กทม.ยังวิกฤติ
ลมสงบ-เจอภาวะ'ฝาชีครอบ'
32เขตฝุ่นพิษพุ่งแดงโร่
แนะใส่หน้ากากป้องกัน
ค่าฝุ่นในกทม.-ปริมณฑล เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เกินค่ามาตรฐาน 32 เขต วัดได้สูงสุด 89 มคก.ที่เขตพระนคร คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ แนะปชช.เลี่ยงทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน และสวมหน้ากากอนามัยออกจากบ้านทุกครั้ง ด้านอธิบดีกรมควบคุมมลพิษแจงฝุ่นอยู่ในเกณฑ์กระทบสุขภาพระดับสีแดง สาเหตุจากลมสงบและภาวะฝาชีครอบ ทำให้ฝุ่นสะสมพุ่งต่อเนื่อง รวมถึงการจราจรช่วงวันหยุดหนาแน่น ย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการที่ครม.เห็นชอบแก้ปัญหาเป็นการด่วน
เมื่อวันที่ 19มกราคม กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานคร โดยสรุปผลตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ช่วงเวลา 10.00-12.00 น. เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่น 2.5 ไมครอน ตรวจวัดได้ 40-89 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่าPM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและยังคงมีค่าเกินมาตรฐาน 32เขตได้แก่ เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : 63 มคก./ลบ.ม., เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : 61 มคก./ลบ.ม., เขตวังทองหลาง หน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : 81 มคก./ลบ.ม., เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : 62 มคก./ลบ.ม.
เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : 64 มคก./ลบ.ม., เขตบางคอแหลม ป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : 79 มคก./ลบ.ม., เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : 65 มคก./ลบ.ม., เขตจตุจักร หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : 59 มคก./ลบ.ม., เขตบางกะปิ ข้างป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงาน เขตบางกะปิ:72 มคก./ลบ.ม.เขตลาดกระบัง หน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : 69 มคก./ลบ.ม., เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : 52 มคก./ลบ.ม., เขตคลองสาน หน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : 70 มคก./ลบ.ม., เขตบางกอกน้อย หน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : 59 มคก./ลบ.ม. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) : 63 มคก./ลบ.ม.เขตบางเขน ในสำนักงานเขตบางเขน : 66 มคก./ลบ.ม., เขตบางพลัด ในสำนักงานเขตบางพลัด : 60 มคก./ลบ.ม., เขตบางขุนเทียน ในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : 60 มคก./ลบ.ม., เขตพระนคร ในสำนักงานเขตพระนคร : 89 มคก./ลบ.ม., เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอยถนนเซนต์หลุยส์ : 54 มคก./ลบ.ม.เขตคลองเตย ในสำนักงานเขตคลองเตย : 73 มคก./ลบ.ม. เขตบางซื่อภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : 63 มคก./ลบ.ม. เขตหลักสี่ ในสำนักงานเขตหลักสี่ : 71 มคก./ลบ.ม. เขตบึงกุ่ม ในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : 79 มคก./ลบ.ม. เขตสวนหลวง หน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : 55 มคก./ลบ.ม. เขตลาดพร้าว ในสำนักงานเขตลาดพร้าว : 51 มคก./ลบ.ม., เขตคลองสามวา ริมถนนเลียบคลองสอง : 57 มคก./ลบ.ม., เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : 60 มคก./ลบ.ม., เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (แยกหลานหลวง) : 52 มคก./ลบ.ม.เขตจอมทอง ในสำนักงานเขตจอมทอง : 51 มคก./ลบ.ม., เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : 59 มคก./ลบ.ม., เขตวัฒนา สถานีรถไฟฟ้าอโศก : 56 มคก./ลบ.ม. และเขตดุสิต กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย : 54 มคก./ลบ.ม.
ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกทม. พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศปานกลาง - เริ่มมีผลกระทบต่อร่างกาย แนะนำให้ลดทำกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานเป็นเวลานาน ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หากมีอาการไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือหากจำเป็นต้องออกนอกสถานที่อาคาร บ้านเรือน ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย
ด้านนายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลว่า จากการติดตามรายชั่วโมง มีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุการเพิ่มขึ้นของค่าฝุ่นละอองจนมีค่าอยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพระดับสีแดง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เกิดจากสภาพอุตุนิยมวิทยา ซึ่งเช้าวันนี้ยังเกิดภาวะลมสงบต่อเนื่อง จากเมื่อวันที่ 18 มกราคม ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯและปริมณฑล ทำให้การกระจายตัวของฝุ่นยังอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับสภาพความกดอากาศในพื้นที่ประเทศไทย เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดภาวะฝาชีครอบ (inversion)ในระดับ 1 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งปกติควรสูงกว่า 3 กม. ทำให้สถานการณ์ยังมีการสะสมตัวของฝุ่นตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มกราคมต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันนี้เพิ่มสูงขึ้น
นายประลองกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุจากการจราจร พบว่าสถานการณ์การจราจรเมื่อวันที่ 18 มกราคมช่วงกลางวันค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการจัดแสดงสินค้า กีฬา และสถานที่ท่องเที่ยวหลักของกรุงเทพฯ ประกอบกับสภาพทางอุตุนิยมวิทยา ทำให้มีการสะสมตัวของฝุ่นเพิ่มขึ้นตลอดวัน จนทำให้ปริมาณฝุ่น PM 2.5 อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา 1 พื้นที่คือ ริมถนนสามเสน เขตพระนคร บริเวณบางลำพู
อย่างไรก็ดี เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่นละอองในช่วงเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง คพ.จึงแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการภารกิจตามแผนฯอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกการจราจร เพื่อลดปัญหาจราจรติดขัด โดยกองบังคับการจราจร (บก.จร.) จัดชุดตำรวจราจรจัดการจราจรในพื้นที่การจราจรติดขัดหนักต่อเนื่อง
สำหรับการปฏิบัติตน เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีค่าคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานหลายพื้นที่นั้น อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ช่วงนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทางสุขภาพที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ในพื้นที่ที่ฝุ่นเกินมาตรฐานควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นรวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ ตามหลักการป้องกันไว้ก่อน
นายประลองกล่าวอีกว่า สถานการณ์ฝุ่นหลายพื้นที่ของวันนี้ มีค่าเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด โดยเฉพาะพื้นที่สีแดง คพ.ประสานขอให้เข้มงวดมาตรการที่ได้ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามบัญชาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัด เข้มงวด และแก้ปัญหาเร่งด่วน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีขึ้น ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆ เช่น กรมขนส่งทางบก กรมทางหลวง บก.จร. กทม. ขสมก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ยังดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง อาทิ ตรวจวัดควันดำ เข้มงวดห้ามรถบรรทุกเข้าเขตกรุงเทพฯ ตามช่วงเวลาที่กำหนด เข้มงวดตรวจจับควันดำรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถโดยสาร ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าหลีกเลี่ยงการนำรถบรรทุกสินค้าทุกประเภท ยกเว้นสินค้าจำเป็น เช่น ของสด เข้าเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศอย่างเข้มงวด โดย กรอ.ประสาน โรงงานอุตสาหกรรมลดกำลังการผลิตช่วงสถานการณ์ฝุ่นสูง ไม่ให้เผาในที่โล่งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ควบคุมและลดฝุ่นจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า กรก่อสร้างประเภทอื่น พร้อมเร่งคืนผิวการจราจรให้ประชาชนเพื่อลดปัญหาจราจรติดขัดช่วงกลางวัน
อธิบดีกรมควบคุมามลพิษกล่าวด้วยว่า ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือระดับพื้นที่สีแดง ได้แก่ พื้นที่ริมถนนสามเสน ในเขตพระนคร คพ.ประสาน กทม.และบก.จร.เพื่อให้เข้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน พร้อมแจ้ง สธ.เร่งประชาสัมพันธ์การปฏิบัติตนในสถานการณ์ที่ค่าฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว
ส่วนสถานการณ์ต่อจากนี้ ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ช่วงเช้าวันนี้ ยังมีการสะสมตัวของฝุ่นละอองต่อเนื่องจากภาวะลมสงบ กระทั่งช่วงเที่ยงวันเดียวกัน การฟุ้งกระจายตัวของฝุ่นละอองจะเริ่มดีขึ้นเนื่องจากหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะได้รับอิทธิพลลมตะวันออกเฉียงใต้ และอาจมีโอกาสเกิดฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทั้งนี้ จาก ข้อมูลการพยากรณ์อากาศรายสัปดาห์พบว่า วันเดียวกันนี้ มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมฝ่ายตะวันตกระดับบนพัดความหนาวเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยเข้าปกคลุมภาคเหนือ
ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 22-24 มกราคม ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออกลงสู่ทะเลจีนใต้มากขึ้น ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิสูงขึ้น มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกและภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนสภาพการจราจร เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ การจราจรในภาพรวมเช้าวันนี้ค่อนข้างคล่องตัวมากกว่าเมื่อวันที่ 18 มกราคม และแม้อาจมีบางพื้นที่ที่มีการสะสมตัวของการจราจรอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก สอดคล้องข้อมูลดัชนีรถติดจากมูลนิธิศูนย์ข้อมูลจราจรอัจฉริยะไทย จะช่วยให้สถานการณ์ภาพรวมวันนี้ยังมีฝุ่นละอองสะสมอยู่ระดับหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี