หน่วยบัญชาการทหารพัฒนากองทัพไทย เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้งทุกพื้นที่ เดินหน้าเจาะบ่อน้ำบาดาลเหนือ-อีสาน-ใต้ แจกน้ำพื้นที่แล้งฉุกเฉิน 20 จังหวัดล้านกว่าลิตร ขุดลอกลำน้ำยมสุโขทัย-พิษณุโลก เป็นแหล่งทุนผลิตน้ำประปาหมู่บ้าน จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติ
เมื่อวันที่ 31 มกราคม พล.ต.กฤษณ์ จันทรนิยม ผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผอ.สสน.นทพ.) กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศไทยขณะนี้ว่า กองบัญชาการกองทัพไทยตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงมอบหมายให้ นทพ. จัดทำแผนรองรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทุกจังหวัด ซึ่งที่ผ่านมาดำเนินการตามแผนงานประจำปีในการจัดหาแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตร รักษาและพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุน รวมถึงแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในพื้นที่ประกาศภัยแล้งฉุกเฉินและในพื้นที่ที่ได้รับการร้องขอ
พล.ต.กฤษณ์ กล่าวว่า เมื่อมีการจัดตั้งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ทาง นทพ. ซึ่งได้รับมอบเป้าหมายให้ขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงขาดแคลนน้ำระดับรุนแรงจำนวน 190 แห่ง ขั้นต้นหน่วยได้ขุดเจาะบ่อบาดาลตามที่ได้รับการร้องขอจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนแล้วเสร็จจำนวนทั้งสิ้น 20 บ่อ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จ.ชัยภูมิ จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.มหาสารคาม จ.ขอนแก่น จ.ลำพูน และ จ.ปัตตานี ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้ส่งมอบแผนงานโครงการขุดเจาะบ่อบาดาลเรียบร้อยแล้ว โดยได้แจกจ่ายน้ำในพื้นที่ประกาศภัยแล้งฉุกเฉิน 20 จังหวัด จำนวน 1,255,000 ลิตร อีกทั้งขณะนี้หน่วยได้ดำเนินการขุดลอกลำน้ำยมที่แห้งขอดในพื้นที่ จ.สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้กับประปาหมู่บ้าน และสถานีสูบน้ำเพื่อการเกษตร จำนวน 12 จุด
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนภัยแล้งของ นทพ.ในพื้นที่ได้ทันที กองบัญชาการกองทัพไทยมีความพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้ง และจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดปัญหาการแย่งน้ำขึ้นในพื้นที่ อ.ภูกระดึง หลังจากมีการนำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ มาใช้จนหมดและชาวบ้านมาร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอภูกระดึงเพื่อให้เปิดการระบายน้ำที่บ้านแสนสุข ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึงซึ่งใช้น้ำจากน้ำพอง และมีชาวบ้านในหลายหมู่บ้านบริเวณนั้น มากั้นแล้วมีการแย่งน้ำเกิดขึ้นนายอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบและสามารถแก้ปัญหาและหาทางออกจนสำเร็จ
นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง กล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ที่บริเวณต้นน้ำพอง บริเวณบ้านแสนสุขที่อยู่ในพื้นที่ อ.ภูกระดึง จ.เลย ซึ่งบริเวณนั้น เป็นต้นพองหลังอุทยานแห่งชาติภูกระดึง มีความยาวของน้ำน้ำพองกว่า 25 กิโลเมตร แต่ระยะหลังน้ำในแม่พองแห้งขอด ไม่มีน้ำมาใช้ได้จึงลงไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณลำน้ำพอง จึงได้ประสานไปยัง นายไพทูลย์ นวลสวาท นายกองค์การบริหารส่วนตำบลภูกระดึง เจ้าของพื้นที่ นำแบคโฮดลองขุดหลุมขนาดเล็ก ในแม่น้ำพอง ปรากฏว่ามีน้ำไหลออกมา และผุดมาใหม่เรื่อยๆ จากนั้น จึงได้ขยายผลโดยการขุดเป็นจุดๆ จำนวน 40 จุด เพื่อช่วยชาวบ้านทำเกษตรแปลงยาสูบกว่า 1,000 ไร่ที่บ้าน นางยางใต้นายางเหนือ บ้านแสนสุข และอีกกว่า 4-5 หมู่บ้านได้ใช้น้ำในการปลูกพืช
วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามผลการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ณ ที่ว่าการอำเภอลาดบัวหลวง อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อจากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดปฏิบัติการผลักดันน้ำในคลองพระยา บรรลือ และจุดปฏิบัติงานขุดลอกสันดอนคลองพระยาบรรลือ เพื่อให้การผันน้ำจากแม่น้ำแม่กลอง มาช่วยผลักดันค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา เสริมน้ำอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรม ชลประทานร่วมกับการประปานครหลวง (กปน.) เพิ่มการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลอง สนับสนุนการผลักดันน้ำเค็มใน แม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์ และวางแผนจัดสรรน้ำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำด้านอุปโภค บริโภค และที่สำคัญ ขอให้ทุกหน่วยงาน บูรณาการการทำงานร่วมกัน ภายใต้การขับเคลื่อนของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี