และได้รับหน่วยกิตเทียบเท่าการเรียนในชั้นเรียนทั้งภาคเรียน นอกจากนี้ยังมีอีก 2 โครงการคือ “บัณฑิตอาสา” สำหรับบัณฑิตจบใหม่ไม่เกิน 3 ปี กลุ่มละ 8-10 คนแบบคละศาสตร์ (วิทย์-สังคม) ลงพื้นที่พักอาศัยและทำโครงการในชุมชนเป็นระยะเวลา 12 เดือน และ “กองทุนยุวสตาร์ทอัพ” สำหรับนักศึกษาและบัณฑิตจบใหม่ที่สนใจรวมกลุ่มกันเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ
อนึ่ง นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการยังนำเสนอผลงานต่อนายกรัฐมนตรีด้วย ได้แก่ 1.การสร้าง Smart Farmer ไทยด้วย IoT (Internet of Thing) : โครงการส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีอบพริกแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยระบบ IoT โดย มรภ.มหาสารคาม 2.การพัฒนาที่ยั่งยืนสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ : การบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต โดย ม.ขอนแก่น
3.โครงการสู่ “นาบอนโมเดล” การท่องเที่ยวชุมชนเทคโนโลยี 4.0 โดย ม.ศรีปทุม 4.จากขยะสู่หนอนสู่โปรตีนเลี้ยงสัตว์คุณภาพสูง : โครงการพัฒนาศักยภาพชุมชนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากหนอนแมลงวันลาย (ย่อยขยะอินทรีย์) ให้เป็นโปรตีนเลี้ยงสัตว์คุณภาพสูง โดย ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร และ 5.หมู่บ้านต้นแบบผ้าทอพื้นเมืองตามอัตลักษณ์ผู้ไทเพื่อสุขภาพ โดย ม.กาฬสินธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี