กทม.ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนแก้ปัญหาฝุ่นแบ่งเป็น 4 ระยะ ด้านอธิบดีกรมอุตุฯเผย 28 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ มวลอากาศเย็นลมแรงช่วยพัดฝุ่นพิษเจือจางลดความเข้มข้น ด้านทบ.จับมือปภ.ส่ง ฮ.2 ลำบินปฎิบัติการลดฝุ่นควันไฟป่าภาคเหนือ ขณะที่ไฟป่าดอยเต่า จ.เชียงใหม่ยังไม่ดับ ส่งผลให้หมอกควันฝุ่นพุ่งระดับสีแดง วัด PM 2.5 สูงถึง 476 มคก.
เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และพ.ต.อ.เกียรติพงษ์ นาวา รองผู้บังคับการตำรวจจราจร ร่วมแถลงผลประชุมหารือแนวทางแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในกทม.ว่า วันที่ 31 มกราคม จะประชุมกันอีกครั้ง ก่อนที่พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะประกาศแผนปฏิบัติการรับมือฝุ่น ซึ่งแบ่งการทำงานเป็น 4 ระยะ ได้แก่
ระยะแรก ค่าฝุ่นต่ำกว่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ทุกหน่วยงานจะปฏิบัติตามมาตรการ ซึ่งในส่วนของกรุงเทพมหานคร ยังฉีดล้างทำความสะอาดถนน ฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศและต้นไม้ต่อเนื่อง ระยะที่ 2 ค่าฝุ่น 51-75 มคก./ลบ.ม. จะยกระดับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น ระยะที่ 3 ค่าฝุ่น 76-100 มคก./ลบ.ม. ผู้ว่าฯกทม.จะประกาศแผนปฏิบัติการรับมือฝุ่นงเป็นทางการ โดยแผนปฏิบัติการรับมือฝุ่นเบื้องต้นได้แก่ การควบคุมรถยนต์ ควบคุมโรงงาน ควบคุมการเผาไหม้ และควบคุมการก่อสร้าง รวมทั้งจัดทำแผนปิดการเรียนการสอนร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และแจกหน้ากากอนามัย พร้อมประชาสัมพันธืรณรงค์ให้ประชาชนดูแลตัวเองเมื่อค่าฝุ่นถึงขั้นวิกฤต และระยะที่ 4 ค่าฝุ่นเกิน 100 มคก./ลบ.ม. ขึ้นไป นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้สั่งการ
ด้านนาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า วันที่ 28 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ มวลอากาศเย็นจากจีนที่แผ่ลงมาจะพัดเข้าปกคลุมภาคตะวันออก รวมทั้งอ่าวไทย ทำให้เกิดลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดผ่านเข้ามา จึงมีลมพัดแรงในช่วงดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้ฝุ่นละอองในกรุงเทพฯดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าฝุ่นจะหายไปอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีมาตรการแก้ปัญหาในระยะยาว เพื่อให้ฝุ่นลดลงอย่งยั่งยืน
ขณะที่ พ.ต.อ.เกียรติพงษ์ นาวา รองผู้บังคับการตำรวจจราจร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจจราจรร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กรมขนส่งทางบก และกทม.ตั้งด่านตรวจจับควันดำ 33 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อลดค่าฝุ่น PM 2.5 ทั้งนี้ จากการตั้งจุดตรวจจับรถควันดำ ตั้งแต่ปี 2562 สามารถตรวจจับรถควันดำเกินมาตรฐานได้รวม 140,000 ราย ส่วนปี 2563 เฉพาะเดือนมกราคมตรวจจับได้แล้วประมาณ 1 หมื่นราย
วันเดียวกัน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่นขณะนี้ทุกภาคส่วนร่วมป้องกันแก้ไข โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ปัญหาฝุ่น เร่งป้องกันและลดผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ให้เป็นรูปธรรม เน้นระดมเครื่องมือสาธารณภัย รวมถึงเฮลิคอปเตอร์จากทุกหน่วยงานบูรณาการตามแผนปฏิบัติการให้ทันสถานการณ์ขณะนี้ โดยเฉพาะในภาคเหนือ กองทัพบกโดยกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ได้ติดตามแก้ไขสถานการณ์ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ การรณรงค์ ซึ่งขณะนี้สภาพอากาศในจ.ลำปาง น่าน แพร่ พะเยาและตากเริ่มมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง
รองโฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่า กองทัพบกร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทยนำเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 2 ลำ ซึ่งอยู่ระหว่างฝึกบินควบคุมไฟป่าประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 27-31 มกราคม สนับสนุนปฏิบัติการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน รวมถึงลดฝุ่นในภาคเหนือด้วย โดยจะปฎิบัติการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าว เดินทางถึงกองบิน 41 จ.เชียงใหม่แล้ว ทั้งนี้ การส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เป็นไปตามโครงการความร่วมมือระหว่างกองทัพบกและปภ. โดยจะจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันสัปดาห์นี้
ขณะที่สถานการณ์หมอกควันไฟป่าในจ.เชียงใหม่ ยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่อ.ดอยเต่า อ.ฮอด และ อ.จอมทอง ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 26 มกราคม เกิดไฟป่าบนดอยสูง ติดกับวัดพระธาตุดอยเกิ้ง ต.ท่าเดื่อ อ.ดอยเต่า เป็นแนวยาวไปตามสันเขาลุกลามเข้าไปในเขตวัด ทำให้เช้าวันนี้ เวลา 08.00 น. ค่าฝุ่น PM2.5 รายชั่วโมง บริเวณ อบต.บงตัน อ.ดอยเต่า สูงถึง 476 มคก./ลบ.ม.สูงสุดใน จ.เชียงใหม่ วัดได้ 330 มคก./ลบ.ม.ในพื้นที่อบต.บ้านแอ่น และ 178 มคก./ลบ.ม.ในพื้นที่ต.ท่าเดื่อ ส่วนพื้นที่ 9 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน มีไฟป่าเกิดขึ้นมากถึง 700 จุด สูงสุดที่จ.ตาก 241 จุด ลำปาง 140 จุด เชียงใหม่ 97 จุด แพร่ 81 จุด น่าน 65 จุด ลำพูน 60 จุด
ส่วนสภาพอากาศใน จ.น่าน ท้องฟ้าขมุกขมัว มีหมอกควันไฟปกคลุมพื้นที่ทั้งในเขตตัวเมืองน่านและรอบนอกหลายพื้นที่ จากการเผาเศษวัสดุการเกษตรในไร่นา ส่งผลค่าเฉลี่ยฝุ่นอยู่ในระดับวิกฤต สีแดง เกินมาตรฐาน ซึ่งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่สำนักงานเทศบาลเมืองน่าน วัดค่า PM 2.5 ได้ 95 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนที่ออกทำกิจกรรมกลางแจ้งมีอาการแสบตา คันตามผิวหนัง หายใจไม่สะดวก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี