ปัญหาส่วนตัว-การเงิน
ไอ้เหี้ยมเปิดปาก
ลั่นพร้อมรับโทษประหาร
ตำรวจดำเนินคดี7ข้อหาหนัก
เจตนาฆ่า-พกอาวุธ-ชิงทรัพย์
‘ผบ.ตร.’ยืนยันไม่ได้จับแพะ
ส่งศาลฝากขังนอนเรือนจำ
โจรเหี้ยมโฟนอินตอบคำถามสื่อ สารภาพมูลเหตุปล้นชิงทอง ฆ่า 3 ศพ เกิดจากปัญหาส่วนตัว-การเงิน เผยคิดวางแผน 3 วัน ก่อนลงมือ อ้าง คิดจะเข้ามอบตัวหลัง 24 มกราคม เพราะมีภารกิจที่ต้องทำ ตำรวจแจ้ง 7 ข้อหาหนัก ผบ.ตร.ยันไม่ได้จับแพะ ก่อนส่งตัวเข้าฝากขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เจ้าตัวเปิดปากสำนึกผิด พร้อมรับโทษทุกสถาน ไม่ว่าจะเป็นประหาร หรือจำคุกตลอดชีวิต
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 มกราคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมาน กองปราบปราม จำนวนกว่า 10นาย เบิกตัว นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่ผู้คน จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย เพื่อเปิดทางเข้าชิงทรัพย์ร้านทอง ออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี ก่อนหลบหนีไปพร้อมทองคำหนัก 28บาท ออกจากห้องคุมขังกองปราบปราม เพื่อนำตัวขึ้นรถตู้เดินทางต่อไปยัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อแถลงรายละเอียดทางคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเมื่อคืนวันที่ 22มกราคม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม ได้นำตัวนายประสิทธิชัย จากพื้นที่ จ.ลพบุรี ส่งตัวมาคุมขังยังกองปราบปราม พบว่าตลอดทั้งคืนนายประสิทธิชัย มีอาการตึงเครียดเพียงเล็กน้อย แต่ยังพักผ่อนนอนหลับและรับประทานอาหารเช้าได้ตามปกติ โดยไม่ได้มีการเรียกร้องใดๆเป็นพิเศษจากทางเจ้าหน้าที่ อีกทั้ง ในช่วงที่ ถูกคุมตัวพาไปขึ้นรถบริเวณประตูด้านหน้าเพื่อเดินทางต่อไปยัง สตช.นั้น เจ้าตัวยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใดๆกับสื่อมวลชนที่พยายามซักถาม อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายประสิทธิชัยออกจาก สตช.เพื่อไปกองปราบปราม แต่ได้นำตัวกลับมา สตช.อีกครั้งเนื่องจากสับสนในคำสั่ง
ผบ.ทบ.นำทีมตำรวจแถลงจับกุม
ต่อมาเวลา 10.44น.ที่ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย,พล.ต.อ.สุชาติ ธีรสวัสดิ์,พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผช.ผบ.ตร.,พล.ต.ท.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผบช.สพฐ.ตร.,พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิตรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี และ พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. ร่วมแถลงผลการจับกุมนายประสิทธิชัย
โจรเหี้ยมมีปัญหาส่วนตัว-การเงิน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้โฟนอินให้ผู้ต้องหาได้ตอบคำถามสื่อมวลชน โดย นายประสิทธิชัย กล่าวถึงเหตุจูงใจที่ทำให้ลงมือเหตุครั้งนี้ว่า เกี่ยวกับปัญหาส่วนตัว และปัญหาเกี่ยวกับการเงินของตัวเอง
ต่อคำถามที่ว่า ต้องการทอง แล้วทำไมต้องก่อเหตุยิงผู้อื่นด้วย? นายประสิทธิชัย กล่าวว่า ต้องการยิงเพื่อ... (หยุดคิดนิดหนึ่ง) เปิดทางหรือว่าให้กลัว ถามว่า ได้วางแผนไว้หรือไม่ นายประสิทธิชัยตอบว่า มีการคิดไว้ล่วงหน้า 2-3 วัน ถามว่าทำไมต้องยิงผู้หญิงซ้ำ นายประสิทธิชัย ตอบว่า ตอนที่ตนได้ขึ้นไปที่ตู้กระจก ได้หันปลายกระบอกปืนไปที่ผู้หญิง ถุงมือที่ใส่อยู่มันไปขัด พอดึงถุงมือให้ขยับออก มันได้ยิงไป 2 นัด คือ ถุงมือเข้าไปพันไกปืน
อ้างสำนึกและเสียใจกับการกระทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นเด็กไหม นายประสิทธิชัย ตอบว่า ไม่เห็น ตนยิงรปภ. เพื่อเปิดทาง คาดว่า ลูกกระสุนแฉลบไปโดนเด็ก ไม่ได้ตั้งใจว่าจะยิงเด็ก ถามว่า ไม่รู้สึกผิดเลยหรือที่ยิงเด็ก นายประสิทธิชัย ตอบว่า รู้สึกสำนึกและรู้สึกผิด พอดูข่าวแล้ว ลูกกระสุนไปโดนเด็ก ตนรู้สึกสำนึกและเสียใจกับการกระทำ ถามต่อว่า หลังจากยิงเด็กแล้วทำไมใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย นายประสิทธิชัย ตอบว่า ตนก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติ ไม่ได้คิดหนี หรืออะไร แต่ว่าในใจทุกครั้งที่เห็นข่าวก็เสียใจกับการกระทำ ถามต่อว่า ทำไมยิงเปิดทางแล้ว ต้องไปยิงคนด้วย นายประสิทธิชัย ตอบว่าตนได้ยิงไปที่ตู้กระจกทอง 2 นัด แต่ไม่คิดว่า ลูกกระสุนจะไปโดนพนักงานหญิง เหมือนกับว่า กระทำไปแล้ว อารมณ์มันหลุดไปแล้ว ก็ต้องเสียใจและขอโทษด้วย
เมื่อถามว่า อยากพูดอะไรถึงผู้ตายและผู้บาดเจ็บ นายประสิทธิชัย กล่าวว่า อยากจะกล่าวคำว่าเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะน้องไทตัล อายุ 2 ขวบ และพนักงาน และทุกคนที่ตนทำให้บาดเจ็บ ตนเสียใจและขอโทษ ส่วนท่อเก็บเสียงนั้น สั่งมาจากเพื่อนรุ่นน้องในอินเตอร์เนต เหตุที่ต้องใช้ก็เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง ไม่ต้องการให้ผู้คนตื่นตระหนก
คิดมอบตัวแต่ติดภารกิจสำคัญ
เมื่อถามว่า หลังเกิดเหตุคิดมอบตัวไหม นายประสิทธิชัย ตอบว่า มีความคิดมอบตัว แต่ไม่ได้ปรึกษากับใคร เป็นการกระทำแต่เพียงผู้เดียว ไม่ได้ปรึกษาใคร หรือคุยกับใคร กะว่าหลังวันที่ 24 มกราคม ตนจะมอบตัว ส่วนที่ต้องเป็นวันที่ 24 มกราคม เนื่องจากตนมีภารกิจที่โรงเรียนอีกชิ้นหนึ่งที่จะต้องทำให้นักเรียน ตอนที่เราไป ถามว่า การยิงปืนนัดแรก ตั้งใจหรือปืนลั่น นายประสิทธิชัย ตอบว่า ตั้งใจยิง เพราะต้องการเปิดทาง เพื่อไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ ลูกกระสุนพอโดน รปภ. แล้ว น่าจะพลาดไปโดนน้องไทตัล
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำของกลางที่ตรวจยึดได้รวม 13 รายการ อาทิ รถจักรยานยนต์ฟีโน่ เสื้อ-กางเกง หมวกอำพรางใบหน้า เศษรองเท้าที่สวมใส่ในวันเกิดซึ่งซึ่งคนร้ายได้นำไปเผาทิ้งหลังโรงเรียน มาประกอบการแถลง ส่วนตัวนายประสิทธิชัย ยังคงถูกคุมขังอยู่กองปราบ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ระหว่างการแถลงข่าว โดยมี ผบ.ตร. เป็นผู้ซักถามคำถาม นายประสิทธิชัย ได้บอก ผบ.ตร.ว่า ขออนุญาตตอบคำถามเพียงแค่นี้ จากนั้นก็ได้ตัดสายทิ้ง และมีผู้เปรบออกมาว่า “อ้าว ตัดสายทิ้งไปแล้ว” ส่งผลให้ ผู้สื่อข่าวต่างอยู่ในอาการงงกันไปตามๆ กัน จากนั้น ผู้ดำเนินรายการของ สตช. ก็ได้ให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. เป็นผู้แถลงข่าวต่อไป
เผย7ข้อหาหนัก-ผู้ต้องหารับแค่3
พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้กล่าวยืนยันว่า หลักฐานที่ตำรวจนำไปสู่การออกหมายจับ ไม่ใช่เหงื่อนายประสิทธิชัย อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตำรวจยังขอสงวนประเด็น ว่าจะเชื่อคำให้การผู้ต้องหาหรือไม่ เพราะผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ อย่าไปยึดถือ ตอนนี้ฟันธงเรื่องการประสงค์ต่อทรัพย์ ขณะเดียวกันก็ไม่พบประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิต และยังไม่มีหลักฐานมีคนอื่นร่วมกระทำผิดประกอบ แต่ตำรวจก็มีวิธีการพิสูจน์ทราบ ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังขาดลำกล้องปืนและกระสุน ซึ่งกำลังเร่งรวบรวมมาตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้ง 7 ข้อหา ได้แก่ 1.ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น 2.ฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ 3.พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น 4.ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 5.ยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชน,พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุสมควร6.มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้และ7.มียุทธภัณฑ์ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหารับสารภาพเฉพาะในข้อหา “ฆ่าผู้อื่น,ชิงทรัพย์ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน” เท่านั้น
“จักรทิพย์”ยันไม่เคยจับแพะ
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงกรณีที่สังคมตั้งคำถามว่า เป็นการจับแพะหรือไม่ ว่า ตนขอเรียนว่า ตนไม่ใช่กรมปศุสัตว์ ไม่เคยจับแพะจับแกะ ตนเป็นตำรวจ จับแต่โจรผู้ร้ายดูแลประชาชน ที่ผ่านมาคดีใหญ่ๆ ก็จับแต่ของจริง วันนี้คดีเสร็จสิ้นแล้ว ที่ผ่านมาได้รับกำลังใจจากนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ท่านถามตลอด ตนก็รายงานตลอด คดีนี้ทุ่มสรรพกำลังทุกอย่าง เพื่อให้ได้ตัวคน้รายเร็วที่สุด เพื่อต้องการเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชน สำหรับตัวผู้ต้องหาที่เป็นถึงผู้อำนวยการ ก็ไม่เหนือความคาดหมายมาก ไมได้ตัดประเด็นทิ้งตั้งแต่แรก แต่เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า ตำรวจ ทหาร ไม่น่าจะยิง
คอร์ทมาเเชลคุมเข้มรับตัวฝากขัง
ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามได้ควบคุมตัว นายประสิทธิชัย มายื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกเป็นเวลา 12วัน ตั้งเเต่วันที่ 23 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ โดยมี นายชนุดม ปิติฤกษ์ เลขานุการศาลอาญา พร้อมด้วยกองกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล(Court Marshal)20 นายพร้อมอาวุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน มารักษาความปลอดภัยตรวจความเรียบร้อยรอรับควบคุมตัวผู้ต้องหา โดยระหว่างที่ควบคุมตัวมาผู้ต้องหาสวมหมวกพร้อมผ้าปิดปาก โดยระหว่างที่ถูกควบคุมตัวมีคนตะโกนว่า ขอให้โดนประหารชีวิต
สำนึกผิด-พร้อมรับโทษประหาร
จากนั้น เวลา 16.30 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ ควบคุมตัวนายประสิทธิชัย เข้ามาคุมขังในเรือนจำเป็นวันแรก โดย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า หลังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รับตัวผู้ต้องหาตามกระบวนการราชทัณฑ์ ก็ได้นำตัวไปตรวจร่างกายพบว่าเจ้าตัวมีไข้เล็กน้อย และนอกจากแผลผ่าตัดที่หัวเข่าโดยรวมก็แข็งแรงดี ประเมินสภาพจิตใจแล้ว พบว่าเป็นปกติไม่มีวี่แววว่าจะฆ่าตัวตาย แต่จากการพูดคุย เจ้าตัวก็สำนึกผิด ยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงปืนใส่น้องไทตัล ทั้งยังระบุว่าพร้อมรับโทษทุกสถาน ไม่ว่าจะประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต จากนี้ก็จะนำตัวเข้าแดนแรกรับ ห้อง 11 ซึ่งมีแต่ผู้สูงวัยเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ นายประสิทธิชัยไม่ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ซึ่งหลังจากนี้เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทางเรือนจำจะให้นายประสิทธิชัย ทำบันทึกแสดงความจำนง เพื่อเปิดให้ญาติมิตรใกล้ชิดไม่เกิน 10 คน เข้าเยี่ยมในเวลาราชการต่อไป
พบทองของกลางซุกบ้านพ่อแม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการจับกุมนายประสิทธิชัย ตำรวจได้สอบสวนขยายผลเพื่อติดตามหาของกลางต่างๆ ที่ผู้ต้องหาได้กระจายทิ้งไว้ตามแต่ละจุด โดยพบเสื้อผ้าและกางเกงที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ภายในซอยโยธาธิการลพบุรี ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรี และพบทองของกลางซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณใต้หลังคารถบ้านบ้านพ่อและแม่ของผู้ต้องหา ในพื้นที่ จ.ลพบุรี ไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้ต้องหาอ้างว่าได้นำทองไปทิ้งในแม่น้ำน้อย ใต้สะพานบางระจัน อ.เมือง จ.สระบุรี แต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี