“รอง ผบช.สตม.” ตรวจราชการหนองคาย ลงเรือตรวจการณ์เช็คลำน้ำโขง เจอพอดีรวบหนุ่มลาวหนีเข้าเมือง เผย “ไบโอเมทริกซ์” ตม.หนองคาย ใช้งานได้มีประสิทธิภาพ ย้ำโครงการ “เรือยนต์ตรวจการณ์” สตม. เพิ่มขีดความสามารถดูแลประชาชน
17 มกราคม 2563 พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (รอง ผบก.ตม.1) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รองโฆษก สตม.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้(17 มกราคม 2563) ที่ จ.หนองคาย พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) ในฐานะโฆษก สตม. ได้ลงเรือตรวจการณ์ของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย(ตม.จว.หนองคาย) เพื่อลาดตระเวนตามแม่น้ำโขง , ตรวจดูความเรียบร้อย ทดสอบการใช้เรือลาดตระเวนตรวจการณ์ของ ตม.จว.หนองคาย และป้องปรามการลักลอบเข้าเมืองของคนต่างด้าว
ทั้งนี้ ขณะที่คณะทำการลาดตระเวนอยู่นั้นได้พบชายคนหนึ่ง ท่าทางมีพิรุธอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำโขงช่วงบ้านหาดคำ ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย จึงได้เรียกสอบถาม พบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาว ที่ลักลอบเข้าเมืองทาง จ.หนองคาย เพื่อหางานทำ จากการตรวจสอบไม่มีเอกสารการเข้าเมือง จึงได้ทำการจับกุมตัวไว้ ในข้อหาลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ผ่านช่องทางที่กฎหมายกำหนด
ด้าน พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) ในฐานะโฆษก สตม. กล่าวว่า ตนได้มาตรวจราชการที่ ตม.จว.หนองคาย โดยเฉพาะการตรวจสอบการใช้เครื่องไบโอเมทริกซ์ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย พบว่า เจ้าหน้าที่ ตม.จว.หนองคาย ได้ใช้งานเครื่องไบโอเมทริกซ์ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีไบโอเมทริกซ์ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้าได้ดี มีประสิทธิภาพ
ส่วนการใช้งานเรือตรวจการณ์ซึ่งได้รับการอนุมัติใช้งาน 1 ลำ ขนาด 21 ฟุต เจ้าหน้าที่ได้ใช้ลาดตระเวนในแม่น้ำโขง สามารถจับกุมชาวลาวที่ลักลอบเข้าเมืองได้ประมาณ 5 ราย มีวงรอบการตรวจตามแม่น้ำโขงอยู่ตลอด มีการบูรณาการร่วมกับตำรวจน้ำหนองคาย และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เพื่อปฏิบัติงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับโครงการเพิ่มประสิทธิภาพเรือยนต์ตรวจการณ์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตามนโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) จากที่มีการเสนอข่าวและเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชนในตอนนี้ อาจทำให้ประชาชนเกิดความสงสัยต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้นเพื่อสร้างความสบายใจ ความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน จึงขอชี้แจงให้ทราบว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีภารกิจในการบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และการใช้แรงงานผิดกฎหมายในภาคประมงไทย โดยการประกอบกำลังร่วมปฏิบัติในการสกัดกั้น ป้องกัน ปราบปราม สืบสวนขยายผล คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนและพื้นที่เป้าหมาย ทั้งพื้นที่ติดทะเล และพื้นที่ข้างเคียง โดยประเทศไทยมีพรมแดนทางทะเลยาว 1,500 ไมล์ และมีด่านตรวจคนเข้าเมืองทางน้ำอยู่ในความรับผิดชอบด้วย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีเรือยนต์ตรวจการณ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน
หน่วยงานในสังกัดที่ได้รับเรือยนต์ตรวจการณ์ไปแล้วนั้นได้นำไปปฏิบัติภารกิจเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เช่น ตรวจป้องกันการค้ามนุษย์หรือการลักลอบทำงานผิดกฎหมายบนเรือประมงที่อยู่นอกชายฝั่ง หากพบเหยื่อหรือผู้เสียหาย สามารถช่วยเหลือได้ทันท่วงที นอกเหนือจากภารกิจประจำแล้ว ยังได้นำเรือยนต์ตรวจการณ์ไปปฏิบัติภารกิจพิเศษ เช่น การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยที่จังหวัดอุบลราชธานี และบูรณาการร่วมตรวจลำน้ำโขงเพื่อป้องกัน สกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย เป็นต้น
นอกเหนือจากการจัดซื้อเรือยนต์แล้ว เรายังมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำเรือยนต์ตรวจการณ์ฯ จนได้รับประกาศนียบัตรนายท้ายเรือ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังมีแผนการในการจัดอบรมเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังมีแผนที่จะรับโอนทหารเรือที่มีความรู้ความสามารถมาบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีกด้วย
ในการจอดเรือเมื่อว่างเว้นจากการปฏิบัติภารกิจนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยรวมถึงสภาพความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ บางพื้นที่อาจจะสามารถจอดอยู่ในน้ำ แต่บางพื้นที่อาจเกิดภาวะน้ำแล้งหรือเกิดมรสุมจนไม่สามารถจอดในน้ำได้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำขึ้นมาจอดบนบก ซึ่งสามารถนำมาจอดไว้ใกล้ที่ทำการ เป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สินของทางราชการอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นจึงขอเรียนประชาชนขอให้มั่นใจในศักยภาพของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่าสามารถดูแลความสงบสุขให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างแน่นอนตามนโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี