ฝุ่นพิษกทม.พุ่ง
ผู้ว่าฯสั่งหยุดก่อสร้าง3วัน
ลดปัญหาช่วงอากาศปิด
เชียงใหม่-โคราชยังวิกฤติ
กรุงเทพฯฝุ่น PM2.5 กลับมาอีกครั้งพุ่งเกินมาตรฐานต่อเนื่อง กระทบต่อสุขภาพ“ผู้ว่าฯอัศวิน”มีคำสั่งหยุดก่อสร้าง 3 วัน 4-6 กุมภาพันธ์ หวังลดฝุ่นช่วงอากาศปิดส่วนสถานการณ์ต่างจังหวัดยังหนักในภาคเหนือ เชียงใหม่ ส่วนโคราช ยังมีฝ่าฝืนเผาอ้อย “เฉลิมชัย”สั่งด่วนจัดชุดปฏิบัติการรณรงค์ หยุดเผาประจำพื้นที่เสี่ยง ออกตรวจ ป้องปราม ระงับ ยับยั้ง พร้อมให้ความรู้การใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุทางการเกษตร ทดแทนการเผา
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส ยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-13 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีกำลังอ่อนลง ทำให้มีการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ คุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลอยู่ในระดับ เกินมาตรฐานมีผลกระทบต่อสุขภาพอีกครั้ง หลังจากปัญหาดังกล่าวหายไป 1 สัปดาห์
กทม.ฝุ่นพุ่งเกินมาตรฐานต่อเนื่อง
ขณะที่ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศกรุงเทพมหานคร กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 เวลา10.00-12.00 น. เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ตรวจวัดได้ 53-85 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และยังคงมีค่าเกินมาตรฐาน จำนวน 34 เขต
ได้แก่ เขตราชเทวี เขตสัมพันธวงศ์ เขตพญาไท เขตวังทองหลาง เขตปทุมวัน เขตบางรัก เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตจตุจักร เขตบางกะปิ เขตลาดกระบัง เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตบางเขน เขตบางพลัด เขตบางขุนเทียน เขตพระนคร เขตสาทร เขตคลองเตย เขตบางซื่อ เขตหลักสี่ เขตสวนหลวง เขตลาดพร้าว เขตห้วยขวาง เขตสะพานสูง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตบางแค เขตจอมทอง เขตดอนเมือง เขตดินแดง เขตพระโขนง เขตราษฎร์บูรณะ
ผู้ว่าฯ กทม.สั่งหยุดก่อสร้าง3วัน
ขณะที่ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร(กทม.)ถึงมาตรการรับมือฝุ่น PM2.5ว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ผู้ว่ากทม.)ได้มีคำสั่งหยุดการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 3วัน ตั้งแต่วันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2563 เนื่องจากข่วงนี้สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯมีสภาพอากาศปิดอีกครั้งส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เพิ่มขึ้น โดยคำสั่งดังกล่าว มีผลในพื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 7 สาย โครงการก่อสร้างถนน การก่อสร้างอาคารสูง รวมถึงแพนท์ปูน ซึ่งการหยุดก่อสร้าง ซึ่งก่อฝุ่น PM10 จะช่วยลด PM2.5ได้ เนื่องจาก PM10 1อนุภาค จะมี PM2.5 60-70% การลดPM10 จะช่วยลด PM2.5 ได้ส่วนหนึ่ง ทั้งนี้ หากสถานการณ์ดีขึ้น จะมีคำสั่งให้กลับไปก่อสร้างได้
เข้มตรวจรถควันดำ-โรงงาน
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้ประสาน ขสมก.ดำเนินการล้างท่อไอเสียรถประจำทางเริ่มตั้งแต่วันที่ 3ก.พ.เพื่อลดการปล่อย PM2.5 และประสานไปยังกรมโรงงาน ดำเนินการตรวจปล่องปล่อยควันในโรงงานต่างๆ ตรวจวัดค่าPM2.5 เพื่อป้องกันไม่ให้ปล่อย PM2.5 เพิ่มขึ้น ในส่วน กรุงเทพมหานคร ยังคงฉีดล้างถนน ต้นไม้ ในพื้นที่ต่างๆประจำทุกวัน
ด้าน นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เผยว่า หลายพื้นที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยสำนักงานเขตพื้นที่ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ดำเนินมาตรการแก้ไข ใน เบื้องต้นได้แก่ฉีดน้ำล้างถนน ควบคุมสถานที่ก่อสร้าง และฉีดพ่นละอองน้ำบนอาคารสูง อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพมหานคร
สภาพอากาศเชียงใหม่ยังวิกฤติ
ส่วนสถานการณ์ต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือ สภาพท้องฟ้าในตัวเมืองเชียงใหม่มองจากมุมสูงบนจุดชมวิว บนดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ยังขุ่นมัวทัศนวิสัยการมองเห็นระยะไกลยังไม่ชัดเจน นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปชมวิวผิดหวัง แต่คุณภาพอากาศ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มดีขึ้นจากเมื่อวันก่อนโดยที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ บริเวณตำบลศรีภูมิ PM2.5 เช้าวัดค่าได้ 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) ส่วนพื้นที่อำเภอรอบนอก ยังสูงเกินจุดวิกฤติมากกว่า 40สถานี ค่า PM2.5 อยู่ในระดับ 50–196 มคก./ลบ.ม. ช่วงเวลา 08.00 น. ค่า PM2.5 ที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านหลวง อ.พร้าว อยู่ที่ 196 มคก./ลบ.ม. สูงสุดของ จ.เชียงใหม่ มีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่ตำรวจจับมือเผาทั่วเชียงใหม่มาดำเนินคดี ได้ถึง 62 คดี
โคราชฝุ่นยังหนักจากเผาอ้อย
จ.นครราชสีมา อากาศในเขต อ.เมือง สภาพอากาศปกคลุมด้วยฝุ่นละอองและหมอกควัน มองระยะไกลท้องฟ้าสลัวขมุกขมัว เนื่องจากการจราจรบนถนนมิตรภาพ ถนนสายหลักใจกลางเมือง มีรถยนต์สัญจรคับคั่ง ประชาชนเริ่มสวมหน้ากากอนามัยป้องกันมากขึ้น แม้ ทาง จ.นครราชสีมา ประกาศบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ห้ามเกษตรกรเผาในที่โล่งและพื้นที่เกษตร พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 5,000 บาท สำหรับผู้แจ้งเบาะแส แต่พื้นที่รอบนอก ต่างอำเภอ ยังพบเกษตรกรหลายรายฝ่าฝืนลักลอบจุดไฟเผาอ้อย เพื่อเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งโรงงาน ทำให้เกิดกลุ่มควันไฟฟุ้งกระจายเต็มท้องฟ้า แต่ยังไม่มีการจับกุมดำเนินคดี
ที่ จ.ชัยนาท ชาวนาบางคนยังใช้วิธีเผาตอซังในนาข้าว โดยไม่สนคำเตือนของทางราชการทำให้ค่า PM 2.5 ในพื้นที่ จ.ชัยนาท มีค่าเกินกว่าค่ามาตรฐาน แต่ยังไม่สูงจนเกิดอันตราย ทางจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์มลพิษทางอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5ให้หน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ออกปฏิบัติการตรวจค่าควันดำไอเสียรถยนต์ ทั้งรถโดยสารสาธารณะและรถโดยสารส่วนบุคคล พร้อมยังสั่งการให้นายอำเภอทั้ง 8 อำเภอของ จ.ชัยนาท ลงพื้นที่ตรวจสอบการเผาวัสดุทางการเกษตร และการเผาขยะในพื้นที่โล่งแจ้ง หากพบให้ดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด
‘เฉลิมชัย’สั่งหยุดเผาพื้นที่เสี่ยง
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้คณะทำงานป้องกันและเฝ้าระวังการเผาเศษซากพืชหรือวัชพืชและเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่เกษตรซึ่งมีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธานเร่งรณรงค์และให้ความรู้เกษตรกรหยุดเผาเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 ล่าสุด ได้รับรายงานว่ากรมส่งเสริมการเกษตรกจัดชุดปฏิบัติการประจำพื้นที่เสี่ยง โดยปรับแผนเร่งจัดงานรณรงค์ลดการเผาภายในกุมภาพันธ์ 2563 เพื่อให้ทันสถานการณ์เนื่องจากยิ่งเข้าใกล้ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนจะมีการเผาเพื่อเตรียมแปลงกันมาก แนวทางการทำงานนั้นจะประสานกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งให้เกษตรอำเภอร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่จัดชุดปฏิบัติกา ออกตรวจ ป้องปราม ระงับ ยับยั้ง และแจ้งเหตุการณ์เผาในพื้นที่การเกษตร โดยมีเครือข่ายเกษตรกรของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าการเกษตร (ศพก.) ตำบล เป็นหน่วยงานเฝ้าระวัง
สำหรับสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันคือ การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุทางการเกษตรทดแทนการเผาเช่น ไถกลบ ผลิตฟางอัดก้อน ทำปุ๋ยหมัก เป็นต้น ตลอดจนปลุกจิตสำนึกในการไม่เผาเศษวัสดุการเกษตรซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนหากพบการเผาเศษวัสดุในพื้นที่การเกษตรให้แจ้งเหตุไปยังสายด่วนฉุกเฉินกรมบรรเทาสาธารณภัย 1784 สำหรับทุกพื้นที่หรือสายด่วนฉุกเฉินกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 1362 สำหรับพื้นที่ป่าตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี