วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/63 ข้าวรอบที่ 2 (นาปรัง) 4.54 ล้านไร่
โดยข้อมูลเบื้องต้นจากการรายงานผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ณ 8 มกราคม 2563 พบว่า มีการเพาะปลูกข้าวนาปรังแล้ว 3.12 ล้านไร่ หรือร้อยละ 68.72 ของแผน โดยในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา (22 จังหวัด) เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังไปแล้ว 2.25 ล้านไร่ (แบ่งเป็น ในเขตชลประทาน 1.59 ล้านไร่ ซึ่งไม่อยู่ในแผนการเพาะปลูก และนอกเขตชลประทาน 0.66 ล้านไร่) คิดเป็น 2.14 เท่าของแผนการเพาะปลูกข้าวนาปรังในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา (22 จังหวัด) ดังนั้น หากเกิดภัยแล้ง อาจเกิดปัญหาพิพาทการแย่งน้ำระหว่างเกษตรกร และปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคบางพื้นที่ รวมทั้งปัญหาที่เกษตรกรบางส่วนต้องซื้อน้ำหรือสูบน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะเพื่อไม่ให้ข้าวที่ปลูกไปแล้วเสียหาย ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตข้าวนาปรังมีแนวโน้มสูงขึ้น
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวว่า จากข้อมูล สศก. ปี 2562 พบว่า ลุ่มเจ้าพระยา 22 จังหวัด มีพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังประมาณ 7.89 ล้านไร่ ซึ่งในปี 2563 เกษตรกรในลุ่มน้ำเจ้าพระยาปลูกข้าวนาปรังไปแล้ว 2.25 ล้านไร่ ดังนั้น จะเหลือพื้นที่ที่ยังไม่ปลูกข้าวนาปรัง ประมาณ 5.64 ล้านไร่ โดย สศก.ศึกษาแนวทางส่งเสริมปลูกพืชทางเลือกที่ใช้น้ำน้อย ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา (22 จังหวัด) ที่ยังไม่ได้ปลูกข้าวนาปรัง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และ พืชตระกูลถั่ว (ถั่วลิสงถั่วเขียว) เนื่องจากเป็นพืชที่ทนแล้ง และดูแลรักษาง่าย โดย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลิตได้ปีละประมาณ 4.73 ล้านตันขณะที่ความต้องการใช้อยู่ที่ประมาณ8.44 ล้านตัน ผลผลิตจึงขาดอีกประมาณ 3.71 ล้านตัน (คิดเป็นพื้นที่ปลูก 4.74 ล้านไร่) อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่เหมาะสมและมีศักยภาพปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา (22 จังหวัด) มีเพียง 3.41 ล้านไร่เท่านั้น ดังนั้น ควรส่งเสริมปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทดแทนข้าวนาปรังในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (22 จังหวัด) ในพื้นที่ที่เหมาะสม 3.41 ล้านไร่ ซึ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีต้นทุนการผลิต 4,370.18 บาท/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้ 7,810 บาท/ตัน เกษตรกรจะได้ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) จากการส่งเสริมปลูกในพื้นที่ที่เหมาะสม 1,737.24 บาท/ไร่ ทั้งนี้ คาดว่าจะได้ผลผลิตประมาณ 2.67 ล้านตัน (คำนวณจากผลผลิตต่อไร่ 782 กก.) ไม่ส่งผลกระทบต่อราคาแน่นอน เนื่องจากยังไม่เกินความต้องการใช้
.jpg)
ถั่วลิสง เป็นพืชปรับปรุงบำรุงดิน โดยปัจจุบันผลิตได้ปีละประมาณ 32,810 ตัน ขณะที่ความต้องการใช้อยู่ที่ประมาณ 115,000 ตัน ส่งผลให้ผลผลิตถั่วลิสงยังไม่เพียงพอประมาณ 80,000 ตัน ดังนั้น หากส่งเสริมปลูกถั่วลิสงทดแทนปลูกข้าวนาปรังและให้เพียงพอความต้องการอีก 80,000 ตัน จะต้องใช้พื้นที่ปลูกประมาณ 0.23 ล้านไร่ (คำนวณจากผลผลิตต่อไร่ 352 กก.) โดยถั่วลิสง มีต้นทุนการผลิต 5,943 บาท/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้ 56.09 บาท/กก. เกษตรกรจะได้ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) ถึง 13,800.68 บาท/ไร่
ถั่วเขียว นอกจากเป็นพืชช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดินแล้ว ยังใช้น้ำน้อยและดูแลรักษาง่าย ปัจจุบันผลิตได้ปีละประมาณ 112,485 ตัน ขณะที่ความต้องการใช้อยู่ที่ประมาณ 134,000 ตัน ส่งผลให้ผลผลิตถั่วเขียวยังไม่เพียงพอประมาณ 20,000 ตัน ดังนั้น หากจะส่งเสริมปลูกถั่วเขียวทดแทนการปลูกข้าวนาปรังและให้เพียงพอกับความต้องการอีก 20,000 ตัน จะต้องใช้พื้นที่ปลูกประมาณ 0.14 ล้านไร่ (คำนวณจากผลผลิตต่อไร่ 140 กก.) โดยถั่วเขียวมีต้นทุนการผลิต 2,397 บาท/ไร่ ราคาที่เกษตรกรขายได้ 21.71 บาท/กก. เกษตรกรจะได้ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) 642.40 บาท/ไร่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี