เปิดปมสังหาร‘กำนันหญิง’หนองคาย ตร.เร่งออกหมายจับ ล่ามือปืน
2 กุมภาพันธ์ 2563 มีความคืบหน้าเหตุคนร้ายบุกยิงนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี หรือ “กำนันเตี้ย” กำนันตำบลผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เสียชีวิต (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แฉปมมือปืนบุกยิงหัว'กำนันหญิง'นักพัฒนาคนดังหนองคายดับคาบ้านพัก) เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 , พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 ลงพื้นที่ สภ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อติดตามความคืบหน้าการตามล่าตัวคนร้าย
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นคดีอุฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับข้าราชการการเมืองท้องถิ่น หลังเกิดเหตุได้กำชับให้ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 ลงมาช่วยตำรวจในท้องที่เร่งล่าตัวคนร้าย และได้แบ่งคณะทำงานติดตามอย่างครอบคลุม ขณะนี้มีเป้าหมายของคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะจะส่งผลกระทบกับรูปคดี ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน ถ้าได้พยานหลักฐานที่แน่ชัดจะได้เตรียมอนุมัติศาลออกหมายจับทันที
“สำหรับชนวนเหตุปมสังหารกำนันหญิงนั้น เบื้องต้นให้น้ำหนักไปที่ข้อพิพาทการเจรจาเปิดทางสัญจรให้ชาวบ้านกับเจ้าของที่ดินครอบครองสิทธิ์ สปก. ที่ผู้ตายเป็นตัวแทนช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนมาเจรจากับเจ้าของที่ดิน ซึ่งเป็นคนกรุงเทพฯ มาหาซื้อที่ดินทำสวนยางพารา แล้วปิดทางเข้าออกของชาวบ้านหลายรายที่เคยใช้เส้นทางผ่านที่ดินของเจ้าของรายนี้มาเป็นเวลานาน แต่ปัจจุบันกลับผ่านไม่ได้ จนเกิดเป็นปัญหาตามมา และอีกประเด็นคือเงินกฐินวัดถ้ำศรีมงคล หรือวัดถ้ำดินเพียง ตั้งแต่เมื่อปี 2559 ซึ่งเงินหายไป 85,000 บาท ขณะนี้ตำรวจได้ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว” ผบช.ภ.4 กล่าว
ต่อมาช่วงบ่ายของวันนี้ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ นำคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจญาติของนางกรรณิการ์ที่บ้านพัก โดยมีนายพิเดช วงค์ศิริ สามีของกำนันหญิงที่ถูกยิงโหด พร้อมญาติพี่น้องและชาวบ้านให้การต้อนรับ โดย ผบช.ภ.4 ได้พูดคุยและให้กำลังใจ พร้อมบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อน
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวภายหลังการเยี่ยมให้กำลังใจ ว่า วันนี้ตนและรอง ผบช.ภ.4 พร้อมทีมงานชุดสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 4 ได้ลงพื้นที่ โดยมีการประชุมร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อเร่งรัดติดตามคดีที่กำนันหญิงถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้มีประเด็นให้ติดตามอยู่ 3-4 ประเด็นที่ผู้ตายเข้าไปมีความขัดแย้ง ซึ่งผู้ตายเป็นกำนันที่ตรงไปตรงมา รักษาผลประโยชน์ต่างๆให้กับชาวบ้าน ทำให้มีข้อพิพาทตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามตีวงให้แคบลง
“ส่วนการเร่งรัดติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษนั้น ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานก่อน เนื่องจากเหตุเพิ่งจะเกิดเมื่อวานนี้(1 กุมภาพันธ์ 2563) คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้ ประเด็นก็คงจะแคบลงมา จะพยายามทำให้เร็วที่สุด มีความรอบคอบรัดกุมมากที่สุด” ผบช.ภ.4 กล่าว
วันเดียวกัน นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้เดินทางไปยังบ้านของนางกรรณิการ์ ที่ ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เพื่อดูจุดเกิดเหตุ โดยได้พูดคุยสอบถามเหตุการณ์จากลูกสาวของผู้ตายและญาติ จากนั้นได้มอบเงินช่วยเหลือให้จำนวนหนึ่งเป็นเงินค่าช่วยงานศพ ซึ่งญาติได้จัดเตรียมสถานที่ตั้งเต็นท์เตรียมจัดงานศพให้กับ “กำนันเตี้ย” จากนั้นนายเอกธนัช อินทร์รอด ส.ส.เขต 3 จ.หนองคาย ได้เดินทางมามอบพวงหรีดแสดงความเสียใจกับครอบครัว
ขณะที่ชาวบ้านต่างนั่งจับกลุ่มสนทนาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีอาการโศกเศร้าเสียใจอย่างเห็นได้ชัดที่สูญเสียผู้นำท้องถิ่นคนดีที่ชาวบ้านรักไปอย่างไม่มีวันกลับ อยากให้ตำตรวจติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุอุกอาจมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ด้านนายพิเดช วงค์ศิริ สามีของกำนันเตี้ย กล่าวว่า ขณะนี้แม้ทางตำรวจจะยังจับคนร้ายไม่ได้ แต่ตนก็ทำตัวตามสบาย ไม่ได้ระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลความปลอดภัย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตนตกใจและเสียใจมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้โดยเร็ว ตนอยากรู้ว่าเป็นใคร ทำไมต้องทำรุนแรงกันถึงขนาดนี้ อยากให้ลงโทษถึงขั้นประหารชีวิต และอยากให้มาขอขมาต่อหน้าศพด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี