เรตติ้งศรัทธาตำรวจพุ่ง
หลังจับผอ.กอล์ฟฆ่า3ศพ
โพลชู‘ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้’
ไม่มีอะไรที่ ตร.ไทยทำไม่ได้
เชื่อมั่นบิ๊กแป๊ะนั่งเก้าอี้ผบ.ตร.
ซูเปอร์โพล เผยประชาชนเชื่อมั่น “บิ๊กแป๊ะ” เพิ่มขึ้นเกือบเต็ม 100 หลังตำรวจจับ “ผอ.กอล์ฟ”โจรเหี้ยมปล้นร้านทอง ยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 ศพ ที่ จ.ลพบุรีส่วนบรรยากาศที่บ้าน “น้องกวาง” หนึ่งในเหยื่อกระสุนเป็นไปอย่างโศกเศร้า ขณะที่ “วิษณุ” แจงคำสั่งโยกย้าย 2 รองผบ.ตร.เป็นเรื่องภายในสตช. ส่วนกรณี “บิ๊กโจ๊ก” แค่คำสั่งเตือน-ปราบ ยังไม่มีลงโทษ
เมื่อวันที่ 25 มกราคม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ความคิดเห็นต่อผลงานตำรวจ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศต่อกรณีตำรวจสามารถจับคนร้ายปล้นชิงทอง ที่ร้านทองออโรร่า ภายในห้างโรบินสัน อ.เมืองลพบุรี จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 1,062 คน ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระหว่าง วันที่ 23-24 มกราคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา
ความเชื่อมั่นในตัวบิ๊กแป๊ะพุ่งพรวด
ผลการสำรจพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.5 ทราบข่าวตำรวจจับคนร้ายปล้นร้านทอง ลพบุรีได้ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.9 ของคนที่ทราบข่าวมีความสุข พอใจ ที่ตำรวจรวบตัวคนร้ายได้ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ระบุคำคมตำรวจที่เป็นจริงคือ ร้อยละ 82.6 ระบุ ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ และร้อยละ 81.3 ระบุ หลับเถิดปวงประชา ตำรวจกล้าจะคุ้มภัย
ที่น่าสนใจคือ ผลเปรียบเทียบความเชื่อมั่นของประชาชนต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ระหว่างก่อนและหลังจับคนร้ายปล้นชิงทอง ที่ จ.ลพบุรี พบว่า ความเชื่อมั่นของประชาชนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 91.0 ในช่วงก่อนจับคนร้าย มาอยู่ที่ร้อยละ 97.4 ในช่วงหลังจับคนร้ายได้
บรรยากาศบ้าน“น้องกวาง”สุดเศร้า
สำหรับความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกปล้นร้านทองออโรร่า ภายในห้างโรบินสัน อ.เมืองลพบุรี โดยใช้อาวุธปืนยิงใส่ประชาชนและพนักงานร้านทอง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ศพ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุม นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าว ได้แล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 108 หมู่ที่ 4 ต.กกโก อ.เมือง จ.ลพบุรีซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ หรือกวาง อายุ 31 ปี พนักงานร้านทองออโรร่า หนึ่งในผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิต เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีที่แม่ครัวที่มาช่วยงานศพน้องกวางและได้บอกว่า นายประสิทธิชัย ผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาร่วมงานศพในคืนที่ 2 พร้อมมอบเงิน 2,000 บาท ก่อนที่จะรีบเดินทางกลับ โดยได้พบกับคุณแม่ของน้องกวางและพี่ชายและน้องออก้าลูกของน้องกวางส่วน ร.อ.สุรกิต พ่อน้องกวางออกไปทำธุระนอกบ้าน โดยทุกคนยังอยู่ในอาการเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนน้องออก้าลูกของน้องกวางก็วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ แบบไร้เดียงสา
เชื่อหลักฐานต้องสมบูรณ์ที่สุดก่อนฟ้อง
ทางด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ตอนนี้กรมราชทัณฑ์ได้รับฝากขังนายประสิทธิชัย เพื่อรอการส่งฟ้องต่อศาลสามารถฝากขังได้ 7 ครั้งๆละ 12 วัน หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บหลักฐานประกอบสำนวนจนน่าพอใจแล้วสามารถนำตัวส่งฟ้องได้เลย ตนเคยเห็นคดีที่จำเลยรับสารภาพพร้อมของกลางและหลักฐานต่างๆเร็วสุด 2 สัปดาห์ก็มีบทลงโทษติดคุกทันที แต่ว่าไม่มีบ่อยครั้งนักที่จะมีการเร่งรัดแบบนั้น เพราะว่ากระบวนการยุติธรรมหากมีการเร่งรัดมากเกินไปอาจจะมีความผิดพลาดได้ จะทำให้เกิดความเสียหาย ตนเข้าใจว่ากระบวนการยุติธรรมคงต้องหาหลักฐานทุกอย่างให้สมบูรณ์ที่สุดก่อน
เมื่อถามว่าสังคมอยากให้คดีนี้ไม่มีการลดโทษ เพราะเป็นการกระทำที่รุนแรงมาก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ระเบียบหรือกฎหมายใหม่ยังออกไม่เสร็จ เพราะการออกกฎหมายต้องใช้เวลาตามกระบวน
การอย่างกฎหมายยกเลิกพืชกระท่อมจากยาเสพติด ขนาดไม่มีคนค้านแต่ยังต้องใช้เวลาหลายเดือนตามขั้นตอนในการออกกฎหมาย ดังนั้น จึงอยู่ที่ข้อหาที่อัยการส่งฟ้องและอยู่ที่การตัดสินของศาล
“วิษณุ”แจงคำสั่งย้าย2รองผบ.ตร.
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผบ.ตร.ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.)ว่า คำสั่งในส่วนของ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เป็นเรื่องภายในของสตช.เป็นการใช้อำนาจของ ผบ.ตร. เรื่องของความเหมาะสม โดยไม่ได้มีการสอบสวนอะไร ส่วนของพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.เป็นคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ให้ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นการมาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว โดยมีระยะเวลาไม่นาน เพื่อให้สะดวกต่อการสอบสวนที่มีอยู่ขณะนี้ เว้นแต่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ตรงนี้เป็นการอาศัยพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการ จึงเป็นอำนาจของนายกฯพิจารณาไม่ต้องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)และไม่ต้องโปรดเกล้าฯ และยังไม่พ้นจากตำแหน่ง ถือว่าเป็นการมาแค่ตัวแต่ยังรับเงินเดือนที่สังกัดเดิม โดยพล.ต.อ.วิระชัย รับทราบคำสั่งแล้ว
ชี้กรณี”บิ๊กโจ๊ก”แค่คำสั่งเตือน
นายวิษณุ กล่าวว่า คำสั่งนายกรัฐมนตรีกำชับให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการนั้น เป็นการเตือนและปราบไว้ก่อน เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนแต่ยังไม่ชัดเจนมากพอ และถ้ามีการร้องเรียนที่ชัดเจนเป็นหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสอบสวน ดังนั้นคำสั่งจึงเป็นการเตือนและปราบไว้ก่อนเท่านั้น ไม่ได้มีการลงโทษอะไร และเจ้าตัวรับทราบแล้ว ซึ่งต้องระวังอย่าทำผิดวินัย การที่คำสั่งต้องระบุอะไรหลายอย่างเพราะมีเรื่องร้องเรียนที่เข้าข่ายจึงต้องเตือนให้รู้ตัว ทั้งนี้ มีคำถามอีกว่าทำไมถึงไม่เตือนที่เจ้าตัว ทำไมต้องออกเป็นคำสั่ง เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจที่อ้างตามกฎหมายและต้องการส่งสัญญาณไปถึงหลายคน
ในอดีตก็เคยมีคำสั่งเตือนลักษณะนี้
“เพื่อให้รับทราบเอาไว้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีการเตือนในลักษณะนี้ แต่เป็นระดับอธิบดี ปลัดเตือน จึงไม่ได้รับความสนใจอะไร ไม่เหมือนกรณีนี้เหมือนที่นายกฯเป็นผู้บังคับบัญชาจึงต้องลงมาเซ็นเอง สำหรับการปฎิบัติหน้าที่ของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่มีรถและเงินเดือนประจำตำแหน่ง ไม่มีสิทธิอะไร เมื่อมาอยู่ตรงนี้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายงาน โดยจะลดการมอบหมายลงไประยะหนึ่ง ส่วนจะคืนงานกลับให้หรือไม่ค่อยพิจารณาว่ากันอีกที” นายวิษณุ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี