เร่งหาแหล่งน้ำสำรอง
ช่วยอีสานพ้นภัยแล้ง
บุรีรัมย์ไม่มีประปาใช้
ปชช.แห่ขอขุดบาดาล
รมว.เกษตรฯห่วงอีสานแล้งจัด โดยเฉพาะบุรีรัมย์ ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 8 อำเภอ ขาดน้ำผลิตประปา เร่งผันจากแหล่งน้ำสำรองเติมอ่างจระเข้มาก-ห้วยตลาด อ่างฯหลักที่ปัจจุบันแห้งขอด พร้อมเร่งแจกน้ำบรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่ชาวบ้านหลายอำเภอแห่ยื่นขอเจาะบาดาลที่ ทสจ.จังหวัดมากถึง 170 บ่อ
เมื่อวันที่ 27 มกราคม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์ภัยแล้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งปีที่ผ่านมาฝนตกต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย น้ำในอ่างเก็บน้ำมีน้อย โดยเฉพาะจ.บุรีรัมย์ได้รับรายงานว่ามีแนวโน้มไม่เพียงพอสนับสนุนน้ำเพื่อผลิตประปา จึงสั่งการให้นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน หาแนวทางสำรองน้ำเพิ่มเติม เพื่อพอใช้ตลอดฤดูแล้งนี้จนถึงต้นฤดูฝนปีหน้าด้วย
ทั้งนี้ โครงการชลประทานบุรีรัมย์รายงานว่า ปริมาณน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากและอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดมีน้ำรวมกันประมาณ 2.028 ล้าน ลบ.ม. จากการประชุมร่วมกัน เพื่อพิจารณาสถานการณ์น้ำในเขต จ.บุรีรัมย์ระหว่างสำนักชลประทานที่ 8 และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เขต 8 คาดว่าจะรองรับการผลิตประปาได้ถึงวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมาได้แก้ไขโดยสูบน้ำที่สถานีลำปลายมาศ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา เข้าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากและอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด แต่ยังไม่เพียงพอ จึงมีแผนจะผันจากอ่างเก็บน้ำลำจังหันและอ่างเก็บน้ำลำปะเทีย เทศบาลตำบลประโคนชัย อ. ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งสามารถใช้ได้อีก 1 เดือน
จากแนวทางการจัดหาน้ำเพิ่มเติมดังกล่าว ทำให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้ได้ถึงประมาณวันที่ 30 พฤษภาคม จากนั้นจะใช้น้ำจากระบบผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) คาดว่าจะเสร็จประมาณวันที่ 7 พฤษภาคม อีกทั้ง ประสานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรทำฝนหลวงในเขตพื้นที่รับน้ำของอ่างฯ ห้วยจระเข้มาก เพื่อเพิ่มน้ำในอ่างมากที่สุด
ด้านนายทองเปลวกล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งในเขตสำนักงานชลประทานที่ 8 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ จ. นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษว่า ล่าสุดกระทรวงมหาดไทยประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย ภัยแล้ง 2 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน นครราชสีมา 8 อำเภอ ได้แก่ โนนสูง จักราช ปักธงชัย เทพารักษ์ โนนไทย แก้งสนามนาง และสีคิ้ว ส่วนบุรีรัมย์ 8 อำเภอ ได้แก่ พลับพลาไชย ประโคนชัย โนนดินแดง หนองหงส์ ละหานทราย นางรอง และเฉลิมพระเกียรติ สำหรับ จ.สุรินท์มีปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่ออุปโภคบริโภคในนอกเขตชลประทาน จึงร่วมกับเทศบาล ต.กังแอน อ.ปราสาท ผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยตาลวกมายังอ่างเก็บน้ำสุวรรณภา รวม 918,240 ลบ.ม. เพื่อช่วยเหลือ 2,625 ครัวเรือนใน 8 หมู่บ้าน ส่วนจ.ศรีสะเกษ ส่งรถบรรทุกน้ำและเครื่องสูบน้ำเข้าช่วยเหลือพื้นที่นอกเขตชลประทานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งในจ.บุรีรัมย์ขณะนี้ขยายวงกว้างต่อเนื่อง จังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว 8 อำเภอ ราษฎรเดือดร้อนกว่า 31,000 ครัวเรือน เนื่องจากภาวะฝนทิ้งช่วงแหล่งกักเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ และสระกลางหมู่บ้านตื้นเขิน แห้งขอด ไม่มีน้ำผลิตประปาบริการประชาชนได้ ล่าสุดประชาชนและเกษตรกรหลายอำเภอได้ยื่นขออนุญาตขุดเจาะบ่อบาดาล ที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ มากถึง 170 บ่อ เพื่อดึงน้ำใต้ดินไปใช้อุปโภคในครัวเรือน และปลูกพืชผักสวนครัว หรือพืชอายุสั้นไว้บริโภคและขายเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัวช่วงหน้าแล้ง
นอกจากชาวบ้าน และเกษตรกรจะยื่นขออนุญาตขุดเจาะบ่อบาดาลสำหรับใช้ในครัวเรือนแล้ว ในปี 2563 จ.บุรีรัมย์ได้รับงบประมาณ เป็นงบกองทุนเฉพาะกิจ จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเพื่อดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล 57 บ่อ และงบฉุกเฉินของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อีก 89 บ่อ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่ในการดำเนินการขุดเจาะ
นางจันทร์เพ็ญ เจริญชันษา รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ช่วงนี้ได้มีประชาชนมายื่นขออนุญาตขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อใช้ในครัวเรือนและปลูกผักมากถึง 170 บ่อ เนื่องจากหลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.บุรีรัมย์ และกรมทรัพยากรน้ำภาค 5 ได้ขุดเจาะบ่อบาบาลในพื้นที่หมู่บ้านต่างๆ กระจายทั่วทั้งจังหวัดแล้ว 4,754 บ่อ และปี 2563 ก็ได้รับงบประมาณขุดเจาะบ่อบาดาลเพิ่มอีก 146 บ่อ ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบสภาพพื้นที่
เช่นเดียวกับ ที่ จ.พิจิตร สถานการณ์ภัยแล้ง ในพื้นที่ยังส่งผลกระทบขยายวงกว้างต่อเนื่อง หลังชลประทานงดจ่ายน้ำทำให้น้ำในคลองชลประทาน แหล่งน้ำแห่งเดียวที่ใช้ดูแลต้นส้มโอแห้งขอดจนไม่มีน้ำเหลือเพียงพอนำขึ้นมาใช้ทำเกษตรได้ โดยเฉพาะสวนส้มโอ ต.เมืองเก่า อ.เมืองพิจิตรแหล่งปลูกส้มโอพันธุ์พื้นเมืองแหล่งใหญ่ของจังหวั ต้นส้มโอใบเหี่ยวเฉา ผลส้มโอที่ใกล้เก็บผลผลิต ที่มีลักษณะลูกเป็นสีเหลือง หลุดร่วงจำนวนมาก สร้างความเสียหายเกษตรกรขาดรายได้จากการเก็บผลส้มโอเพื่อจำหน่าย เนื่องจากขาดน้ำ เป็นเวลานาน อาจทำให้ต้นส้มโออายุกว่า 10 ปี จะยืนต้นตายจากภัยแล้ง
ขณะที่เกษตรกรสวนส้มโอ บางส่วน ในพื้นที่ตำบลดงกลาง อำเภอเมืองพิจิตร ต้องลงทุนกว่า 50,000 บาท เจาะบ่อบาดาล โดยว่าจ้างผู้รับเหมาเพื่อเจาะบ่อบาดาลในส้มโอที่เริ่มออกลูกจำนวนกว่า 5 ไร่ เพื่อนำน้ำขึ้นมาเลี้ยงต้นโอให้มีผลผลิตสมบูรณ์ หลังจากที่สถานการณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบกับชาวสวนส้มแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งจนหมดและ น้ำในคลองชลประทาน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักแห้งขอดจนไม่มีน้ำ ส่งผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอแหล่งใหญ่ของจังหวัดพิจิตร ขาดน้ำต้นทุนในการสูบเลี้ยงส้มโอที่กำลังออกผลใกล้เก็บเกี่ยว เกษตรกรจึงต้องลงทุนว่าจ้างผู้รับเหมาทำการเจอะบ่อบาดาล สำหรับสวนส้มโอ ของเกษตรการชาวสวนส้มโอในพื้นที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตส้มโอสำคัญของจังหวัดพิจิตร ทั้งส้มโอท่าข่อยซึ่งเป็น ส้มโอพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดพิจิตร และส้มโอขาวแตงกวาที่มีเนื้อที่มากกว่า 2,000 ไร่ โดย เกษตรกรนิยมปลูกกันจำนวนมาก
วันเดียวกัน พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก ประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯมอบหมายให้นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามโครงการแก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมเยี่ยมพบปะให้กำลังใจประชาชนที่เดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำ รวมทั้งให้กำลังใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ พลเรือน และประชาชนจิตอาสาที่รร.บ้านหนองแสง ต.ห้วยเตย อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม
ทั้งนี้ นายประสานได้รับฟังแนวทางตามโครงการจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม ของพื้นที่อีสานจาก มทภ.2 และโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งของ จ.มหาสารคามจนถึงระดับท้องถิ่น ที่สำคัญได้แก่ การติดตั้งระบบสูบน้ำพลังแสงอาทิตย์ เพื่อการเกษตรโครงการไทยนิยมยั่งยืนปี 2561 (เพิ่มเติม)ของ อบจ.มหาสารคาม 103 ระบบ นอกจากนี้ ยังได้เห็นความพร้อมของจังหวัด จากความร่วมมือของภาครัฐและประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม มีการใช้เทคโนโลยี 4.0 มาช่วยบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ที่ได้ผลน่าพอใจ และอยากให้นำการบูรณาการแก้ปัญหาภัยแล้งที่มหาสารคามเป็นโมเดลแก้ปัญหา ถือเป็นการบูรณาการนวัตกรรมใหม่ มาแก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังแจ้งให้ประชาชนทราบและมั่นใจว่าคนอีสานจะไม่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี