วันที่ 31 ก.พ63 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ในพื้นที่ จ.เชียงราย พบว่าศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีการระบาดฯ ยังคงตั้งจุดคัดกรองตามจุดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ จ.เชียงราย โดยเฉพาะชาวจีน โดยพบว่าตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีผู้เดินทางจากประเทศจีนผ่านท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงฯ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย แล้วจำนวน 9,645 คน ด่านพรมแดน อ.เชียงของ ไทย-สปป.ลาว จำนวน 985 คน และด่านพรมแดน อ.เชียงแสน ไทย-สปป.ลาว จำนวน 4,854 คน และด่านพรมแดน อ.แม่สาย ชายแดนไทย-เมียนมา จำนวน 1,640 คน รวมทั้งหมดจำนวน 17,124 คน ซึ่งที่ผ่านมามีการพบผู้ต้องส่งสัยเป็นเด็กหญิงจีนวัย 4 ขวบที่มาจากเมืองกว่างโจวเพียงคนเดียวและได้รับการยืนยันว่าไม่พบเชื้อ และยังไม่พบผู้ต้องสงสัยรายใหม่ แต่นักท่องเที่ยวชาวจีนก็ลดน้อยลงตามมาตรการปิดด่านที่เข้มงวดของทางการจีน
ทั้งนี้ ด้านด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงกันข้าม อ.แม่สาย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมียนมา ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวเมียนมา ตรวจสุขภาพประชาชนชาวเมียนมา และนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางผ่านพรมแดนท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปประจำการร่วมกับด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในการตรวจบุคคลเข้าออกชายแดนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากฝั่งไทย
ขณะที่ชายแดนเมียนมา-จีน พบว่าที่เขตปกครองตนเองชาวไตรุ่ยลี่ ซึ่งติดกับเมืองมูเซ ประเทศเมียนมา ได้มีการปิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดทั้งโรงแรม สถานบันเทิง ฯลฯ และงดการจัดแสดงทุกชนิด ส่วนที่บริเวณด่านพรมแดนก็ตรวจสอบการเข้าออกเมืองอย่างเข้มงวดโดยไม่อนุญาตให้คนจากต่างถิ่นเดินเข้าไปยังรุ่ยลี่ และขอความร่วมมือให้ผู้คนนอกพื้นที่ที่ตกค้างอยู่ภายในเมืองให้เดินทางกลับออกมาทั้งหมดแล้วด้วย
ทางด้านการค้าชายแดนของ จ.เชียงราย พบว่าทางการเมียนมาได้เข้มงวดจุดจอดเรือตามเมืองท่าในแม่น้ำโขงทุกจุดทั้งที่ท่าเรือบ้านโป่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ห่างจาก อ.เชียงแสน ไปทางทิศเหนือประมาณ 17 กิโลเมตร เมืองท่าสบโหลยในเขตปกครองพิเศษที่ 4 ห่างจาก อ.เชียงแสน ไปทางทิศเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร ส่วนจุดการค้าระหว่างเมียนมา-จีน ก็ถูกปิดไปหลายแห่ง เช่น ด่านต้าล่อของเมืองลา ฯลฯ และตามเมืองท่าก็ไม่อนุญาตให้ชาวจีนที่มีความเสี่ยงขึ้นฝั่งด้วย เช่นเดียวกับท่าเรือในเขตเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว โดยเฉพาะเขตเศรษฐพิจพิเศษสามเหลี่ยมคำตรงกันข้าม อ.เชียงแสน ก็ปิดตัวไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเดินทางเช้าไปเช่นกัน ส่งผลให้เรือสินค้าจีนจำนวนมากต่างจอดเรียงรายริมฝั่งตามเมืองท่าต่างๆโดยไม่มีการขนส่งสินค้าใดๆ ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจชะงัก
ขณะที่ด่านพรมแดนจีน-สปป.ลาว ที่เมืองบ่อหาน มณฑลยูนนาน ติดต่อกับเมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทาห่างจาก อ.เชียงของ ไปทางทิศเหนือบนถนนอาร์สามเอประมาณ 254 กิโลเมตร พบว่าทางการจีนไม่อนุญาตให้บุคคลนอกเดินทางผ่านด่านและมีการเข้มงวดเรื่องการตรวจโรคอย่างหนัก โดยมาตรการดังกล่าวปฏิบัติมาตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้รถบรรทุกสินค้าของไทยประเภทผลไม้ เช่นมังคุด ฯลฯ พากันไปจอดตกค้างอยู่ที่ด่านเมืองบ่อเต็นมาแล้วหลายวัน อย่างไรก็ตามล่าสุดในวันนี้มีรายงานว่าได้มีรถบรรทุกและคนงานจากประเทศจีนเข้ามารับสินค้าดังกล่าวในฝั่งเมืองบ่อเต็นแล้วจากนั้นได้ขนส่งสินค้าที่คงค้าเข้าไปในประเทศจีนได้สำเร็จ
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย ถือว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะไม่สามารถส่งสินค้าไปตามด่านต่างๆ ของจีนได้ทั้งๆ ที่ตลาดในประเทศจีนเองมีความต้องการสินค้าโดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารจากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ส่วนด้านท่องเที่ยวทางเรือในแม่น้ำโขงต้องหยุดสนิทเพราะภาวะการเฝ้าระวังโรคดังกล่าว จึงเป็นโจทย์ที่ว่าทางรัฐบาลจะพิจารณาหาวิธีการผ่อนเบาวิกฤตินี้ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างไรต่อไป ในส่วนของการค้าไทย-เมียนมา และไทย-สปป.ลาว ยังคงดำเนินไปตามปกติ
ด้าน ดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากการสอบถามไปยังผู้ประกอบการค้าชายแดนที่ติดต่อกับค้าขายกับประเทศจีนมานานทราบว่าตั้งแต่มีปัญหาเรื่องไวรัสดังกล่าวทำให้การส่งออกสินค้าเกิดภาวะหยุดชะงัก สถานการณ์คือทางการจีนไม่ได้มีการปิดด่านพรมแดนโดยทุกด่านยังคงสามารถส่งสินค้าเข้าไปได้แต่เนื่องจากถนนภายในมณฑลยูนนาน เช่น ทางไปนครคุนหมิงซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑล ฯลฯ มีการตั้งจุดตรวจหรือปิดซึ่งบุคคลภายนอกไม่อาจจะทราบได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะขนสินค้าผ่านด่านพรมแดนเข้าไปในประเทศจีนได้โดยตรงทำให้รถบรรทุกสินค้าอาจไปรอกันที่ด่านเมืองบ่อเต็นจนรถบรรทุกสินค้าจีนเข้ามารับไปดังกล่าวซึ่งภาวะการณ์เช่นนี้คงต้องรอต่อไปจนกว่าจะเบาบางลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี