คำถาม ผมใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในไร่นาของผมครับ จึงอยากขอทราบความรู้เรื่องนี้ อย่างละเอียดหน่อยครับ
นายสวน ครอบครอง
อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
คำตอบ
ปุ๋ยอินทรีย์เกิดจากการย่อยสลายของบรรดาอินทรียวัตถุทางชีวเคมีโดยจุลินทรีย์มีธาตุอาหารต่างๆ ที่พืชต้องการส่วนประกอบหลักของปุ๋ยประเภทนี้มาจากสิ่งที่ได้จากธรรมชาติ เช่น ของเสียจากโรงงานบางประเภท มูลสัตว์บางประเภท เช่น มูลวัว มูลควาย มูลไก่ มูลค้างคาวและได้จากการย่อยสลายจากธรรมชาติ เช่น ซากต้นไม้ใบไม้ จากสารอื่นๆ และแร่ธาตุต่างๆ โดยผ่านกระบวนการบดและเติมจุลินทรีย์ลงไปเพื่อทำการบ่มหมัก กลับกอง แล้วค่อยย่อยสลายกลายมาเป็นปุ๋ยอินทรีย์
แร่ธาตุอาหารของพืชที่มีในปุ๋ยอินทรีย์ประกอบด้วย แร่ธาตุ 13 ชนิด โดยแบ่งตามคุณสมบัติที่พืชต้องการ แบ่งเป็น ธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม ดังนี้
1) ธาตุอาหารหลัก ได้แก่ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) โพแตสเซียม (K) หรือเรียกสั้นๆว่า NPK คือสารอาหารสำหรับพืชมีความต้องการมากและมีอยู่ในดินน้อย
2) ธาตุอาหารรอง ได้แก่ แคลเซียม(C) กำมะถัน(S) แมกนีเซียม(Mg) เป็นสารอาหารสำหรับพืชที่สำคัญรองลงมา
3) ธาตุอาหารเสริมได้แก่ เหล็ก (Fe) โบรอน (B) แมงกานีส (Mn) ทองแดง (Cu) โมลิบดินัม (Mo)คลอรีน (Cl) สังกะสี (Zn) เป็นแร่ธาตุอาหารเสริมที่พืชต้องการในปริมาณไม่มากนักแต่ขาดไม่ได้เหมือนกัน
ประโยชน์ของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มีดังนี้
1) ปุ๋ยอินทรีย์ มีธาตุอาหารครบถ้วน ทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม ซึ่งในปุ๋ยเคมีอาจจะไม่ได้มีครบ ทำให้พืชผลทางการเกษตรเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรง และได้รับธาตุอาหารครบถ้วน
2) ช่วยให้ดินมีสภาพเป็นกลาง ส่งผลดีในระยะยาว ส่วนการใช้ปุ๋ยเคมี จะทำให้ดินมีสภาพเป็นกรดส่งผลให้เกิดการทำลายแร่ธาตุในดิน และละลายธาตุที่ไม่พึงประสงค์บางตัวในดินออกมา เช่น อะลูมิเนียมส่งผลให้พืชแคระแกร็น เกิดโรคง่าย ได้ผลผลิตไม่เต็มที่ในระยะยาว
3) ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์พร้อมแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่างๆ ให้กับดิน และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในธรรมชาติ ส่งผลให้สิ่งเหล่านี้ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
4) ทำให้ดินร่วนซุย มีโครงสร้างโปร่ง อุ้มน้ำและธาตุอาหารได้ดี เหมาะกับการทำเกษตรในทุกๆ รูปแบบ และไม่เกิดสารตกค้างต่างๆ ภายในดินพร้อมกันนี้ยังค่อยๆ ปล่อยธาตุอาหารที่เป็นคุณประโยชน์ให้กับตัวดินอย่างช้าๆ
5) ปุ๋ยอินทรีย์ ทำให้พืชผลต่างๆ ที่เติบโตขึ้นมาปลอดภัยจากสารเคมี และไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค จึงเหมาะสมกับการเกษตรแบบอินทรีย์ ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
6) ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุต่างๆ ในดินให้กลายเป็นอาหารของพืชโดยพืชสามารถดูดซึมสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไปใช้งานได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากเกินเหมือนการใช้ปุ๋ยเคมี
7) ลดการพังทลายของหน้าดิน เนื่องจากมีแร่ธาตุต่างๆ อยู่เยอะ เวลามีน้ำหลากพัดผ่านมาหน้าดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ จะไม่โดนพัดไปหมด
8) ช่วยบำบัดน้ำเสีย กลิ่นเหม็น เศษขยะจากโรงงานปศุสัตว์ ประมง ชุมชน รวมถึงโรงงานต่างๆ ได้ดี โดยสิ่งปฏิกูลทั้งหลาย จะถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งผลไปถึงชั้นบรรยากาศที่ทำให้อากาศบริสุทธิ์ทำให้พืชผลต่างๆ ที่เติบโตขึ้นมา ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ในอนาคตเมื่อบริโภคเข้าไปได้
การทำเกษตรกรรมให้ได้ผลดี มิใช่เพียงใช้ปุ๋ยอินทรีย์เท่านั้น ปุ๋ยอินทรีย์ มีผลดีต่างๆ มากก็ตาม แต่เราเองก็ยังปฏิเสธการใช้ปุ๋ยเคมีไม่ได้ ในทางหลักวิชาการและผลวิจัยในหลายๆ ส่วนแล้ว พบว่า ยังจำเป็นที่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์จึงจะได้ผลดีที่สุด
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี