ดร.กฤช สินธนะกุล
เทรนด์โลกในปัจจุบัน ที่ต้องจับตามองซึ่งจะส่งผลต่อตลาดแรงงานในอนาคตทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มาจากเทคโนโลยีอินเตอร์เนตความเร็วสูงปัญญาประดิษฐ์ (AI) การใช้ Big data และ Cloud ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ จากรายงานของ World Economic Forum (WEF) คาดว่าภายในปี 2565 สัดส่วนการทำงานร่วมกันของมนุษย์และเครื่องจักรหรือระบบอัลกอริทึม จะอยู่ที่มนุษย์ 58% เครื่องจักร 42% ซึ่งชี้ให้เห็นว่า โลกการทำงานต้องการคนทำงานที่มีทักษะชุดใหม่โดยเฉพาะทักษะที่เกี่ยวข้องกับการสร้างนวัตกรรมและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี โดยทักษะด้านการโค้ดดิ้งจัดเป็น 1 ใน 10 ที่ต้องการสูงสุดระดับประเทศและระดับโลก
ดังนั้นทักษะด้านไอทีและดิจิทัลจึงมีส่วนสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้กับระบบการทำงานเพื่อการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจ ความต้องการบุคลากรด้านไอทีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นอาชีพที่ขาดแคลนในตลาดแรงงานอย่างมากโดยคาดว่า ในปี 2566 ทั่วโลกจะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนบุคลากรไอทีกว่า 2 ล้านตำแหน่ง อีกทั้งการทรานฟอร์มองค์กรเป็นสิ่งที่หลายหน่วยงานกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือทักษะของบุคคลในองค์กรที่จำเป็นต้องถูกพัฒนาให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ของสังคมโลก
กลุ่มบริษัทซีดีจี ผู้ให้บริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร แก่องค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ผู้ก่อตั้งโครงการ CDG Code Their Dreams ร่วมมือกับ ภาควิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการจัดทำโครงการ “CDG Code Their Dreams : Public Training” หลักสูตรการสอนทักษะการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และการประยุกต์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ โดยจะถ่ายทอดการเรียนการสอนด้านโค้ดดิ้ง และทักษะด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์อื่นๆ ให้กับนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และบุคคลทั่วไป เน้นการพัฒนาการเรียนรู้ด้านภาษาคอมพิวเตอร์และเตรียมความพร้อมเชิงดิจิทัล เพื่อนำไปใช้ในการเรียนการสอนและปูความพร้อมแก่นักศึกษาสามารถนำไปใช้ในการทำงานได้จริงรองรับความต้องการของตลาดในอนาคต
นายฐิติพงศ์ ธรรมวิสุทธิ์ นักศึกษาปริญญาโท หนึ่งในวิทยากรโครงการ CDG Code Their Dreams: Public Training เปิดมุมมองในฐานะผู้ถ่ายทอดการเรียนการสอนโค้ดดิ้งว่า คนยุคใหม่ต้องรู้จักใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มศักยภาพการทำงานยิ่งเครื่องจักรพัฒนาเร็วเท่าไหร่ เรายิ่งต้องปรับตัวให้เร็วขึ้นเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดในการปรับตัวคือ การเปลี่ยนมุมมองของเราที่มีต่อระบบอัตโนมัติ จากที่เคยมองว่าเครื่องจักรเป็นภัยคุกคามและจะเข้ามาแทนที่มนุษย์ เป็นการมองว่า ระบบอัตโนมัติเป็นเครื่องมือ หรือสิ่งที่เข้ามาช่วยสนับสนุนต่อยอดงานเรา รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ โดยการเรียนโค้ดดิ้งในโครงการ CDG Code Their Dreams: Public Training ในครั้งนี้ คือได้หลักการคิดอย่างเป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งนำไปสู่การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ จากการทำ workshop ไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจการป้อนคำสั่งด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ การเขียนโค้ดที่ถูกต้อง และการสร้างผลงานด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ เช่น Scratch หรือ Thunkable ถือเป็นตัวฝึกฝนที่ดีสำหรับผู้เรียนหลักสูตรนี้
ผช.ศ.ดร.กฤช สินธนะกุล หัวหน้าภาควิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม กล่าวว่า วัตถุประสงค์โครงการมุ่งเน้นปูพื้นฐานด้านโคดดิ้ง หรือการเขียนภาษาคอมพิวเตอร์ โดยจะถ่ายทอดการเรียนการสอนด้านโค้ดดิ้ง ให้กับนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และบุคคลทั่วไป โดยมีเป้าหมายให้ผู้ที่รับความรู้ สามารถนำไปถ่ายทอดต่อในการเรียนสอน รวมทั้งปูความพร้อมแก่นักศึกษาเพื่อนำไปใช้ในการทำงานได้จริง อาทิ โปรแกรม Scratch, หุ่นยนต์ถอดประกอบ mBot, โปรแกรม Thunkable สำหรับสร้าง application, สติ๊กเกอร์ Line และในปีนี้จะมีภาษาคอมพิวเตอร์ Python, วิธีการทำ Motion Graphic, วิธีการประดิษฐ์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้อินเตอร์เนตในการทำงาน IoT Smart Building เพิ่มเติมจากของปีที่แล้ว ในปี 2563 นี้ เราตั้งเป้ารวม 30 คอร์ส โดยจุดเด่นของหลักสูตรคือรูปแบบการเรียนการสอน ที่เข้าใจง่าย เป็นขั้นเป็นตอน มีกิจกรรมที่สามารถสร้างความเข้าใจ ทำตาม และเห็นผลจริง ประยุกต์ใช้ได้ สามารถถ่ายทอดต่อได้ โดยในปีที่ผ่านมา โครงการได้สร้างครู อาจารย์ รวมถึงบุคลากรด้านโค้ดดิ้งเพิ่มมากกว่า 200 คน และคาดว่าในปีนี้จะมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการอีกกว่า 1,000 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี