โพลล์เชื่อมือรบ.
วางแผนรับมือภัยแล้ง
ฝุ่นเมืองกรุงยังวิกฤติ
25เขตเกินมาตรฐาน
เผยผลสำรวจพบประชาชนส่วนใหญ่ รู้สึกเป็นกังวลต่อสถานการณ์ภัยแล้ง โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 81.5มีการเตรียมรับมือไว้แล้ว ทั้งการใช้อย่างประหยัด กักตุน ซื้อถังเก็บน้ำขณะที่แหล่งน้ำในเขต อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เริ่มแห้งขอดจากการระดมสูบน้ำขึ้นไปทำนา
เมื่อวันที่ 18 มกราคม กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ประชาชนกับวิกฤตภัยแล้ง 2020” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,182 คน โดยพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 50.5 กังวลเรื่องการทำเกษตร/รายได้เกษตรกร/พืชผลเกษตรเสียหายมากที่สุด หากเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง รองลงมาคือ ไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้คิดเป็นร้อยละ 49.1และข้าวของราคาแพงขึ้น /ราคาสินค้าเกษตรแพงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 48.6
เมื่อถามว่าวิตกกังวลมากน้อยเพียงใดกับสถานการณ์ภัยแล้งที่คาดว่าจะมีความรุนแรงมากเป็นอันดับสองในรอบ 40 ปี นับตั้งแต่ปี 2522 พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 72.5 กังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 27.5 กังวลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด สำหรับการเตรียมรับมือกับภัยแล้งพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.5 มีการเตรียมรับมือ โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 67.8 ใช้น้ำอย่างประหยัดขึ้น รองลงมาร้อยละ 19.5 กักตุนน้ำดื่ม และร้อยละ 18.0 ซื้อถังเก็บน้ำ ขณะที่ร้อยละ 18.5 ไม่มีการเตรียมรับมือ เพราะน่าจะมีน้ำใช้เพียงพอ
ในส่วนของความเห็นต่อสถานการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและอาชีพของท่านมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 53.3 เห็นว่ามีผลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 46.7 เห็นว่ามีผลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อการเปิดกองอำนวยการน้ำแห่งชาติของหน่วยงานรัฐ จะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งและทำให้คนไทยมีน้ำใช้ตลอดทั้งปีได้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 57.0 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 43.0 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งที่ จ.พิษณุโลก ว่า ในพื้นที่ลุ่มน้ำยมแถบ อ.บางระกำ สภาพแม่น้ำยมสายหลัก แม่น้ำยมสายเก่า หรือ คลองบางแก้ว และคลองวังแร่ รวมถึงแหล่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่อยู่ในสภาพเริ่มแห้งขอดลงทุกขณะ แม่น้ำ คู คลอง แม้จะเหลือน้ำขังเป็นแอ่งๆ แต่ก็ถูกจ่อด้วยเครื่องสูบน้ำของชาวนาตลอดสาย เพื่อดึงน้ำขึ้นไปทำนาข้าว มีชาวบ้านในพื้นที่ต่างนำเครื่องมือมาจับปลา คาดว่าจะแห้งขอดไม่เหลือน้ำติดก้นคลองเลยในเร็ววันนี้ เป็นสภาพภัยแล้งรุนแรงที่ใกล้เคียงปี 2558 ที่แม่น้ำและคูคลองสาขาในลุ่มน้ำยมของจ.พิษณุโลกอยู่ในสภาพแห้งขอด
ขณะที่พื้นที่โดยรวมของ อ.บางระกำในหลาย ๆ ตำบล อาทิ ต.ท่านางงาม ต.บางระกำ ต.ชุมแสงสงคราม สภาพพื้นที่เต็มไปด้วยนาข้าวอายุ 1-2 เดือน ที่ยังแลดูเขียวขจี แม้ว่ากรมชลประทานจะออกประกาศแจ้งเตือนว่าจะปีนี้ จะงดส่งน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร เนื่องจากน้ำในเขื่อนไม่เพียงพอ แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ ก็เลือกที่จะทำดีกว่าปล่อยให้พื้นที่รกร้างว่างเปล่า จำนวนมาก และมีบ่อน้ำบาดาลเป็นของตัวเอง
นายดำรง ทองรอด อายุ 70 ปี ชาวนาม.5 บ้านห้วยชัน ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนทำนา 20 ไร่ เดิมใช้น้ำจากคลองบางแก้ว หรือ แม่น้ำยมสายเก่าเป็นหลัก แต่ปัจจุบัน น้ำในคลองบางแก้ว แทบไม่มีเหลือแล้ว เพราะต่างระดมสูบน้ำกัน ต้องหันมาใช้น้ำจากบ่อบาดาล ที่ลงทุนเจาะบ่อไว้ ในงบประมาณ 20,000 บาท และในปีนี้ประทานจะส่งน้ำจากแม่น้ำน่านมาช่วยในพื้นที่ อ.บางระกำ
นายสมศักดิ์ บ่องเขาย้อย กำนันตำบลท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า นาปรังรอบนี้ ช่วงแรก ๆ หลังจากหมดหน้าฝนใหม่ ๆ น้ำในคลองบางแก้วค่อนข้างมาก เป็นเพราะมีการเตรียมการกักเก็บน้ำไว้ใช้ ชาวนาจึงทำนากันมาก กระทั่งปัจจุบันน้ำในคลองบางแก้วแทบไม่มีเหลือแล้ว แต่ชาวนาส่วนใหญ่ ก็จะมีบ่อบาดาลในพื้นที่ของตัวเอง บางคนที่ทำนาไปแล้ว ก็ต้องลงทุนเจาะบ่อบาดาลเพิ่ม
วันเดียวกัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม สรุปผลการตรวจวัด PM2.5 เวลา 05.00-07.00 น. วันที่ 18 มกราคม ตรวจวัดได้ 43-79 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่าเฉลี่ย 56 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและยังคงมีค่าเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 25 เขต คือ พันธวงศ์ พญาไท วังทองหลาง ปทุมวัน บางรัก บางคอแหลม ยานนาวา จตุจักร บางกะปิ ลาดกระบัง คลองสาน บางกอกน้อย ภาษีเจริญ บางเขน บางพลัด บางขุนเทียน พระนคร คลองเตย บางซื่อ หลักสี่ บึงกุ่ม สวนหลวง คลองสามวา สายไหม และดอนเมือง
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที พร้อมมอบหมายให้ 50 สำนักงานเขต หากพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐาน ให้เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดถนนและทางเท้า การพ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละออง
ทางด้าน นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศแห้งแล้งในช่วงนี้จะเกิดภาวะอากาศมีฝุ่นละอองจากหมอกควันปกคลุมในบางพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ สาเหตุจากไฟป่าและการเผาขยะเศษวัชพืชในไร่นา ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าที่อาจจะเกิดขึ้น ทางจังหวัดได้ออกประกาศจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่องกำหนดเขตควบคุม เขตห้ามเผาเด็ดขาด และมาตรการป้องกันแลกแก้ไขปัญหามลพิษจากไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ทุกอำเภอทั้ง 23 แห่งประชุมชี้แจงองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนห้ามเผาป่า อ้อย ตอซังข้าว เศษใบไม้ วัชพืช และอื่นๆ ในเขตบ้านเรือน ชุมชน แนวเขตป่า และในป่า โดยเด็ดขาด กรณีมีความจำเป็นต้องเผา ให้แจ้งคณะกรรมการหมู่บ้าน-ชุมชน ทราบ เพื่อร่วมตรวจสอบและควบคุมการเผา พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทุกอำเภอจัดชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมเข้าระงับเหตุ หากหมู่บ้าน-ชุมชนไม่สามารถควบคุมได้ หากพบมีผู้ฝ่าฝืนก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี