บุรีรัมย์ ยังสาหัสประกาศภัยแล้งเพิ่มอีก 2 อำเภอรวมเป็น 8 อำเภอ ผู้ว่าฯตั้งศูนย์รับมือทั้ง 23 อำเภอพร้อมระดมหน่วยงานแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน โดยแจกไปแล้วกว่า 4 ล้านลิตร ขณะที่กรมชลฯขอความร่วมมือเกษตรกรงดสูบน้ำจากแม่น้ำน่านไปใช้ทำการเกษตร หวั่นกระทบน้ำอุปโภคบริโภคขาดแคลน วอนประชาชนช่วยประหยัด เพื่อให้มีน้ำใช้จนหมดแล้ง
เมื่อวันที่ 24 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งที่ จ.บุรีรัมย์ ยังขยายวงกว้างต่อเนื่องล่าสุดได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติภัยแล้งกรณีฉุกเฉินเพิ่มอีก2อำเภอคืออ.เมืองบุรีรัมย์ และอ.เฉลิมพระเกียรติ จากที่ก่อนหน้านี้ประกาศไปแล้ว 6อำเภอคืออ.พลับพลาชัย อ.ประโคนชัย อ.โนนดินแดง อ.ละหานทราย อ.หนองหงส์ และอ.นางรองรวมขณะนี้ประกาศไปแล้ว8อำเภอ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 47 ตำบล 488 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 31,000ครัวเรือน นาข้าวเสียหายกว่า 35,000 ไร่
หลังประกาศเขตให้การช่วยเหลือหลายหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนำน้ำสะอาดไปแจกชาวบ้านรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัยไปแล้วกว่า 4ล้านลิตร พร้อมระดมเครื่องสูบน้ำเข้าไปสูบผันน้ำไปเติมสระกลางหมู่บ้าน เพื่อใช้ผลิตประปาหมู่บ้านแล้วกว่า 3,500,000 ลิตรพร้อมเป่าล้างบ่อบาดาลที่อุดตันใน 5อำเภอ 180 หมู่บ้าน รวม 236บ่อ เพื่อให้ใช้การได้มีประสิทธิภาพ
นายสัญญ์ธวัชร์ ริ้วเหลือง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.บุรีรัมย์เผยว่า ขณะนี้จังหวัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ภัยแล้งระดับจังหวัด และทั้ง23อำเภอเพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเร่งด่วน พร้อมวางแผนแก้ปัญหาระยะยาวไปด้วย
ด้านนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวถึงปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในส่วน โครงการชลประทานอุตรดิตถ์ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำคลองตรอนบริเวณด้านท้ายอ่างเก็บน้ำคลองตรอน ต.น้ำไคร้ อ.น้ำปาด และในต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์โดยรับฟังปัญหาจากชุมชนและร่วมหาแนวทางแก้ปัญหาโดยชี้แจงสถานการณ์น้ำปัจจุบัน แผนบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้งปี2562/63พร้อมประชาสัมพันธ์ ชี้แจงเกษตรกรในพื้นที่งดสูบน้ำจากแหล่งน้ำน่านไปใช้เพาะปลูก ด้วยมาตรการบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้งตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้พื้นที่รับรู้ว่าปีนี้มีน้ำน้อย ถ้าทำนาต่อเนื่องอาจเสียหาย และขอความร่วมมืองดเพาะปลูกพืชฤดูแล้งถ้าไม่มีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง ตลอดจนเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขภาคการเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ (Chief of Operation) ครั้งที่ 4/2563 เพื่อชี้แจงสถานการณ์ดังกล่าว
นายทวีศักดิ์กล่าวว่าจากการติดตามสถานการณ์เพาะปลูกข้าวนาปรังในเขตชลประทาน พื้นที่ส่งน้ำของฝายคลองตรอน ต.น้ำไคร้ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ พบมีการเพาะปลูกข้าวนาปรัง 150ไร่ คิดเป็น 1% ของพื้นที่ทั้งหมดโดยใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและสระเก็บน้ำในพื้นที่ของเกษตรกรเองทั้งหมด เพราะกรมฯไม่สามารถจัดสรรน้ำให้ได้ทั้งนี้ทางกรมชลประทานยืนยันจะบริหารจัดการน้ำได้ตามแผนบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้งปี2562/63และจำเป็นต้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับเกษตรกรเพื่อขอความร่วมมือจากเกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศ ให้ร่วมกันปฏิบัติตามแนวทางที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปตามแผนทำให้มีน้ำใช้ไปจนถึงช่วงต้นฤดูฝนหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี