เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563 มีรายงานข่าวจากชายแดนด้าน จ.เชียงราย แจ้งว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่า ในประเทศจีนได้ส่งผลต่อการติดต่อระหว่าง จ.เชียงราย กับมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ที่มีระยะทางห่างกันทางเรือแม่น้ำโขงประมาณ 264 กิโลเมตร และทางบกผ่านถนนอาร์สามเอ อ.เชียงของ-สปป.ลาว-จีน ระยะทางประมาณ 254 กิโลเมตรแล้ว 

โดยพบว่า กรุ๊ปทัวร์จากชายแดนทางด้าน จ. เชียงราย ไปท่องเที่ยวที่มณฑลยูนนานโดยเฉพาะที่เมืองเชียงรุ่งหรือจิ่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน เมืองคุนหมิง-ต้าลี่ มณฑลยูนนาน ต้องหยุดชะงักลง โดยหลายกรุ๊ปทัวร์ได้มีการยกเลิกการเดินทางกระทันหัน อย่างไรก็ตามในส่วนของการเดินทางและการค้ายังคงเปิดให้มีการดำเนินการตามปกติ แต่พบว่ามีสภาพซบเซาลง

ทางด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ในปัจจุบันด่านชายแดนทุกแห่งยังคงเปิดให้บริการตามปกติตั้งแต่จีนตอนใต้ ใน สปป.ลาว และของประเทศไทยเอง แต่จะมีสภาวะซบเซาเนื่องจากคนจีนจะหยุดงานในช่วงเทศกาลตรุษจีนอยู่แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี อย่างไรก็ตามในส่วนของกรุ๊ปทัวร์นั้น ได้รับผลกระทบโดยมีการยกเลิกทัวร์ที่จะไปเยือนเมืองเชียงรุ่ง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา หรือที่คุนหมิงไปหลายคณะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองต่างๆ ดังกล่าวมีการปิดให้บริการหมดเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนา แต่ในส่วนของการค้าชายแดนยังคงดำเนินไปตามปกติ โดยที่ด่านพรมแดนเมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ติดต่อกับเมืองโมฮาน มณฑลยูนนาน บนถนนอาร์สามเอยังคงเปิด แต่มีการเข้มงวดการเข้าออก

แหล่งข่าวชายแดนระบุว่า ที่ผ่านมามีการพบผู้ติดเชื้อในเขตมณฑลยูนนาน ทั้งที่เมืองคุนหมิงและเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยมีทั้งผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่จีนยังควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ โดยไม่ถึงขั้นต้องปิดเมือง แต่ให้ปิดสถานที่ท่องเที่ยวที่จะมีผู้คนไปเยือนจำนวนมากทุกแห่งจึงส่งผลกระทบต่อกรุ๊ปทัวร์จากประเทศไทยดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับบรรยากาศที่ด่านพรมแดนสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน พบว่ามีความซบเซาเช่นกัน แม้ว่าฝั่งตรงกันข้ามแม่น้ำโขงกับประเทศไทย จะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะเกาะดอนซาวและส่วนหนึ่งเป็นบ่อนคาสิโน พบว่ามีคนไทยที่ข้ามไปทำงานต่างทะยอยเดินทางกลับมายังประเทศไทย เนื่องจากมีชาวจีนอยู่อาศัยภายในเป็นจำนวนมาก 

ขณะที่ทางการ สปป.ลาว ได้ส่งกำลังเข้าไปดูบริเวณบริเวณท่าเรือบนเกาะดอนซาว เพื่อดูแลการเข้าออกเขตดังกล่าว รวมทั้งไม่อนุญาตให้เรือท่องเที่ยวจากฝั่งไทยเข้าไปเทียบท่าด้วย ทำให้การท่องเที่ยวบริเวณสามเหลี่ยมทองคำหยุดชะงักชั่วคราว แต่ยังคงเปิดให้ผู้ที่อยู่ภายในเดินทางออกมายังฝั่งไทยตรงจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำได้ แต่จะเข้มงวดในกรณีเดินทางขาเข้าไปยัง สปป.ลาว ดังกล่าว 

นอกจากนี้พบว่าที่ท่าเรือเกาะดอนซาว ซึ่งเป็นตลาดท่องเที่ยวสำคัญของเขตดังกล่าว ซึ่งตามปกติอนุญาตให้นักท่องเที่ยวไปเยือนโดยไม่ต้องทำเอกสารผ่านแดนใดๆ พบว่าไม่อนุญาตให้เรือเข้าเทียบท่าตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.2563 เป็นต้นไปโดยยังไม่กำหนด ทำให้เรือท่องเที่ยวที่เคยนำนักท่องเที่ยวจากฝั่งไทยไปเยือนต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบ ว่าสามารถนั่งเรือแล่นไปมาได้เท่านั้นและไม่สามารถแวะขึ้นฝั่งลาวได้เหมือนเดิมด้วย